เจ้าของตึกแถวปล่อยโฮ เพลิงไหม้โรงงานไม้กวาด ลามบ้าน 8 หลัง ขอนอนเฝ้าซาก (คลิป)

วันที่ 10 เม.ย. 62 เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานภายในซอยโชคชัย 4 แยก 54 เขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นโรงงานชั้นเดียว ความกว้าง 2 ไร่ ผลิตไม้กวาด และไม้ถูพื้น เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และมีกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด แต่ยังมีกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยตึกแถวด้านหน้าโรงงานจำนวน 8 คูหา ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย และมีรอยร้าว

นางอุบล คำจุมจัง เจ้าของบ้านตึกแถวหน้าโรงงานที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีควันดำออกมาจากด้านหลังโรงงาน และพนักงานในโรงงานกำลังช่วยกันดับไฟ ตนตั้งใจว่าจะกลับบ้านมาเอาอุปกรณ์ไปช่วยดับไฟ แต่บ้านของตนถูกไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ควันเต็มบ้านจนตนตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่หยิบกระเป๋าสะพายใบเล็ก และนำหลานออกมาจากบ้าน ทรัพย์สินที่นำออกมามีเพียงบัตรประจำตัวประชาชน และเงินเล็กน้อยเท่านั้น บ้านเสียหายเกือบทั้งหมด

ทั้งนี้ ตนร้องไห้ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพราะเสียใจที่คิดว่าไฟไม่น่าจะไหม้ แต่รถดับเพลิงมาช้า ใช้เวลาเกือบ 40 นาที ทั้งที่ไฟลุกไม่มาก ซึ่งในคืนนี้ตนตั้งใจว่าจะไปนอนบ้านลูก ส่วนความเสียหายต้องรอดูการประเมินจากสำนักงานเขตอีกครั้ง โดยตนยังไม่มั่นใจว่าหลังจากนี้จะกล้ากลับมาอยู่บ้านตัวเองหรือไม่

ด้านนางลักษมี จงจิตเกษม น้องสาวเจ้าของบ้านตึกแถวที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า ไฟลุกไหม้บ้านทั้งหมด 3 ชั้น พี่สาวตนและครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อช่วงเช้า โดยฝากให้ตนดูแลบ้าน และเมื่อช่วงเที่ยงเพื่อนบ้านโทร. แจ้งว่าไฟไหม้บ้านพี่สาว ตนจึงรีบมาดู แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะควันเต็มบ้านแล้ว จากนั้นจึงรีบโทร. แจ้งครอบครัว พี่สาวจึงตัดสินใจซื้อตั๋วกลับประเทศไทยทันที โดยพี่สาวตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุมากว่า 40 ปี และปกติมักไปเที่ยวโดยปิดบ้านไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดปัญหาไฟไหม้ ซึ่งความเสียหายในตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ นอกจากนี้ ทีมข่าวสอบถามเจ้าของโรงงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเจ้าของโรงงานปฏิเสธให้สัมภาษณ์ รวมทั้งพนักงานโรงงานด้วยเช่นกัน

นายวุฒิพงษ์ มนัส ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว เปิดเผยว่า สำนักงานเขตได้รับแจ้งเหตุ ประมาณ 12.15 น. ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ แต่ยังไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นอาคารพาณิชย์ที่อยู่บริเวณหน้าโรงงานได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 8 คูหา และยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากนี้จะต้องตรวจสอบอาคารที่ร้าวว่ามีโอกาสล้มลงมาหรือไม่ โดยมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอาคาร นอกจากนี้ สำนักงานเขตและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งกองอำนวยการร่วม รับแจ้งจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อเยียวยาต่อไป