กรณีนายเช้า พรหมมา อายุ 80 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ทำอาชีพรับจ้างขับรถสามล้อเครื่อง บริเวณตรอกชุณหงส์ ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 25 เม.ย. 62 และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงค่ำของวันที่ 26 เม.ย. 62 (อ่าน :
ตาขับสามล้อวัย 80 ถูกตีตายแล้ว! แฉภาพนาทีโหด โจรฆ่าชิงเงินกลางสี่แยก)
ต่อมา เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 62 ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ สามารถคุมตัวนายวีระพงษ์ ป้องป้อม ผู้ต้องหา อายุ 50 ปี ได้พร้อมอาวุธของกลางเป็นเสื้อผ้า ท่อนเหล็ก และไม้หน้าสาม ที่มีการเจาะรูร้อยเชือกคล้องมือ รวมถึงรองเท้าและหมวกกันน็อกของผู้ก่อเหตุไว้ตรวจสอบ
ขณะที่บรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้าย ที่วัดช่องคีรี ครอบครัวของตาเช้า นำรถสามล้อคู่ใจของตาเช้า กลับจากสภ.เมืองนครสวรรค์ มาจอดไว้ที่หน้าศาลาสวดพระอภิธรรมศพ สมบัติสุดท้ายที่ตาเช้ารักมากที่สุด
โดยนายสุรัตน์ เพื่อนของลูกบุญธรรมผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตนรู้ทันทีว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นนายวีระพงษ์ เพราะคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ในจังหวัดนครสวรรค์ มีอยู่เพียงไม่กี่คน ตอนแรกมุ่งเป้าที่พวกคนติดยาเสพติดที่เข้ามาขอเงิน แต่เห็นข้อมูลจากเฟซบุ๊กบอกว่าผู้ก่อเหตุเคยมีคดีเรื่องขว้างหินใส่รถ กับใช้แท่งแบริเออร์วางขวางทางให้รถชน มีนิสัยชอบใช้ความรุนแรง มักออกไปก่อเหตุช่วงกลางคืน อีกทั้งมีผู้เสียหายที่เคยถูกนายวีระพงษ์ทำร้ายมาแล้วด้วย
โดยตนคิดว่าตอนนี้ผู้ต้องหาก็มีอายุมากแล้ว ยังทำได้ขนาดนี้ ช่วงที่เป็นวัยรุ่นจะทำขนาดไหน ซึ่งตนพยายามหาข้อมูลจากเพื่อนในกลุ่ม เพราะรู้สึกว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลอันตราย หากไม่รีบหาตัวมาส่งตำรวจ ญาติหรือพ่อแม่พี่น้องอาจจะเสี่ยงอันตรายไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่านิสัยของผู้ก่อเหตุเกิดจากพ่อแม่ตามใจ ครอบครัวมีฐานะ คอยช่วยเหลือเรื่องคดีอยู่ตลอด ทำให้คิดน้อยจนติดเป็นนิสัย คนแบบนี้ยากที่จะกลับตัวกลับใจได้ อายุมากใช่ว่าจะคิดได้ ส่วนเหตุผลที่ลงมือ มองว่านายวีระพงษ์ชอบใช้ความรุนแรง ไม่ได้ป่วย และไม่ใช่การประสงค์ต่อทรัพย์