นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก หรือ ครูยุ่น เปิดใจยืนยันไม่ได้ทำร้ายเด็ก การตีเด็กเพราะสั่งสอน มีเหตุและผล
วันที่ 3 พ.ย. จากกรณี เส้นด้าย ได้รับร้องเรียนจากเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม ว่า ถูก นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก หรือ ครูยุ่น ผู้ดูแลมูลนิธิทำร้ายร่างกาย และนำไปทำงานที่รีสอร์ตหญิงคนสนิทนั้น หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ พม.และตำรวจ เข้าตรวจสอบที่มูลนิธิ และนำตัวเด็กที่สมัครใจออกจากมูลนิธิไปอยู่ในความคุ้มครองของ พม.
โดยหลังจากที่ครูยุ่นได้เข้าพบ จนท.ตำรวจตามหมายเรียก เจ้าตัวก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงกระแส ครูยุ่นเคยโดนคดีพรากผู้เยาว์มาก่อน ระบุว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ตนเข้าไปช่วยเด็กที่ถูกกระทำ ทำให้ตนถูกพ่อของเด็กคนดังกล่าวแจ้งความ จึงขอให้ทุกคนดูรายละเอียดของคดีด้วย
เมื่อถามว่าจากคลิปที่ออกมาที่พบว่ามีการตีเด็ก ถือเป็นการทำโทษที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ ครูยุ่น ยืนยันว่าการที่ตนตีเด็กมีเหตุผล แต่อย่าให้ต้องลงรายละเอียดว่าเพราะอะไร แต่ถัาปล่อยเด็กไปแบบนี้โดยไม่ทำอะไร ตนก็จะโดนคดีอีก พร้อมยืนยันในเจตนาว่า ตนต้องการสั่งสอนเด็ก
ส่วนกระแสที่ว่าครูยุ่นมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กอยู่บ่อยครั้ง เช่น การเอาอุจาระ ปัสสาวะไปราดใส่เสื้อผ้าเด็ก ครูยุ่นชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง ส่องกองผ้าที่ออกมากองในคลิป เกิดจาการที่เด็กใส่เสื้อผ้าแล้วทิ้ง ซึ่งตนก็สอนเด็กให้รู้สึกสำนึกว่า เสื้อผ้าที่ได้รับมาอย่าใส่ทิ้งใส่ขว้าง ให้เอาไปซักแล้วพับ
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะเปลี่ยนวิธีการดูแลเด็กไหม ครูยุ่นกล่าวว่า คงจะเปลี่ยนไป แต่ไม่ได้หมายความว่าความคาดหวังที่มีต่อเด็กจะเปลี่ยนไป แต่ตนทำงานเรื่องนี้มานานรู้ว่าเด็กลักษณะแบบนี้ควรดูแลอย่างไร
ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่า มีการนำเด็กไปใช้แรงงานรีสอร์ท ครูยุ่นชี้แจงว่า ตนไม่เคยไปบังคับเด็กให้มาทำงาน ตนไม่คิดฟิกเวลาเลิกงานเลย และตนก็ไม่เคยคิดว่าพวกเขาคือลูกจ้าง ซึ่งเด็กที่มาก็มาทำกิจกรรมอื่นด้วยเช่นมาเล่น มากวาดใบไม้ มานั่งคุย แต่ยืนยันว่าตนก็ให้ค่าขนมเด็กๆ ส่วนใครไม่ทำเวร ก็หักค่าขนมไปโรงเรียนเป็นเรื่องปกติ เพราะตนสอนว่าใครไม่ทำ ก็ให้คนอื่นมาทำและได้รับเงินแทน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะส่งตัวเด็กที่ผิดให้หน่วยงานรัฐดูแลหรือไม่ ครูยุ่นเล่าว่า มันไม่ง่ายที่จะแจ้งจับเด็กในการดูแลตนเองหากจะแจ้งจับเด็กที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งถ้าตนทำแบบนั้นมันก็ง่าย แล้วถ้าแจ้งไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเด็ก คุณคิดว่าอะไรมันร้ายแรง
ด้าน "นายแก้วสรร อติโพธิ " ประธานมูลนิธิ ให้ข้อมูล บอกว่าทางตำรวจได้แจ้งข้อหาครูยุ่น ใน 2 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายเด็กในคลิป” และ “ใช้แรงงานเด็ก” ทางด้านครูยุ่นเองได้ให้ปากคำในเรื่องกรณีทำร้ายร่างกายเด็ก เนื่องจากเด็กถูกห้ามไม่ให้ลงน้ำ แต่ยังฝ่าฝืนทำอีก ยังพาน้องที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไปลงเรือจนเกือบทำน้องตาย จึงจำเป็นต้องลงโทษตีเด็กหน้าเสาธง เพื่อให้ทุกคนทราบว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงอย่าทำกันอีก
ส่วนการสอบสวนครูยุ่นในวันนี้ ซึ่งทางครูยุ่นเดินทางมาพบตำรวจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีทีท่าจะหลบหนีหรือว่าจะไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ตำรวจจึงปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ส่วนคดีการใช้แรงงานเด็ก ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มสอบสวน ซึ่งทั้งหมดก็ต้องรอสอบสวนอีกครั้ง ก่อนจะสรุปสำนวนคดีในภายหลัง