ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ 10 ได้พัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น สำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมที่บูท Honda ในงาน
"บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 40" จะได้สัมผัส ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ทั้งรุ่นเทอร์โบและไฮบริดอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็น "อีกขั้นแห่งยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน" ที่พาคุณก้าวข้ามข้อจำกัด ด้วยการท้าทายความเชื่อ และขอบเขตเดิมๆ สู่โลกบทใหม่แห่งยนตรกรรม
ด้วย 2 ขุมพลังขับเคลื่อน เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังมากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย และ ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ระบบ Full Hybrid ที่ทำงานด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร
หายห่วงในทุกการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
อีกทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) ขับขี่สนุกและปลอดภัยทุกเส้นทาง
มาพร้อมดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ผสมผสานเอกลักษณ์ความหรูหราและความสปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัว มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ สีดำ และสีน้ำตาล แต่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าถ้าอยากได้ All-new Honda Accord 2019 จะต้องจองไว้ก่อนนะครับ เพราะว่ารถจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2562 ที่กำลังจะถึงนี้