เร่งดูดคราบน้ำมันกว่า 2 หมื่นลิตรออกจากผิวถนน หลังรถบรรทุกน้ำมันเสียหลักพลิกคว่ำ คนขับเผยมีชาวบ้านให้กินเหล้าขาวผสมน้ำตาลแก้ช้ำฟัน
เมื่อเวลา14.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ได้รับแจ้งเกิดเหตุุรถบรรทุกพ่วงบรรทุกน้ำมันเสียหลักพลิกคว่ำบนถนนสายเพชรเกษมบริเวณโค้งน้ำผุด บนสะพานห้วยปริง กม.ที่ 505 ม.2 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงประสานรถน้ำพร้อมกำลังกู้ชีพและกู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ปภ.จังหวัดชุมพร จึงรุดไปที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถน้ำมันเทรนเลอร์ยี่ห้อวอลโว่หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 72-2520 ชลบุรี ส่วนตัวเทรนเลอรื์ หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 72-2521 ชลบุรี ของบริษัททีพีทีเอ็ม โลจิสติกส์ อยู่ในสภาพตะแคงอยู่กลางสะพานห้วยปริง หัวเก๋งพังยุบ ส่วนท้ายของเท้งน้ำมันแตกรั่ว น้ำมันดีเซลไหลทะลักเจิ่งนองบนผิวถนนและไหลลงตลองห้วยปริง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ไหลลงแม่น้ำชุมพร
เจ้าหน้าที่ได้กั้นรถทั้งสองด้านเพราะหวั่นว่าจะเกิดเหตุน้ำมันที่รั่วจะไปเจอเปลวไฟและระเบิดได้ โดยปิดถนน พร้อมให้รถที่จะไป จ.ระนอง และจะมาชุมพร ไปใชุ้นนสายรองทางเข้าหมู่บ้าน พร้อมทั้งให้รถดับเพลิงเทศบาลตำบลวังไผ่ และเทศบาลตำบลวังใหม่ เข้าฉีดน้ำเลี้ยงพร้อมให้หน่วยกู้ภัยเข้าไปถอดขั้วแบตเตอรี่
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุก่อนถึงสะพานห้วยปริง ซึ่งเป็นทางโค้งซ้ายหักข้อศอกพื้นผิวถนนและเกาะกลาง พบร่องรอยเฉียวชนเป็นทางยาว ต้นหญ้าบนเกาะกลางมีน้ำมันดีเซลเปียกชุ่ม และน้ำมันดีเซล ยังสาดกระจายข้ามถนนไปเจิงบนผิวถนนด้านสวนทางอีกด้วย
จากการสอบถาม นายชำนาญ ศิริเวช อายุ 41 ปี คนขับรถซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะให้การว่าตนเองบรรทุกน้ำมันดีเซล จากคลังชุมพรจำนวน 42,000 ลิตร เพื่อนำไปลงเรือที่จังหวัดระนอง โดยน้ำมันดังกล่าวจะส่งออกไปยังประเทศเมียนมาร์ ขณะขับรถมาคนขับอ้างว่ามีรถตัดหน้าจึงกระชากหลบ ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ จนท.กำลังนะดมฉีดน้ำเลี้ยงอยู่ คนขับได้พยายามเดินเข้าไปที่รถ แม้ จนท.ห้ามแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด จึงต้องคุมตัวมาที่รถพยาบาล โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้ดื่มออลกอฮอลมาหรือไม่ คนขับบอกว่าหลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ตนเองได้ออกมาจากรถ แล้วมีชาวบ้านได้เอาเหล้าขาวปสมน้ำตาลทรายให้กิน โดยให้เหตุผลว่า สามารถช่วยให้หายช้ำฬนได้
ความคืบล่าสุด นายกรีฑา เดชพิน ปอ.แขวงทางหลวงชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ของหมวดการทางชุมพร เร่งทำความสะอาดผิวถนน โดยใช้สารโคโรนา ซึ่งเป็นสารดูดซึมน้ำมันชนิดพิเศษ มาทำการโรยกำจัดคราบน้ำมัน บนผิวถนน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หลังจากที่เก็บกู้ซากรถ
ในขณะที่นายธีราวุธ โพธิ์เพชร จนท.ชำนาญงานของ บ.ไออาร์พีซี ซึ่งเป็นคลังน้ำมัน มาร่วมให้คำปรึกษาในการเก็บกู้และระงับเหตุ โดยในเบื้องต้นจะใช้รถบรรทุกรถเปล่า มาดูดน้ำมันจากรถที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเหลืออยู่ประมาณ 2 หมื่นกว่าลิตร จากทั้งหมด 4 หมื่นกว่าลิตร เพื่อง่ายและปลอดภัยกว่า เนื่องจากนังไม่มั่นใจในความเสียหายของแท้งน้ำมันดังกล่าวว่าจะเสียหายมากน้อยเพียงใด ซึ่งเมื่อกูดน้ำมันออกแล้ว จะใช้รถเครน จำนวน 2 คัน ยกส่วนหัวและหางพร้อมกัน คาดไม่เกิน 3 ชม.น่าจะเก็บกูซากรถได้