จากกรณีไฟไหม้บ้านหรูของอดีตนักร้องชื่อดัง ใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า 30 นาที ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ น.ส.สุภาณี สินอนันต์ตระกูล หรือ เบนซ์ แฟนสาวของ นายพงษ์เพชร สินสุวรรณ หรือ บอล บางแก้ว นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำ สภาพเปลือยกาย หลังเห็นสภาพศพ พ่อของผู้เสียชีวิตสงสัยในการเสียชีวิตของลูกสาว (อ่าน:
“บอล บางแก้ว” ลั่นไม่หนีคดี งัดภาพโต้ “อัจฉริยะ” ไฟไหม้ถึงห้องน้องสาวไม่มีจัดฉาก ตำรวจก็เห็น)
นายบัญญัติ สินอนันต์ตระกูล บิดาของผู้เสียชีวิต
ล่าสุด วันที่ 17 เม.ย. 62 นายบัญญัติ สินอนันต์ตระกูล พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากลูกเสียชีวิต 16 ธ.ค. 61 ตลอดกว่า 50 วัน ตนเองไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณี จนกระทั่งช่วงกลางเดือน ก.พ. 62 นายบอล และครอบครัว เดินทางมาที่บ้านตน ตอนแรกตนก็แปลกใจว่ามาทำไม ซึ่งครอบครัวนายบอลระบุว่าจะมาคุยเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาว
น.ส.สุภาณี สินอนันต์ตระกูล หรือเบนซ์ ผู้เสียชีวิต
ครอบครัวนายบอลสอบถามว่า ตนจะจัดงานศพลูกสาวเมื่อใด ซึ่งตนก็บอกว่าจะไม่ขอคุยเรื่องนี้ หากจะคุยเรื่องงานศพขอให้กลับไป เพราะตนยืนยันจะไม่เผาศพลูก จนกว่าคดีจะสิ้นสุด จากนั้นแม่ของนายบอลถามว่า ต้องการให้ช่วยเหลืออะไรไหม อยากให้ช่วยเหลือเป็นเงินเท่าไร ตนยืนยันว่าไม่เคยคิดเรียกเงิน เพียงอยากสืบหาความจริง ครอบครัวนายบอลจึงให้ตนตั้งตัวเลขเงินชดเชย ตนจึงขอให้ฝ่ายนายบอลกลับไปคิดตัวเลขมาเอง
นายพงษ์เพชร สินสุวรรณ หรือบอล บางแก้ว อดีตนักร้อง (แฟ้มภาพ)
จากนั้น ผ่านไป 4 วัน แม่ของนายบอลโทรศัพท์มาหาตน พร้อมเสนอตัวเงินให้ตนจำนวนหนึ่ง เมื่อฟังตัวเลข ตนโมโหเพราะไม่พอใจ ตนตอบไปว่า "ลูกตนไม่ใช่สัตว์นะ ลูกตนเป็นคน" จากนั้น 1 สัปดาห์ต่อมา ครอบครัวนายบอลเดินทางมาที่บ้านตนอีกครั้ง เพื่อคุยเรื่องเงิน ตนจึงยกตัวอย่างให้ครอบครัวของนายบอลฟัง เรื่องค่าเสียโอกาส ที่หากลูกสาวตนมีชีวิตอยู่ เมื่อทำงานจนเกษียณ จะได้เงินมูลค่าราว 9 ล้านบาท ซึ่งครอบครัวนายบอลก็ระบุว่า เงินที่เรียกสูงเกินไป จากนั้นครอบครัวนายบอลก็ขอกลับไปคิดก่อน 2 วันถัดไป ครอบครัวนายบอลกลับมาแล้วตกลงตัวเลขกันได้ที่ 3 ล้านบาท ส่วนตัวตนเองคิดว่าคู่กรณีมีเจตนาที่อยากให้คดีจบ ตนเองจึงตัดสินใจรับปากจะรับเงิน ซึ่งฝ่ายคู่กรณีระบุว่า ตนเองต้องทำตามข้อกำหนด คือต้องไปทำเรื่องถอนคดีที่แจ้งความก่อน จึงจะจ่ายเงินให้ วันรุ่งขึ้นตนจึงเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยทำบันทึกตกลงการเจรจา และเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าสามารถทำได้ และได้ทำบันทึกประกอบสำนวนคดี
วันเดียวกัน คู่กรณีก็ติดต่อมาสอบถามเรื่องการถอนแจ้งความ และเข้ามาทำเอกสารการจ่ายเงินช่วยเหลือ ซึ่งครอบครัวนายบอลเป็นฝ่ายเตรียมมา โดยเอกสารที่เตรียมมา มีใจความว่าตนไม่ติดใจเอาความ และมีการรับเงินช่วยเหลือแล้ว จากนั้นจะไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตนมองว่าเอกสารฉบับดังกล่าว ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงให้ร่างเอกสารอีกฉบับขึ้นมา ระบุว่าตนมีการรับเงินมาแล้วจำนวน 1 ล้านบาท และจะมีการเจรจาจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก เอกสารทั้ง 2 ฉบับ มีการลงชื่อตน นายบอล และพยานทั้ง 2 ฝ่าย
เอกสารสัญญาการเจรจา ฝ่ายครอบครัวผู้ตาย
จากนั้น ตนไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีอีก ตนพยายามโทรศัพท์หาก็ไม่รับ ตนฝากข้อความก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ ตั้งแต่เดือน เม.ย. ตนโทรศัพท์หาทุกวัน ก็ไม่มีใครรับสาย อยากบอกว่า ฝ่ายนายบอลอาจจะสบายใจที่ตนไปลงบันทึกไม่เอาความแล้ว จึงไม่สนใจที่รับปากไว้ แต่หากมีคุณธรรม มีมนุษยธรรม ก็ควรจะรับผิดชอบกับสิ่งที่พูดไว้ ทั้งนี้ ตนไม่ได้กังวลเรื่องถอนแจ้งความ เพราะหากคู่กรณีผิดสัญญา ตนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตนมีเอกสารฉบับที่ 2 แต่ตนเสียความรู้สึก เพราะอีกฝ่ายไม่ได้สนใจความรู้สึกตน
