จากกรณี วันที่ 6 เม.ย. 62 เกิดเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาท และขับรถไล่ชนกลุ่มคู่อริ ก่อนหลบหนี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยวัยรุ่นกินเลี้ยงงานบวชที่วัด ก่อนจะมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ใช้มีดกรีดที่ใบหน้าเพื่อนของนาค ก่อนจะขึ้นรถเก๋งสีดำหลบหนี แต่ถูกวัยรุ่นกลุ่มใหญ่บังทางและใช้ของทุบรถ ผู้ก่อเหตุจึงเร่งเครื่องขับชนวัยรุ่นที่ยืนล้อมรถจนได้รับบาดเจ็บ 2 คน และเสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดที่ อาคารเทศบาลท่าโขลง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี (อ่าน :
วัยรุ่นแทงหน้าอริกลางงานบวช ขับรถพุ่งชนจนกระจกแตก ตาย 1 สาหัส 2 อึ้งคนมียศเอี่ยว)
วันที่ 7 เม.ย. 62
นายสงขลา เรืองเพชร เจ้าหน้าที่เทศกิจผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะนั้นตนเองกำลังเข้าเวร และทำงานอยู่ในห้องติดกับอาคารอเนกประสงค์ ช่วงประมาณ 22.00 น. มีคนวิ่งมาเรียกให้ไปช่วยดูคนเจ็บ ตนรีบออกไปดูพบวัยรุ่นกว่า 60 คน กำลังลุมทุบรถเก๋งสีดำ ด้านในมีผู้ชายนั่งอยู่ 1 คน
ตนรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยระงับเหตุ โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ มีวัยรุ่นหลายรายที่อยู่ในอาการมึนเมา และทุบรถของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว พบว่ามีคนเจ็บจำนวน 3 ราย และมี 1 คน ที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายสงขลา เล่าต่อว่า ตนเห็นว่าที่อาคารอเนกประสงค์ มีงานจัดเลี้ยงตั้งแต่ช่วงเย็น แต่เมื่องานเลิกก็เริ่มได้ยินเสียงดัง ก่อนที่จะมีคนมาแจ้งให้เข้าไปช่วยระงับเหตุ ซึ่งตอนนั้นตนเองมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร ได้ยินแต่ตอนช่วงหลังเกิดเหตุว่า คนที่อยู่บนรถไล่ขับชนกลุ่มวัยรุ่นเป็นทหาร และไม่คิดว่าจะจะทำร้ายกันจนเสียชีวิต
ด้าน
นายธรรมรัตน์ พรหมโอภาส พี่ชายผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุน้องชายของตน เดินทางไปกินเลี้ยงที่งานบวช ก่อนที่จะมาทราบเรื่องว่า น้องชายถูกคนขับรถเก๋งไล่ชน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ สะโพกหัก โดยเท่าที่ได้คุยกับน้องชาย ทราบว่าน้องชายได้เข้าไปช่วยห้ามวัยรุ่นชายที่ใช้มีดกรีดหน้าของวัยรุ่นชายอีกคน แต่ไม่เป็นผล และเมื่อวัยรุ่นชายขึ้นรถเก๋งคันสีดำ กลุ่มวัยรุ่นก็วิ่งมาที่รถและใช้ของแข็งทุบรถ จนกระจกแตก ซึ่งตอนนั้น น้องชายตนก็ได้เข้าไปสกัดรถไม่ให้หนี จึงทำให้ถูกรถชน แต่ก็โชคดีที่น้องชายไม่เป็นอะไรมาก
นายอเนก อ่อนโพธิ์เอม พ่อของพระ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 22.00 น. หลังจากงานเลี้ยงเลิก ครอบครัวและญาติ ได้พาพระกลับมาที่บ้าน เพื่อเตรียมตัวที่จะเข้าโบสถ์ในตอนเช้าของวันนี้ ทำให้ตนและทุกคนในครอบครัวไม่ทราบว่าที่งานเลี้ยงมีวัยรุ่นตีกัน แต่ก็เห็นว่ามีวันรุ่นหลายคนเริ่มมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา ซึ่งไม่คิดว่าจะมีการทะเลาะกันจนมีคนเจ็บ และเสียชีวิต
ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้รู้จัก หรือสนิทกับเพื่อนของพระมากนัก จึงไม่รู้ว่ากลุ่มวัยรุ่นที่โดนทำร้าย และผู้ก่อเหตุเป็นใคร อีกทั้งดูแลงานบวชอยู่จึงไม่ค่อยว่าง แต่เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในงานบวชของลูกชาย