"หนุ่ม ศรราม" แจงดราม่าปะทะชาวเน็ตอ้างเป็นญาติ "กุ้งพลอย" หรือ "ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์" คอมเมนต์หยาบคาย จบที่ดำเนินคดี ส่วนดราม่าเรื่องใหม่อย่าง อุบัติเหตุเครื่องทำขนมที่เกิดขึ้นขณะ "ติ๊ก" อยู่กับลูก เจ้าตัวเผยความรู้สึกว่า
โดยวันนี้ 25 ก.ค. "หนุ่ม ศรราม" เผยว่า "เรื่อง ATK ก็เกิดมา 2 สัปดาห์แล้ว ก็เป็นปกติเวลาที่คุณติ๊กจะมาเจอลูก ก็ต้องส่งผลตรวจ ATK หรืออาจจะมีบุคคลที่สามที่จะมาถ่ายคลิปน้องก็ต้องมีผลตรวจ ATK อยู่แล้ว แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วในเวลาที่นัดกัน เขาไม่ได้มีการส่งผลตรวจมาให้ผม ผมก็เลยยังไม่ให้วีจิไปเจอ เพราะว่าก็อย่างที่เห็นกันว่าช่วงนี้มันกลับมาระบาดแล้วก็ติดกันง่ายอีกครั้ง แล้ววีจิเขาต้องไปเรียนโรงเรียนอนุบาลด้วย เราก็ต้องบอกว่าเราห่วงแค่ลูกเราคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องห่วงความปลอดภัยของลูกๆ ของคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นด้วย ถ้าวีจิติดแล้วไปโรงเรียนแล้วต้องไปติดลูกของคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่น มันก็จะยิ่งไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นก็พยายามกำชับและพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ถี่ถ้วนมากขึ้น"
สำหรับตอนนี้ "หนุ่ม ศรราม" เผยว่า เคลียร์กันจบเรียบร้อยแล้ว "ติ๊ก" เพิ่งไปเจอลูกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
สำหรับคอมเมนต์ที่เข้ามาด่าแล้วอ้างตัวว่าวีจีเป็นหลานของตน ทำเอาคุณพ่ออย่าง "หนุ่ม ศรราม" เดือดสุด ฟาดกลับ งานนี้เจ้าตัวเล่าว่า
"สำหรับคอมเมนต์นี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง คือตอนนั้นผมลง TikTok กับลูก ลงรูปลูกก็มีคนมาคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผมก็สวนกลับไปแล้วก็แคปยูเซอร์ไว้ แล้วผมก็ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายดูว่าผมจะทำยังไงได้บ้างกับคนที่ประพฤติตัวแบบนี้ในโลกโซเชียล และพอผมโพสต์ว่าผมให้ทีมกฎหมายของผมเก็บหลักฐาน เขาก็มาพิมพ์ขอโทษผมในวันเดียวกันเลย ด่าผมเช้าแล้วมาขอโทษผมเย็น แล้วทัวร์ก็ลงเขาเลยครับ"
"ถามว่าให้อภัยไหม คือผมให้ทีมกฎหมายเป็นคนดำเนินการครับ มันจะได้เป็นขั้นเป็นตอน เพราะว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นครั้งแรก มันต้องแคปยูเซอร์เนม หาที่อยู่ส่งจดหมายไปตักเตือนก่อนนะว่าอย่าทำแบบนี้อีก ถ้ามีอีกครั้งเราจะดำเนินคดีไป มันก็เป็นตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอน ตามที่ที่ปรึกษาจะทำให้ แล้วก็ไม่ใช่แค่คุณคนนี้คนเดียวนะ ผมทำทุกคน"
