ออแกไนซ์ร้องสื่อ หลังรับจัดงานเสร็จ โดนเจ้าภาพเบี้ยวเงิน แถมไล่ให้ไปฟ้องเอา นัดให้ไปเอาเงินที่บ้านพอไปถึงกลับโดนแจ้งความจับข้อหาบุกรุก
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะนัฐ อายุ 25 ปี ออแกไนซ์ รับจัดงานต่างๆ นำหลักฐานเข้าร้องสื่อ หลังรับจัดงานอุปสมบท ณ วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านนา จ.นครนายก เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยตกลงกันเป็นจำนวนเงิน 17,000 บาท โดยให้วางมัดจำไว้จำนวน 5,000 บาท ก่อนวันงาน และตกลงกันว่าหลังจากจบงานจะชำระยอดที่เหลืออีก 15,000 บาท ในวันที่ 31 ก.ค. 65
แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงิน เจ้าภาพกับบอกว่าไม่ชอบใจฉากที่ใช้สำหรับถ่ายภาพ เพราะมันมีนั่งร้านที่วางพิงฉากโผล่ออกมาเวลาถ่ายภาพแล้วมันติดในภาพ เลยเป็นเหตุทำให้ไม่จ่ายเงิน โดยนายปิยะนัฐ ได้ถามว่าไม่ชอบหรือไม่ถูกใจทำไมไม่บอกให้แก้ไขตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน เพราะตอนทำเจ้าภาพก็เดินไปเดินมาอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าภาพ ได้ตอบว่าขี้เกียจจะพูด
ต่อมา นายปิยะนัฐ ได้เข้าแจ้งความ สภ.บ้านนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่า ทำได้เพียงรับแจ้งความที่ สภ.บ้านนา ซึ่งต่อมานายปิยะนัฐฯ พยายาม ทวงถามไปยัง เจ้าภาพหลายครั้งแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนล่าสุดเจ้าภาพได้บอกกับ นายปิยะนัฐ ว่า เห็นไปแจ้งความแล้ว ถ้าอยากได้ก็ให้ไปฟ้องเอา เดี๋ยวถึงเวลาตำรวจเรียก หรือศาลเรียก ก็พร้อมจะไปขึ้นศาล ถ้าจะจ่ายก็จะไปจ่ายที่ศาล
นายปิยะนัฐ พยายามติดต่อไปหาทางญาติๆของเจ้าภาพ ซึ่งได้รับคำตอบมาว่า ไม่มีใครช่วยได้ เพราะนิสัยเจ้าภาพเป็นแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาทางญาติๆ ก็ช่วยมาเยอะแล้ว เพราะเคยทำเรื่องคล้ายๆ กันแบบนี้มาหลายครั้ง เช่นไม่จ่ายค่างานก่อสร้าง และเคยมีออแกรไนซ์ เจ้าอื่นก็เคยโดนเช่นกัน แต่ที่ผ่านมาญาติๆ ก็พยายามไกล่เกลี่ยมาตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุเรื่องนี้ขึ้นอีก ซึ่งญาติๆ ก็ไม่ไหวแล้ว
ต่อมานายปิยะนัฐ ได้นำเรื่องนี้มาร้องกับทางเพจเรื่องจริงนครนายก เมื่อทางเพจได้นำข้อมูลและภาพงานมาลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายปิยะนัฐ ผู้เสียหาย ก็ได้รับการติดต่อ จากทางเจ้าภาพ เพื่อให้เข้าไปรับเงิน ในช่วงกลางคืน ซึ่งนายปิยะนัฐ ก็กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จึงได้เข้าไป สภ.บ้านนา เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาเข้าไป
เมื่อไปถึงหน้าบ้านของเจ้าภาพ กลับไม่ยอมออกมาจากบ้านแถมยังโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีคนมาบุกรุกบ้าน ทั้งที่ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย อยู่ตรงนั้นด้วย ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปทางนายปิยะนัฐ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูแชทพร้อมคลิปเสียงแล้ว ว่าทางเจ้าภาพได้เป็นคนให้เข้าไปรับเงินที่บ้าน แต่ตนเองเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนา พาไป จนท.เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงแนะนำให้นายปิยะนัฐ ไปแจ้งความไว้หลักฐาน ว่าทางเจ้าภาพเป็นคนให้เข้าไปเองเพราะมีทั้งคลิปเสียง และแชท ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อที่จะได้นำไว้ต่อสู้คดีหากทางเจ้าของบ้านได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุกต่อไป และยืนยันว่าจะไม่ยอมความโดยเด็ดขาด