วันที่ 17 เม.ย.62 กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่มีชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์ของหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งชื่อว่า “ฟิน” หลังจากได้โพสต์ภาพและข้อความล่อแหลมเข้าข่ายลามกอนาจารในเฟซบุ๊ก เมื่อคืนวันไหลสงกรานต์ที่บุรีรัมย์ จนเกิดกระแสเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ และติดตามตัวหญิงสาววัยรุ่นคนดังกล่าวมาสอบสวน หรือตักเตือนดำเนินคดี
โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ได้โพสต์ภาพตัวเองสวมเสื้อซีทรู โดยที่ไม่สวมเสื้อชั้นใน ใส่เพียงกางเกงขาสั้นลักษณะวาบหวิวอนาจาร ทั้งยังได้โพสต์ข้อความลักษณะล่อแหลมว่า “เล่นน้ำเสร็จ ไป …กันต่อมะ #วันไหลบุรีรัมย์” หญิงสาวรายนี้ยังได้เช็กอินที่ช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์ แล้วโพสต์อีกว่า “ชื่อฟิน เสื้อตาข่ายสีดำ สักหน้าอก ไม่ได้ใส่เสื้อในอ่ะ” ทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเรื่องการแต่งตัวที่เข้าข่ายความผิด รวมทั้งข้อความที่โจ๋งครึ่ม และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัด
ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ภาพหญิงสาววัยรุ่นที่โพสต์ในโซเชียล คือ นายภานุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นสาวประเภทสอง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการโพสต์
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า จากภาพที่ปรากฏในโซเชียลซึ่งเข้าข่ายลามกอนาจาร ทั้งยังมีการโพส์ตข้อความในลักษณะที่ไม่เหมาะสม แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลที่ปรากฏในภาพเป็นสาวประเภทสองไม่ใช่ผู้หญิง แต่แต่งกายเป็นหญิงทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่งผลกระทบเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งก็จะได้เรียกตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมทำการตักเตือน ซึ่งในกรณีดังกล่าวก็ต้องดูข้อกฎหมายอีกทีว่าเข้าข่ายความผิดฐาน ลามกอนาจาร หรือผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังฝากถึงกลุ่มวัยรุ่นหญิงชาย และคนทั่วไป หากจะทำอะไรควรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่ควรจะกระทำด้วยความคึกคะนอง เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบกับตัวเองแล้ว ยังจะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัดด้วย เพราะจังหวัดบุรีรัมย์ถือเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก