จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องอาร์ม อายุ 13 ปี ที่ถูกฆ่าตาย โดยอ้างว่าแค่มองหน้าฆาตกร เกิดเหตุที่ย่านบางปลาซอย 12 เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา จนถึงขณะที่ฌาปนกิจศพแล้วก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 ราย และออกหมายจับอีก 2 รายแล้วนั้น
วันที่ 13 พ.ค. 62 นางศรีเพ็ญ บุญกุณะ อายุ 47 ปี แม่ของเด็กชายวิษณุสรรค์ สุวรรณภา หรือ น้องอาร์ม อายุ 13 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 18.00 น. วันที่ 8 พ.ค. 62 ลูกชายบอกตนว่าจะออกไปกินหมูกระทะกับเพื่อน จะกลับบ้านดึก ซึ่งมาทราบจากรุ่นพี่ที่ไปด้วยกัน เล่าว่า ระหว่างที่นั่งกินหมูกระทะกัน เพื่อนโทรศัพท์ตามว่ารถน้ำมันหมดให้ออกมาช่วยที่ซอยบางปลา 12 จึงขับรถจักรยานยนต์ออกไป เมื่อผ่านตลาดนัดใกล้จุดเกิดเหตุ เจอกลุ่มวัยรุ่น 4 คน นั่งดื่มเหล้าอยู่
แต่กลุ่มวัยรุ่นได้ขับตามมาถามว่า “มองหน้าทำไม อยากมีเรื่องเหรอ” ฝ่ายรุ่นพี่ของลูกชายตอบไปว่า "เปล่าครับ ผมมาตามหาน้อง พร้อมกล่าวขอโทษ" จากนั้นคนร้ายดักรอและกำลังจะใช้ก้อนหินมาทุบ รุ่นพี่เห็นจึงหลบทัน และบอกให้นายอาร์มหลบ แต่หลบไม่ทัน จึงถูกหินทุบเข้าที่ศีรษะ จนตกจากรถจักรยานยนต์ ซึ่งน้องอาร์มยังมีสติ เมื่อนำตัวน้องอาร์มส่งโรงพยาบาล พบว่าก้านสมองบวม กะโหลกศีรษะแตก มีเลือดคั่งในสมอง ฟันหัก และมีรอยช้ำตามร่างกาย แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้จนเสียชีวิตในที่สุด
นางศรีเพ็ญ ยืนยันว่า ผู้ที่ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกับน้องอาร์มมาก่อน และน้องอาร์มก็เป็นเด็กดี ไม่มีคู่อริ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแค่การมองหน้ากันเท่านั้น ทั้งนี้ ตนยังทำใจไม่ได้ และอยากถามคนก่อเหตุว่าทำไมถึงทำกับลูกตนขนาดนี้ และอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายเป้ อายุ 15 ปี เพื่อนน้องอาร์ม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินหมูกระทะกับอาร์มที่บ้านเพื่อน รวมประมาณ 6 คน จากนั้นนายเฟรมเพื่อนที่นั่งกินหมูกระทะด้วยกัน ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปรับเพื่อนอีกคน บริเวณซอยบางปลา 12 จนเวลาประมาณ 00.30 น. นายเฟรมโทรศัพท์มาหาตน บอกว่ารถน้ำมันหมด ให้ช่วยขับรถออกไปรับ ตนจึงบอกนายปาย เพื่อนรุ่นพี่ที่นั่งกินอยู่ด้วยกัน นายปายจึงขับรถจักรยานยนต์ออกไปรับโดยมีน้องอาร์มซ้อนท้ายไปด้วย หลังจากนั้นก็ทราบว่าน้องอาร์มถูกทำร้าย เมื่อตนออกไปดู พบว่าน้องอาร์มนอนแน่นิ่งไม่มีสติ ตัวเต็มไปด้วยเลือด ตนตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ทั้งนี้ สอบถามจากนายปายทราบว่า ระหว่างทางก็มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์มาประกบ หาว่ามองหน้า ทั้งยังชักมีดออกมาข่มขู่ ซึ่งนายปายปฏิเสธพร้อมขอโทษไปแล้ว และพยายามหลีกเลี่ยงโดยการกลับรถมาอีกฝั่ง แต่คู่กรณีกลับทิ้งรถและวิ่งมาดักรอที่เกาะกลางถนน ก่อนจะทำร้ายฝ่ายนายปาย
โดยตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาน้องอาร์มไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท ซึ่งกลุ่มที่ก่อเหตุ ตนก็เชื่อว่าไม่ได้รู้จักกับน้องอาร์มแต่อย่างใด