สาวฉะพ่อป่วยโคม่าเลือดออกท้อง ทนายดังหวังช่วย รพ.กลับติดป้ายพักเที่ยงจ่อร้องสธ.เอาผิด (คลิป)
สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวลงไปในกลุ่มเเฟนเพจ "แจ้งข่าว ปากช่องไทม์ FC" ถึงเหตุการณ์ที่เจ้าตัวตั้งใจจะไปบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือญาติผู้ป่วยรายหนึ่งที่เสียเลือดจากอาการป่วย ขณะที่ทางญาติ ๆ ก็บอกว่าเลือดกลุ่มดังกล่าวทางโรงพยาบาลขาดเลือด เลยตัดสินใจไปแต่ปรากฎว่า ทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ติดป้ายพักเที่ยง
คอนเทนต์แนะนำ
โดยทางเจ้าของโพสต์เองได้เขีบนอธิบายเหตุการณ์ว่า "โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งมากับญาติคนป่วยแจ้งว่าคนไข้เสียเลือดมาก เลือดขาดต้องการรับบริจาคเลือดด่วน รีบขับรถมาแทบตกถนน พอมาถึงดูเจ้าหน้าที่ทำ บอกจะพักกินข้าวบ่ายโมงค่อยมา คิดว่ามีเวลาว่างนักรึไง" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวออกไปก็ทำให้หลายคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง
วันที่ 5 ก.ย. 65 นายกฤษฎา ทองชิต เจ้าของโพสต์ เปิดใจเล่าว่า เมื่อวานนี้ส่วนตัวได้เดินทางไปทำธุระแถวโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ ก็ได้ยินทางญาติของผู้ป่วยรายหนึ่งพูดประมาณว่าญาติของเขาและเสียเลือดมาก ต้องการเลือดกรุ๊ป O ขณะที่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเลือดในสต๊อกเองก็มีน้อย ซึ่งตนได้ยินดังนั้น ด้วยความที่เลือดกรุ๊ปเดียวกัน เเละเห็นทางญาติมีความต้องการสูง ตนเลยตัดสินใจพูดคุยและติดต่อกับทางญาติเพื่อจะเดินทางไปบริจาคเลือด
แต่พอเดินทางไปถึงโรงพยาบาล ช่วงประมาณเวลา 11.20 น. ตนก็เห็นมีทั่งพระสงฆ์ และชาวบ้านประมาณ 3-4 คน ติดต่อเพื่อตะขอบริจาคเลือด แต่ทางห้องบริจาคเลือดเองกลับติดป้ายพักเที่ยง และให้ติดต่ออีกทีตอนเวลา 13.00 น. ซึ่งตอนนั้นด้วยความที่ตนเห็นว่ายังไม่ถึงเวลา 12.00 น. เลยเดินเข้าไปสอบถาม สุดท้ายพบกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล 2 คน ภายในห้องมีการพูดคุยจะติดต่อขอบริจาคเลือด แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้มาติดต่อช่วงบ่าย เพราะตอนนี้ติดพักเที่ยง คุยไปคุยมาก็ไม่เป็นผล จนทางเจ้าหน้าที่ปิดไฟห้องบริจาคเลือดเพื่อให้เห็นว่าปิด
ส่วนตัวยอมรับว่าวันนั้นค่อนข้างรู้สึกเสียความรู้สึก จากความตั้งใจที่ตั้งใจจะไปช่วย แต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยทำไรไม่ถูก ด้วยความที่ตนเองก็ติดธุระต่อ เลยทำให้พลาดที่จะบริจาคในวันนั้น เพราะเเค่คำว่าติดพักเที่ยง ส่วนตัวมองว่าความตั้งใจของคนหลายคนที่ตั้งใจว่าจะมาช่วยคน แต่กลับถูกบั่นทอนด้วยคำพูด โดยตนมองว่าไม่ใช่เหตุผล ทั้งที่คนหนึ่งรอรับความช่วยเหลือ ถามว่าในห้องนั้นหากมีคน 2 คน ถ้าเป็นไปได้ตนก็อยากให้มีการสลับกันไปพักเที่ยงจะดีกว่าไหม
