การรถไฟฯ เปิดให้บริการขบวนรถด่วนพิเศษสายใต้ เพิ่ม 2 ขบวน เส้นทางกรุงเทพฯ – ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพฯ เริ่ม 11 สิงหาคม 2565
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเชื่อมต่อระหว่างไทยและมาเลเซีย หลังจากที่ ศบค. ได้ประกาศผ่อนคลายข้อปฏิบัติมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ
การรถไฟฯ จึงได้เปิดให้บริการขบวนรถสายใต้ เส้นทางกรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพ จำนวน 2 ขบวน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
1. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 45 กรุงเทพ – ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีกรุงเทพ เวลา 15.10 น. ถึงปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) เวลา 09.50 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
2. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 46 ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพ ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ (ฝั่งมาเลเซีย) เวลา 17.06 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถึงกรุงเทพ เวลา 12.45 น.
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้เปิดเดินขบวนรถพิเศษจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ - ชุมทางหาดใหญ่ จำนวน 4 ขบวน ได้แก่
1.ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 947 ชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ เวลาออก 07.30 น. เวลาถึง 08.25 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
2.ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 948 ปาดังเบซาร์ – ชุมทางหาดใหญ่ เวลาออก 08.55 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาถึง 09.50 น.
3.ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 949 ชุมทางหาดใหญ่ – ปาดังเบซาร์ (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาออก 14.00 น. เวลาถึง 14.55 น.
4.ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 950 ปาดังเบซาร์ – ชุมทางหาดใหญ่ เวลาออก 15.40 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เวลาถึง 16.35 น.
ทั้งนี้ เมื่อเปิดเดินขบวนดังกล่าวแล้วส่งผลให้การรถไฟฯ จะมีขบวนรถให้บริการรวม 200 ขบวนต่อวัน โดยแบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 56 ขบวน ขบวนรถเชิงสังคมเปิดให้บริการ 144 ขบวน และแบ่งตามเส้นทางได้เป็นสายเหนือ 36 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 46 ขบวน สายใต้ 52 ขบวน สายตะวันออก 24 ขบวน สายมหาชัย 34 ขบวน และสายแม่กลอง 8 ขบวน
นอกจากนี้การรถไฟฯ ยังมีแผนที่จะทยอยปรับเพิ่มการเดินรถให้สอดรับกับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ฝ่ายการช่างกลเร่งปรับปรุงหัวรถจักร และตู้โดยสาร เพื่อนำมาเปิดให้บริการประชาชนได้อย่างเพียงพอ
นายเอกรัช กล่าวเพิ่มว่า อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศจะลดลงแต่การรถไฟฯ ยังให้ความสำคัญต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุขควบคู่กัน โดยได้กำชับให้ทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในขบวนรถ อาคารสถานี ชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ห้องสุขา และพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานี การให้บริการเจลแอลกอฮอล์ ให้เจ้าหน้าที่สวมหน้ากากอนามัยตลอดการปฏิบัติหน้าที่ การกำหนดจุดคัดกรองวัดไข้ผู้โดยสารก่อนเข้าในพื้นที่สถานี และการตั้งจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อหรือรับเชื้อโควิด 19 สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย