เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 21 ก.ย. 65 พ.ต.ต.สถิตย์ สะดีวงษ์ สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และรถกู้ชีพโรงพยาบาลเลิดสิน
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัย พบร่าง น.ส.อนิจตา อยู่โสนะ อายุ 30 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย สภาพนอนหงาย มีแผลถูกแทงที่หน้าอก ยาว 1 นิ้ว และมีรอยถูกมีดฟันที่โหนกแก้ม 1 แผล อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจ ช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเลิดสิน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เบื้องต้น ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสิงห์ จะใบรัมย์ อายุ 50-57 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุ เป็น รปภ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โดยลักษณะจุดเกิดเหตุ เป็นถนนหน้าประตู 1 ของมหาวิทยาลัย มีป้อม รปภ.อยู่ด้านหน้า และมีวินมอเตอร์ไซค์
นายบุญถึง สาทิพจันทร์ อายุ 55 ปี วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างพลเมืองดี เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าขณะไปส่งผู้โดยสารที่หน้ามหาวิทยาลัย เห็น นายสิงห์ ผู้ก่อเหตุ กำลังกอด น.ส.อนิจตา อยู่ภายในป้อม จากนั้นก็ได้ยินเสียงทั้งคู่มีปากเสียงกัน กระทั่งเห็น น.ส.อนิจตา ถูกนายสิงห์แทง 1 ครั้ง ขณะวิ่งออกมาจากป้อม แล้วก็มาล้มลงที่ถนนหน้ามหาวิทยาลัย จนถูกนายสิงห์แทงซ้ำที่หน้าผากต่อหน้าต่อตา
จากนั้น เมื่อตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงลงจากรถแล้วก็วิ่งเข้าไปช่วย น.ส.อนิจตา แต่ในขณะที่ตนเองกำลังจะแย่งมีดออกจากมือนายสิงห์ ถูกนายสิงห์ชักมีดขึ้นมาขู่ กระทั่งมี รปภ.วิ่งออกมาจากป้อม นายสิงห์ถึงวิ่งหนีไป ส่วน น.ส.อนิจตา เบื้องต้นขณะนั้นยังพูดคุยโต้ตอบได้ พูดกับตนเองว่า "คนแทงไม่ใช่ผัวหนู" บริเวณหน้าอกมีบาดแผลถูกแทง แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิตในภายหลัง
ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบ แต่ได้ยินจากเพื่อน รปภ. คุยกันในที่เกิดเหตุว่าเกี่ยวกับการหึงหวงของ รปภ.ชาย จึงก่อเหตุในครั้งนี้ ยอมรับว่าเสียใจที่ช่วยชีวิต รปภ.หญิง เอาไว้ไม่ได้ หากรถฉุกเฉินมาเร็วกว่านี้คงไม่มีใครเสียชีวิต
ทีมข่าวได้สอบถามกับ รปภ.ที่อยู่หน้าป้อม ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดในพื้นที่มหาวิทยาลัย แต่ไปเกิดบนถนนหน้าทางเข้า คนที่เห็นเหตุการณ์มีวินมอเตอร์ไซค์กับ รปภ.เวรเช้า ซึ่งปมเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากเรื่องของความหึงหวง เนื่องจากทั้ง 2 คนคบหากัน
ซึ่งปกตินายสิงห์ คนก่อเหตุจะเข้ากะกลางคืน แต่วันนี้ได้เข้าเวรแทนกันกับเพื่อน ส่วนผู้หญิงที่ถูกแทงก็เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเช่นกัน แต่จะอยู่ช่วงเช้า หลังเกิดเหตุนายสิงห์ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัย เดินลัดเลาะ และหนีออกไปทางประตู 2 ที่เป็นด้านหลังของมหาวิทยาลัย
นายภานุพงษ์ จารุมาศ อายุ 63 ปี หลานเขยนายสิงห์ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายสิงห์ออกจากบ้านที่จังหวัดบุรีรัมย์ไป 2 ปีแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระ ได้ประมาณ 6 พรรษา มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับการดื่มเหล้า และมีนิสัยเจ้าชู้ จึงสึกออกมา ไปทำงานเป็น รปภ. ที่กรุงเทพฯ จากนั้นนายสิงห์ก็ไม่ติดต่อกับมาทางบ้าน กระทั่งวันนี้ไปก่อเหตุแทงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต
ส่วนตัวเชื่อว่านายสิงห์น่าจะเมาถึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้นได้ ยอมรับว่าทางญาติก็รู้สึกตกใจ เป็นไปได้ก็อยากจะให้นายสิงห์เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพราะหนียังไงก็ไม่รอด
ล่าสุด ตำรวจรายงานว่า สามารถรวบตัวนายสิงห์ ผู้ก่อเหตุได้แล้วระหว่างทางหลบหนีไปยัง จ.ชลบุรี ขณะนี้ตำรวจกำลังนำตัวนายสิงห์ เข้ามาที่ห้องสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ถึงในเวลา 19.39 น. พร้อมกับรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ125i สีน้ำเงิน ที่นายสิงห์ขับหนีไปหลังเกิดเหตุ
โดยทันทีที่ตำรวจนำตัวนายสิงห์ลงจากรถ ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายสิงห์ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา ซึ่งนายสิงห์มีสีหน้าค่อนข้างเครียด และมีสภาพร่างกายที่อิดโรยจากการหลบหนี พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จตำรวจจะนำตัวนายสิงห์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ
นายพลสิทธิ์ ลิศนภาพงศ์ เจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญู ระบุว่า ตนเองได้รับแจ้งเมื่อช่วงเวลา 09.10 น. รีบประสานไปยังที่เกิดเหตุทันทีที่เกิดเหตุ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย พบร่างผู้บาดเจ็บ น.ส.อนิจตา พนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัย และมีคนล้อมกันเต็มบริเวณ ตนเองจึงรุดเข้าช่วยเหลือทันที พยายามถามซ้ำ ๆ ว่าโดนอะไร ชื่ออะไร
ส่วนคนเจ็บได้ตอบตนเองว่า "เพื่อน รปภ.ด้วยกันแทง เป็นผู้ชาย และวิ่งหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัย" ตนเองจึงขอดูแผลบริเวณหน้าอก กว้าง 1 นิ้ว และแผลรอยโดนฟันบริเวณใบหน้า โหนกแก้มขวา ไม่พบอาวุธมีด หรืออุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นตนเองได้ประสานทางกู้ชีพเลิดสินเข้ามายังที่เกิดเหตุ เนื่องจากเคสนี้อาการสาหัส เพียงแค่ 3 นาทีหลังจากตอบตนเองก็อาการทรุดหนักลง จากหน้ามือเป็นหลังมือ ชีพจรเต้นต่ำลงจนหยุดเต้น ตนเองจึงได้ทำการ CPR ปั๊มหัวใจ เมื่อโรงพยาบาลเลิดสินมาจึงรีบรีเฟอร์ขนย้ายผู้บาดเจ็บไปทันที แต่เมื่อถึงที่โรงพยาบาลก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ในขณะตอนที่ตนเองเจอผู้บาดเจ็บ ตนเองถามชื่อ-นามสกุล ตอบได้ปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลก มีสติครบ แต่เพียงไม่นานก็อาการเปลี่ยนทันที ส่วนตัวแนะนำหากพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้อยากให้ผู้ที่อยู่ใกล้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ประสบเหตุ ก่อนอื่นให้โทรแจ้งกู้ภัยหรือโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ระหว่างนั้นให้หาอะไรมาอุดร่อยรองของการโดนแทง หรือใช้พลาสติกปิดไว้ ป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปในบาดแผลและอุดการไหลของเลือดอีกด้วย
Advertisement