ขณะที่วันนี้เองตนก็ได้เดินทางไปยื่นเรื่องกับทาง รมว.สาธารสุข เพื่อให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ต้องการจะโจมตีหรือต่อว่าโรงพยาบาล แต่อยากให้ทางผู้ใหญ่ของโรงพยาบาลได้ย้อนมองลงมาในชั้นปฎิบัติงานว่า มันเกิดเหตุแบบนี้ รับทราบหรือมีการตรวจสอบหรือไม่ หากผิดก็ว่ากันไปตามวิชาชีพ ตนไม่ได้ต้องให้อีกฝ่ายออกมารับผิดชอบ แค่อยากให้คำนึงถึงหัวอกคนที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งที่ตนเองก็มีสิทธิที่จะปล่อยผ่านได้ แต่ด้วยความเป็นเรื่องของชีวิตคน ตนนิ่งเฉยไม่ได้ ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าผิดจริงก็ให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของทางโรงพยาบาล
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้พูดคุยกับ น.ส.มิน ลูกสาวของผู้ป่วย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้พาพ่อวัย 55 ปี ไปหาหมอเพราะพ่อมีอาการเหงื่อออกตามร่างกาย หน้าซีด แต่พอไปถึงให้คุณพ่อนอนรอ ไม่ได้ให้เข้าห้องฉุกเฉิน ทั้งที่คุณพ่ออาการหนักมาก พี่ผู้ชายที่พาไปด้วยเลยบอกให้คุณหมอตรวจดูอาการพ่อหน่อย หมอเลยขอเจาะเลือด และให้คุณพ่อแอดมิท
ช่วง ตี 1.45 คุณหมอไม่แจ้งอะไรเลย แต่คุณมินไปดูที่จุดเบิกเลือด เห็นว่ามีการเบิกเลือดออกไป ซึ่งทางรพโทรมาคุณพ่อเป็นแผลที่กระเพาะอาหาร มีเลือดออกเยอะมาก และทางรพไม่มีเลือดกรุ๊ป O สำรอง ต้องการเลือดด่วน คุณมินมีเลือดกรุ๊ปโอเลยจะบริจาคให้ แต่พี่สาวเลือดคนละกรุ๊ปเลยโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอบริจาคเลือดกรุ๊ปโอด่วน คุณพ่อเป็นแผลที่กระเพาะ แต่ไม่ได้แจ้งว่าคุณพ่อมีอาการไตวายเฉียบพลันร่วมด้วย
ซึ่งมีคนที่เห็นโพสต์แล้วไปบริจาคก่อนตั้งแต่ช่วง 11.20 น. แต่ป้ายหน้าห้องเขียนว่าพักรับประทานอาหาร ตั้งแต่ 11.30-13.00 น. พอไปถึงก็ปิดห้องไม่รับแล้ว และบอกว่าต้องพักเที่ยงก่อน แต่ที่สงสัยคือทำไมพักเที่ยงตั้งหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แถมตอนไปก็ไปก่อนเวลาแต่ติดป้ายแล้ว ยังบอกให้รอตอนบ่าย ซึ่งพระสงฆ์ที่จะช่วยท่านก็มาแล้ว อยากให้จัดการให้ท่านก่อน ท่านจะได้กลับไปอยู่สำนักสงฆ์ของท่าน แต่ต้องมานั่งรอ เลยตัดสินใจให้พี่ที่พาพระท่านกลับไปก่อน แล้วค่อยให้มาใหม่
สิ่งที่ น.ส.มิน อยากฝาก "อยากให้พยาบาลบริการให้ดีกว่านี้ ถึงจะเป็นเวลาพักแต่อยากให้เปลี่ยนกันพัก เพราะชีวิตคนเรามีความหมาย ไม่ได้อยากเปรียบเทียบแต่ถ้าเป็นในกรณีของญาติพวกคุณ พวกคุณจะพักเที่ยงมั้ย อยากให้บริการให้ดีกว่านี้ เหลือคนไว้สักคนก็ยังดี เพราะบางคนเขามีทำงานต่อ ไม่สามารถรอถึงเวลาบ่ายได้จริง ๆ เพราะคนมาบริจาคส่วนใหญ่ก็พักเที่ยงมากันทั้งนั้น จากที่จะได้เลือดไว้ช่วยเหลือ ก็ไม่ได้"
Advertisement
