กรณีเพจเฟชบุ๊ก "บึงกาฬบอร์ด" ได้ลงเรื่องราวว่า ศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.อ.พรเจริญ) นำโดย นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอพรเจริญ ร่วมกับ ผู้แทนผู้กำกับ สภ.พรเจริญ สาธารณสุขอำเภอพรเจริญ โรงพยาบาลพรเจริญ ผู้แทนนายก อบต.วังชมภู และผู้นำท้องที่ หมู่ 1 บ้านวังยาว ต.วังชมภู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ลงพื้นที่ตามข้อร้องเรียนติดตามผู้ป่วยสูงอายุ ที่มีอาการหลงลืมซึ่งอาศัยอยู่กับบุตร และถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวปราศจากเสรีภาพไว้นอกบริเวณบ้าน ขังไว้ในคอกวัว เอาลวดหนามล้อมคอก ที่มีสภาพไม่ถูกสุขลักษณะ และมีลักษณะที่ไม่เหมาะสมในการดำรงชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปนั้น
วันที่ 13 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังหมู่ 1 บ้านวังยาว ต.วังชมภู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นบ้านของนางสุมาลี อายุ 77 ปี ยายที่ถูกลูกสาวขังไว้ในคอกวัว
นางรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ลูกสาวของนางสุมาลี ได้พาทีมข่าวไปดูคอกวัว อยู่ห่างจากบ้านของนางรัตน์ ประมาณ 200 เมตร ด้านหลังติดกับป่า ส่วนบริเวณที่นางสุมาลีหลับนอนเป็นบริเวณแคร่ไม้ภายในคอกวัว มีสุ่มไก่อยู่ภายในแคร่ และพบลวดหนามที่นางรัตน์ ใช้กั้นบริเวณเอาไว้ กองอยู่บริเวณนี้อีกด้วย
นางรัตน์ เล่าว่า นางสุมาลีเป็นแม่ของตัวเอง แต่เขาไม่ได้เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เกิด ซึ่งตอนเด็ก ๆ น้าสาวของตัวเอง เป็นคนที่เลี้ยงตัวเองมา ส่วนนางสุมาลีจะอยู่กับลูกสาวอีกคน กระทั่ง 5 ปีที่แล้ว นางสุมาลีได้มีปัญหากับครอบครัวของน้องสาว แล้วจึงย้ายมาอยู่กับตัวเองจนถึงปัจจุบัน
ส่วนที่มีข่าวว่าตัวเองล้อมลวดหนามขังแม่ไว้ในคอกวัวนั้น ตัวเองขอชี้แจงว่าได้ให้นางสุมาลี ผู้เป็นแม่ นอนที่แคร่ภายในคอกวัวจริง ให้นอนมากว่า 3 เดือน สาเหตุที่ให้นางสุมาลีนอนที่บริเวณดังกล่าว เนื่องจากแม่ตัวเองป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และเป็นโรคประสาท ในแต่ละวันตัวเองต้องออกไปกรีดยาง ไปทำงาน จึงไม่มีเวลาดูแลแม่
ถ้าให้แม่นอนในบ้านหลังใหญ่ เขาก็จะไปจุดไฟเล่น อาจทำให้ไฟไหม้บ้านได้ และแม่จะชอบไปเล่นพวกมีดที่อยู่ในบ้านตัวเอง คยเอามีดกรีดข้อมือมาแล้วด้วย หนักสุดแม่ก็เคยเดินหายออกจากบ้าน จนตัวเองต้องออกตามหามาแล้ว จึงเป็นที่มาให้ตัวเองพามานอนที่แคร่ไม้ภายในคอกวัวดังกล่าว
และจุดที่ตัวเองให้แม่นอนนั้น ก็มีที่นอน หมอน มุ้ง ไม่ได้ให้นอนแบบลำบากแต่อย่างใด ส่วนเรื่องประเด็นเอาลวดน้ำมาขังแม่นั้น ตัวเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ลวดหนามตัวเองเอามากั้นพื้นที่ไว้เพื่อไม่ให้วัวที่เลี้ยงไว้ ข้ามฝั่งมาหาจุดที่แม่นอน แล้วตัวเองก็เอาข้าวให้แม่ทานทุกวัน ไม่ได้ปล่อยปะละเลยแต่อย่างใด
ตัวเองอยากให้สังคมเข้าใจความรู้สึกของตัวเองด้วย ถ้าไม่ให้ตัวเองขังแม่ไว้เหมือนเดิม วันข้างหน้าถ้าแม่ตัวเองเดินหายออกไปจากบ้านอีก ก็อย่ามาว่าให้ตัวเองอีกก็แล้วกัน ที่ชาวบ้านหาว่าตัวเองมีบ้านหลังใหญ่ร่ำรวยขนาดนี้ แล้วไม่ให้แม่อาศัยอยู่ด้วยนั้น ตัวเองขอชี้แจงว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านที่สามีทิ้งไว้ให้ก่อนตาย ตัวเองก็มีหนี้สินเหมือนชาวบ้านทั่วไป ไม่ได้เป็นคนร่ำรวย
ด้านนางสุมาลี อายุ 77 ปี ผู้เป็นแม่ วันนี้ได้นอนที่บ้านหลังใหญ่ของลูกสาว ทีมข่าวได้สอบถามว่าก่อนหน้านี้ได้ไปนอนที่คอกวัวจริงไหม เจ้าตัวก็ตอบว่าจริง หลังจากนั้นทีมข่าวได้สอบถามถึงความเป็นอยู่ของสุมาลีว่าลำบากอย่างไรบ้าง นางสุมาลีก็พูดจาวกไปวนมา จับใจความไม่ได้
จากนั้น ทีมข่าวจึงสอบถามนางรัตน์ ลูกสาวว่าบาดแผลที่นางสุมาลีใช้มีดกรีดข้อมือตัวเองอยู่ตรงไหน นางรัตน์จึงชี้แผลที่ข้อมือด้านซ้ายของนางสุมาลีให้ทีมข่าวดู
นายวิลัย แพงสุข อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เล่าว่า สำหรับนางรัตน์มีปัญหาทางครอบครัว เรื่องที่นางสุมาลี ผู้เป็นแม่ และเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ชอบฉี่และอุจจาระเรี่ยราดในบ้าน ทำให้นางรัตน์ได้เอาแม่ไปไว้ในคอกวัว จนชาวบ้านที่เห็นสภาพความเป็นอยู่ของนางสุมาลี นำเรื่องดังกล่าวมาบอกตัวเอง และตัวเองก็ได้ส่งเรื่องถึงนายอำเภอ
และวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา นายอำเภอพรเจริญได้ลงพื้นที่ พานางสุมาลี วัย 77 ปี ออกมาจากแคร่ไม้ภายในคอกวัว ซึ่งวันดังกล่าวตัวเองก็ได้ไปเห็นสภาพความเป็นอยู่ของนางสุมาลี เขาจะถูกขังด้วยไม้ไผ่และลวดหนาม ซึ่งวันที่เอาตัวนางสุมาลีออกมานั้น ตัวเองก็สังเกตุเห็นแผลที่ข้อมือด้านซ้ายของนางสุมาลี เป็นแผลที่เกิดจากลวดหนามอีกด้วย จากการสอบถามนางรัตน์ ผู้เป็นลูกสาว และสอบถามชาวบ้านแถวนั้น ก็ไม่พบประวัติว่านางรัตน์มีพฤติกรรมทำร้ายแม่แต่อย่างใด