"มีเยอะครับ แต่ที่ผมจะตอบน้อย ผมจะตอบเฉพาะที่ผมสุดจะทนแล้ว หลังๆ ผมคิดว่าใครที่มายุ่งกับพื้นที่ส่วนตัวเรา เรามีสิทธิ์ที่จะตอบโต้เพราะเรามีสิทธิ์ที่จะชี้แจงว่ามันคืออะไร เราไม่ได้ทำใครเสียหาย มันเป็นรูปลูกเรา มันเป็นโมเมนต์ความทรงจำดีๆ กับลูกเรา แล้วคุณเข้ามาทำแบบนี้ แล้วบางครั้งคนอื่นเขาเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อกันอีกเป็นพืด แทนที่เราจะเก็บโมเมนต์น่ารักๆ นี้ไว้ กลายเป็นว่าคนก็มาสนใจเรื่องของพวกนี้ทั้งยวง ซึ่งผมว่ามันไม่คุ้มกันเลย ผมว่ามันก็ต้องทำอะไรให้มันถูกต้อง"
"ถามว่า ตักเตือนไปเยอะไหม ผมไม่มีหน้าที่ไปตักเตือนใครหรอกครับ ผมมีหน้าที่แค่ดำเนินคดีเท่านั้นเอง"
สำหรับกรณี อุบัติเหตุเครื่องทำขนม ขณะที่ "ติ๊ก" ดูแลลูก ให้เล่นทำกิจกรรมทำขนม ต่อมาได้มีการลบไลฟ์ แต่มีคนแคปไปให้ "หนุ่ม ศรราม" ดูนั้น เจ้าตัวบอกว่า
"ผมไปทำงานกลับมาเจอลูกก็ถามเขาว่าทำไมเขาหงอยๆ พี่เลี้ยงก็บอกว่ามันเป็นอย่างนี้นะ คือเครื่องทำขนมมันช็อต ผมก็ถามว่าวีจิโดนอะไรบ้างหรือเปล่า ก็บอกว่ามันไม่โดน คือผมเองก็เป็นห่วงนะครับ ผมคิดว่าในวัยของวีจิ สิ่งที่เขาจะต้องเสริมนอกจากการเรียนรู้ปัจจุบันนี้ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องว่ายน้ำ เพราะว่าตั้งแต่โควิดมา เขาก็ไม่ได้ว่ายน้ำอีกเลย และสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมก็คือภาษาอังกฤษ ส่วนอะไรที่มันผาดโผนหรือไม่ปลอดภัย ผมค่อนข้างเป็นห่วงลูก"
"ก็คงต้องฝากที่ปรึกษาทางกฎหมาย แล้วก็พี่เลี้ยงเป็นคนสื่อสารกับเขา ว่าเราไม่อยากให้น้องเล่นอะไรที่มันผาดโผน หรืออะไรที่มันดูไม่ค่อยปลอดภัย ทั้งที่มันยังไม่ถึงวัยเขา อะไรที่มันเป็นตัวเขา ถ้าถึงเวลาที่เขาชอบอะไรแล้วเราค่อยให้เขาเลือก บางทีเขาอาจจะไม่อยากขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่อยากต่อยมวยก็ได้ ไม่อยากจะใส่กางเกง เพราะว่าเขาเป็นผู้หญิง เขาอาจจะอยากแต่งตัวสวยๆ อยากจะถักเปียสวยๆ อยากจะใส่ชุดสวยๆ คือปล่อยเขา ถ้าถามว่ากลับมาเป็นครอบครัวกันได้อีกไหม ไม่ครับ เพราะว่าผมทำดีที่สุดทุกอย่างแล้วครับ"
ส่วนเรี่องการให้ "ติ๊ก" เจอลูกเดือนละ 2 ครั้ง จะเพิ่มวันให้ไหม เจ้าตัวบอกว่า เหมาะสมแล้ว
เพราะน้องวีจิก็ต้องไปโรงเรียนจันทร์ถึงศุกร์ ลูกว่างเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ บางสัปดาห์หากลูกต้องไปเรียนว่ายน้ำ ไปเรียนภาษาอังกฤษ และบางสัปดาห์ตนถ่ายละครวันจันทร์ถึงวันพุธหนึ่งเรื่อง และวันพฤหัส ถึงวันอาทิตย์อีกหนึ่งเรื่อง ดังนั้นเดือนหนึ่งตนก็แบ่งอยู่กับลูก 2 วัน ติ๊ก 2 วัน