พบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในไทย! กรณี นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นพ.สสจ.ภูเก็ต และพ.ต.อ.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี ผกก.สภ.กะทู้ ให้ข้อมูลว่า เป็นผู้ป่วยชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 21 ต.ค. 64 พักที่คอนโดฯ ที่ป่าตอง ตั้งแต่ พ.ย. 64 และช่วงที่ป่วยทราบว่าเข้าพักที่คอนโดในพื้นที่กระทู้ ก่อนตรวจพบเป็นฝีดาษลิงและหลบหนีการรักษาโดยแพทย์
ล่าสุด วันที่ 23 ก.ค. 65 ขแมร์ ไทม์ส สื่อยักษ์ใหญ่ของกัมพูชารายงานข่าว นายออสมอนด์ ชิฮาซิริม เอ็นเซเร็ม ชาวไนจีเรีบ วัย 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ที่หลบหนีมาจากประเทศไทย ถูกจับกุมตัวได้แล้วที่กรุงพนมเปญ
รายงานข่าวระบุว่า ออสมอนด์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเฉพาะกิจของกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชารวบตัวได้ ขณะกำลังเดินเล่นด้วยความสบายใจอยู่บริเวณตลาด โดอึม ในเขตจัมการ์มอญ ของกรุงพนมเปญ
ล่าสุด ทางการท้องถิ่นของกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ได้ส่งตัวนายออสมอนด์ ให้กับกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา นำตัวไปควบคุม ก่อนจะดำเนินมาตรการขั้นต่อไป สื่อกัมพูชาคาดว่าทางการกัมพูชากำลังเตรียมพิจารณาส่งตัวนายออสมอนด์คืนให้ทางการไทย และอยู่ระหว่างการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขของไทยต่อไป แต่กัมพูชาอาจกักตัวนายออสมอนด์ไว้ในประเทศ และให้การดูแลผู้ติดเชื้อชาวไนจีเรียรายนี้ตามหลักมนุษยธรรมก่อน อยู่ระหว่างการประสานต่อไป
ทีมข่าวเดินทางมายังโรงแรมในพื้นที่ป่าตอง ที่ทราบว่าผู้ป่วยชาวไนจีเรีย เดินทางมาเข้าพัก นางสาวส้ม (นามสมมติ) ผู้จัดการของโรงแรม บอกกับทีมข่าวว่า ช่วงวันที่ 18 ก.ค. 65 ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ป่วยชายชาวไนจีเรียรูปร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำ บริเวณใบหน้าสังเกตเห็นว่ามีตุ่มหนองคล้ายสิวเต็มไปหมด
ได้มาเช็กอินที่โรงแรมโดยสวมเสื้อผ้ามิดชิดสวม เสื้อแขนยาวใส่หน้ากากอนามัย ตอนนั้นพนักงานของโรงแรมยังไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นผู้ป่วย เพราะยังไม่ทราบข่าว เมื่อเข้ามาพักอาศัยสังเกตว่าชายคนนี้ไม่เดินทางออกไปไหน จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ค. ช่วงเที่ยงแม่บ้านเคาะประตูสอบถาม เพื่อจะทำความสะอาดห้องพัก ชายคนดังกล่าวบอกว่าไม่ต้องเข้ามาทำ แม่บ้านจึงไม่ได้เข้าไปทำความสะอาด จนเวลาประมาณ 20.00 น .ผู้ป่วยเดินทางลงมาจากห้องพัก โดยใช้จังหวะที่เจ้าหน้าที่หน้าฟรอนต์เดินทางไปเข้าห้องน้ำ ผู้ป่วยคนดังกล่าวจึงวางคีย์การ์ดไว้หน้าฟรอนต์ แล้วออกจากโรงแรมไป
จากนั้นทราบข้อมูลจากกล้องพบว่าได้นั่งรถยนต์ HRV สีขาวออกไป จากโรงแรมมุ่งหน้าไปอ.ถลาง หลังจากนั้นทางโรงแรมก็ยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิง กระทั่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจังหวัดเข้ามาตรวจสอบภายในโรงแรม และขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าเป็นผู้ป่วยชาวไนจีเรียหลบหนีจริง
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจังหวัดภูกเก็ตจึง เข้ามาทำความสะอาดฉีดพ่นฆ่าเชื้อ และให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เจ้าของโรงแรม และผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในโรงแรม มีพนักงานโรงแรมเข้าไปทำความสะอาด 1 คน และมีพนักงานหน้าฟรอนต์ 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาเชื้อและตรวจเลือด รอผลตรวจ 1 สัปดาห์ โดยทางโรงแรมได้ให้พนักงานทั้ง 2 คนพักรอดูอาการ
เท่าที่สอบถามพฤติกรรมของชายชาวไนจีเรีย ส่วนตัวคิดว่าผู้ป่วยทราบดีว่าตัวเองป่วย และพยายามป้องกันตัวในเบื้องต้น โดยสวมใส่หน้ากากอนามัย และสวมเสื้อแขนยาวคลุมทั้งตัว ระหว่างวันที่พักก็ไม่ให้พนักงานเข้าไปทำความสะอาดภายในห้องพัก และภายในห้องพักก็ไม่พบขยะ เหมือนว่าชายคนนี้ไม่ได้รับประทานอาหารเลย มีเพียงน้ำดื่มเท่านั้น อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งตามตัวให้ได้โดยเร็วเพราะไม่อยากให้ไปแพร่เชื้อให้กับคนอื่นอีก
ทีมข่าวพูดคุยกับหผู้สัมผัสเสี่ยงสูง นางสาวนวล (นามสมมติ) แม่บ้านทำความสะอาดห้องพักของโรงแรม ใน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โรงแรมแห่งสุดท้ายที่ผู้ป่วยเข้ามาพักแล้วหลบหนี เผยว่าตนทราบข้อมูลว่านักท่องเที่ยวคนนี้เข้ามาพักเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 20.30 น. วันที่ 20 ก.ค. นักท่องเที่ยวยังคงพักอาศัยอยู่ในห้องพัก และไม่มีการออกมาจากห้องพักเลย ตนได้ไปเคาะประตูเรียกเพื่อสอบถามว่าจะให้เข้าไปทำความสะอาดหรือไม่ นักท่องเที่ยวเปิดประตูออกมาแล้วบอกกับตนว่า "No"
ตอนที่ตนเห็นนักท่องเที่ยวคนนี้ผิวสีคล้ำ สวมใส่หน้ากากอนามัยสีดำแล้วก็ในห้องปิดหน้าต่างมืดไปหมด ทำให้ตนไม่ทันได้สังเกตว่าใบหน้าผิวหนังมีตุ่มหนองหรือไม่ วันที่ 21 ก.ค. ทราบว่าชายคนดังกล่าวได้เช็กเอาต์ออกไปแล้ว ช่วงเวลาประมาณ 03.00 น ช่วงเช้าวันที่ 21 ก.ค. ตนจึงเข้าไปทำความสะอาดในห้องพัก ในห้องพักตนไม่ได้สังเกตว่าบนที่นอนมีคราบน้ำเหลืองหรือเลือดหรือไม่โดยได้ใส่หน้ากากอนามัย แต่ไม่ได้ใส่ถุงมือ แล้วเข้าไปหอบผ้าปูที่นอนผ้าห่มหมอนต่าง ๆ ออกจากภายในห้องภายในห้อง พบว่าผู้ป่วยคนนี้ไม่ได้ทิ้งข้าวของระเกะระกะ มีเพียงถุงข้าวที่ใส่ไว้ในถังขยะเท่านั้น ตนก็ได้ใช้มือหยิบถุงขยะ
ทราบข่าววันที่ 22 ก.ค. ว่าห้องที่ตนเองเข้าไปทำความสะอาดเป็นห้องพักของผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงชาวไนจีเรีย รู้สึกตกใจกังวลใจมาก ทำไมผู้ป่วยต้องหนีมาพักที่โรงแรมนี้ด้วย ตนรู้สึกกลัวกังวลมาก เพราะตนก็มีอายุแล้ว แล้วก็มีโรคประจำตัวปกติ ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว หากติดเชื้อไปกลัว ป่วยหนัก กลัวจะนำเชื้อไปแพร่ให้กับครอบครัว และคนอื่น ๆ ทำไมเจ้าหน้าที่ทางโรงพยาบาลไม่กักตัวผู้ป่วยไว้ตั้งแต่แรก หรือทำไมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหรือตำรวจปิดข่าว ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. ทำไมไม่ประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกันตามหา ปล่อยมาจนถึงวันที่ 22 ก.ค. ที่ประชาชนพึ่งทราบข่าวรวมถึงตนเองก็เพิ่งทราบข่าวในวันที่ 22 ก.ค. รู้สึกเสียความรู้สึกกับเรื่องนี้มากเพราะทำมาหากินปกติ ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ได้มาตรวจเลือดตน กับน้องที่เคาน์เตอร์อีก 1 คน ต้องรอผล 1 สัปดาห์และระหว่างนี้ต้องเฝ้าระวังตัวเองอยู่ตลอดว่ามีไข้หรือมีผื่นขึ้นหรือไม่ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับเลย เปิดดูข้อมูลทาง YouTube ตลอดว่าโรคนี้เป็นอย่างไร และต้องสังเกตอาการตัวเองอย่างไร
ล่าสุดทีม ข่าวได้ติดตามไล่กล้องวงจรปิดใหม่ พบรถ HRV สีขาวออกมาจากโรงแรมในพื้นที่ป่าตอง วันที่ 19 ก.ค. ช่วงเวลา 20.00 น. เวลา 20.30 น. รถ HRV สีขาวขับเข้ามาภายในบริเวณโรงแรม มีหญิงไทยรูปร่างท้วม สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นเข้ามาเปิดโรงแรมให้ผู้ป่วย 1 ห้องนอน หลังจากนั้นเดินกลับขึ้นรถไปพักหนึ่ง
เวลา 20.35 น. ผู้ป่วยชายชาวไนจีเรียเดินลงมาจากรถ HRV สีขาว สวมชุดยาวสีดำ คล้ายชุดชาวมุสลิม ถือกระเป๋า 1 ใบ ในวันนั้นผู้ป่วยไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย เดินขึ้นไปยังห้องพักโดยมีหญิงไทย
เวลา 20.40 น. ภาพจากหน้าโรงแรมจับภาพได้เป็นชายชาวต่างชาติรูปร่างท้วมผิวคล้ำ สวมเสื้อคลุมกางเกงวอร์ม เดินลงมาจากรถยนต์ HRV คันสีขาวอีก 1 คน รูปร่างหน้าตาคล้ายกับผู้ป่วย ที่เดินขึ้นโรงแรมไปแล้ว หลังจากนั้นก็กลับขึ้นรถ HRV สีขาวไปพร้อมกับหญิงไทย แล้วขับออกจากโรงแรม ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.