"ทวี ไกรคุปต์" ขับรถชนอีกแล้ว "เอ๋ ปารีณา" เครียด ห้ามพ่อตลอดแต่ไม่ฟัง

23 มิ.ย. 65

ทวี ไกรคุปต์ ชนแล้วหนี คู่กรณีขับปาดให้หยุด เจ้าตัวไม่ลงจากรถอ้างหวั่นเรื่องความปลอดภัย ตร.มาเคลียร์ 11 ชม. ไม่ได้ข้อยุติ ด้าน เอ๋ ปารีณา โพสต์เครียด เตือนแล้วพ่อไม่ฟัง

วันที่ 23 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของ "เอ๋ ปารีณา" ประสบอุบัติเหตุชนกระบะแล้วขับหนี คู่กรณีขับปาดให้หยุด เจ้าตัวไม่ลงจากรถเรียกตำรวจเคลียร์ โดยตำรวจสอบปากคำนาน 11 ชั่วโมงให้การยาวนาน ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียด โดยตำรวจขอเชิญคู่กรณีมาสอบอีกครั้ง ก่อนส่งฟ้องในชั้นศาลฯ เพื่อหาคนผิดต่อไป

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 22 มิ.ย.65 ร.ต.อ.ธนโชค ชินณะวงศา รองสว.สอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันที่หน้าปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ถนนเพชรเกษมหมู่ 3 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐมจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุฝั่งขาเข้ากทม. เลนที่ 3 โดยพบรถกระบะอีซูซุแคป สีบรอนท์ สภาพมีรองเฉี่ยวชนเล็กน้อยที่ท้ายรถกับด้านหน้ารถแถบซ้าย มีนายอิสรา เลิศผล อายุ 35 ปี คนขับรถกับเพื่อนยืนรอให้การกับตำรวจ

ห่างออกไปพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสันเทียร์น่าสีขาว สภาพรถประตูแถบขวามีรอยเฉี่ยวชน กระจกมองข้างแถบขวาบิดหัก กระจังหน้าแตกร้าว มีชายสูงอายุนั่งอยู่ในรถ ไม่ยอมลงมาเจรจา

โดยเจ้าหน้าที่จึงเดินไปเคาะกระจกพบว่าคนขับขี่คือ นายทวี ไกรคุปต์ อายุ 83 ปี อดีตรมช.พาณิชย์และเป็นบิดาของ เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี โดยนายทวีบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าที่ไม่ยอมลงจากรถเพราะเห็นคู่กรณีเป็นวัยรุ่น 2 คน กลัวจะเกิดอันตรายจึงนั่งอยู่ในรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพในที่เกิดเหตุและให้คู่กรณีเดินทางไปเจราจาที่ สภ.นครชัยศรี เนื่องจากการจราจรเริ่มติดขัด

เมื่อถึง สภ.นครชัยศรี นายอิสราได้เรียกบริษัทประกันมาและเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนกำลังขับรถมาจาก อ.กำแพงแสน กลับบ้านที่เขตหนองแขมมาถึงที่เกิดเหตุ ตนขับมาเลขขวาสุดก็ถูกรถคู่กรณีชนด้านซ้าย ตนจึงบังคับพวงมาลัยเพราะรถเกือบพุ่งขึ้นเกาะกลางถนนและเบรกรถ แต่คู่กรณีกลับขับรถหลบหนี ตนจึงขับติดตามบีบแตรตลอดทางจนมาประมาณ 1 กม. ตนขับเบียดรถขวางด้านหน้ารถคู่กรณีไว้ไม่ให้หนีแต่คนขับไม่ยอมรถมาเจรจา จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ


ด้านนายทวี ไกรคุปต์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากำลังจะขับรถไปที่ศาลาว่าการกทม. มาถึงที่เกิดเหตุก็มีรถกระบะขับตามมาและมาจอดขวางตนเห็นว่ามีวัยรุ่น 2 คนจึงไม่กล้าลงจากรถกลัวจะเกิดอันตราย ส่วนที่ขับรถมาไม่รู้ว่าไปเฉียวชนกับคู่กรณีตอนไหน
ซึ่งระหว่างสอบปากคำนายทวี ทางพ.ต.อ.ณฐพงศ์ มุกดาหาร ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้มาติดตามการสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งตกลงกันไม่ได้และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 7 มาตรวจรถทั้ง 2 คัน

กระทั่งวันนี้การสอบปากคำในกรณีดังกล่าวก็ยังไม่จบ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ นายทวีตั้งแต่เวลา 16.00น. ของเมื่อวานจนถึงเวลา 03.00 น. ของเช้าวันนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอพักในวันนี้ช่วงหนึ่งเพราะทำการสอบปากคำนานกว่า 11 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ยอมรับความผิดจึงต้องนำหลักฐานทั้งหมดมารวบรวมเพื่อสอบปากคำคู่กรณีคือนายอิสราอีกครั้งเพื่อสรุปสำนวนและส่งฟ้องในชั้นศาลต่อไป


โดยนายทวี ไกรคุปต์ มีข่าวเกี่ยวกับการขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นแล้วขับหลบหนีเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.62 ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E300 ชนรถจยย.เด็กอายุ 17 ปีได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดแยกสะพานข้ามคลองชลประทานถนนสายโรงพยาบาลโพธาราม–บ้านฆ้องท้องที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ บุตรสาว ได้โพสต์ข้อความว่า "อยากจะเรียนถามนักกฏหมายเก่งๆว่า ถ้ากรณีอย่างนี้จะทำอย่างไรให้คุณพ่อเลิกขับรถได้บ้างคะ ในเมื่อรถยนต์ก็ไม่ใช่ของเรา และคุณพ่อไม่ยินยอม ไม่ฟังคนในครอบครัว ไม่ฟังใครเลย ทุกข์ใจค่ะ"

ปารีณา ไกรคุปต์

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส