จากกรณีที่คู่บ่าวสาวรายหนึ่ง น.ส.ศิรินภา อายุ 36 ปี และ นายเอกวิทย์ อายุ 36 ปี คนในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ร้องเรียนสื่อมวลชน ว่าถูกออร์กาไนซ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพรชบุรี จัดงานแต่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้
หลังซื้อแพ็กเกจที่แพงที่สุด แต่กลับได้ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ทั้งการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง การตรงแต่งสถานที่จัดงาน ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ไม่มีป้ายชื่องาน และ ซุ้มสำหรับถ่ายภาพ จนทำให้ครอบครัวเกิดความผิดหวังและอับอายเป็นอย่างมาก ทั้งยังถูกปัดความรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบคู่บ่าวสาว คือ น.ส. ศิรินภา และ นายเอกวิทย์ เจ้าสาวและเจ้าบ่าว ซึ่งได้นำหลักฐาน ข้อความแชต สลิปการจ่ายเงิน และภาพถ่ายจุดต่าง ๆ ภายในงานแต่ง ซึ่งทางออร์กาไนซ์ได้จัดไม่ตรงปกตามที่ต้องการ มาแสดงต่อผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม และฝากเตือนเพื่อเป็นอุทาหรณ์กับคู่บ่าวสาวรายอื่น ๆ ที่เตรียมจะจัดงานแต่งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเช่นเดียวกับของคู่ของตนเอง และเตรียมเอาผิดร้านดังกล่าว
น.ส.ศิรินภา และ นายเอกวิทย์ คู่บ่าวสาว เปิดเผยว่า ตนทั้งคู่ได้วางแพลนแต่งงานกัน โดยศึกษาและเลือกร้านเวดดิ้งที่คิดว่าดีที่สุด และติดตามผลงานของร้านออร์กาไนซ์ร้านดังกล่าวมานานแล้ว ชื่นชอบในเรื่องการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งและการจัดสถานที่แต่งงาน ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 65 ตนได้เข้ามาติดต่อร้านเวดดิ้งดังกล่าว ซึ่งเป็นร้านเวดดิ้งชื่อดังของเมืองเพชรบุรี-ราชบุรี ตั้งอยู่ที่ ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชบุรี และก็ได้เลือกโปรโมชั่นจากจากร้านที่แพงที่สุดของทางร้านเพื่อต้องการให้ได้การบริการในการจัดงานแต่งที่ครบ จนใกล้ถึงวันเวลาที่ตนทั้ง 2 คนจะจัดพิธีแต่งงาน จึงได้เดินทางไปที่ร้านเพื่อพูดคุยในเรื่องการจัดงานในวันแต่งงาน และเลือกแพ็กเกจ 49,999 บาท และขอลดกับทางร้านจนเหลือราคา 40,000 บาท พร้อมคอนเฟิร์มวันแต่งงานคือวันที่ 6 พ.ย. 65
โดยที่ทางเจ้าสาวและเจ้าบ่าว ได้ออกแบบธีมงานเป็นชุดขาวเขียว และดูตัวอย่างฉากต่าง ๆ ที่ทางร้านได้เสนอมา พร้อมทั้งระบุทั้งเรื่องชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวชุดเพื่อนเจ้าสาว การตกแต่งสถานที่และพิธีงานทางศาสนา ซึ่งทางเจ้าของร้านตอบรับและยืนยันสามารถจัดฉากได้ตามที่ต้องการ ซึ่งทางร้านได้บอกว่าชุดเจ้าสาวทางร้านจะสั่งตัดให้ใหม่ ทั้งชุดไทยและชุดราตรี โดยที่ตนเองได้ไปหาแบบชุดและส่งให้กับทางร้านว่าต้องการในลักษณะนี้ ทั้งชุดไทยและชุดราตรี โดยทางร้านจะตัดให้ตามที่ตนเลือกแต่เนื้อผ้าอาจจะไม่ได้เนื่องจากราคาที่เลือกไว้ แต่โดยรวมแล้วต้องเป็นไปตามแบบที่ตนได้เลือกไว้ และทางร้านได้ขอเบิกเงินไปจำนวน 10,000 บาท เพื่อนำไปให้ร้านตัดชุดราตรี
น.ส.ศิรินภา เปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นทางร้านได้มีการนัดให้ตนและเจ้าบ่าว ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง เพื่อนำภาพมาใช้ในงานแต่ง หลังจากถ่ายเสร็จได้ตกลงนัดวันเพื่อที่จะส่งภาพมาให้เลือก จนกระทั่งใกล้ที่จะถึงวันงานทางร้านก็ไม่ส่งภาพมาให้เลือก ตนก็ได้มีการทวงถามไปแต่ก็ยังไม่ได้ จึงได้ไปหาช่างมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสำรองไว้อีก 1 ชุด จนกระทั่งผ่านไป 2 เดือน ทางร้านส่งภาพมาให้เลือกเพื่อที่จะนำไปใช้ในงาน ซึ่งได้เลือกไว้และส่งไปกลับไปให้ทางร้านเพื่อให้ทางช่างภาพได้แต่งภาพ แต่ปรากฏว่าภาพที่ได้มาไม่สวยถูกใจ จึงได้นำไฟล์ภาพมาให้ช่างอีกร้านได้แต่งให้ ซึ่งก็ต้องเสียเงินค่าแต่งภาพอีก
ส่วนการจัดสถานที่งานแต่ง นางสาวศิรินภา เจ้าสาวก็บอกว่า ไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้เลย โดยได้จัดงานที่บ้านของทางเจ้าสาว ม.2 ต.บางแก้ว อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ห้องที่ประกอบพิธีสงฆ์ ทำบุญเจริญพุทธมนต์ ตกลงไว้ว่าเป็นธรีม ขาวเขียว แต่กลับได้ ขาวทอง ส่วนชุดที่รถน้ำสังข์ ตามแบบจะเนรมิตข้างตัวบ้านเป็นอีก 1 ห้อง ด้วยการจัดด้วยผ้าขาว แต่ถึงเวลาจริง กลับไม่มี ส่วนฉากหลัง ซุ้มดอกไม้น้อยมาก จากแบบเดิมที่ตกลงครั้งแรก ไม่ตรงตามที่ตกลงเอาไว้ ที่สำคัญไม่มีชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาว ในส่วนของฉากกินเลี้ยง ฉากเดินเข้างาน และ ฉากถ่ายภาพ ไม่มีการประดับตกต่าง เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้ถ่ายภาพกับซุ้มเป็นที่ระลึก ซึ่งมีแต่คนพูดว่าเข้ามาในงานแล้วไม่มีการประดับตกแต่งสถานที่ให้ ได้ถ่ายเลย ซึ่งแขกที่มาร่วมงานก็ยังไม่รู้ว่าตนเกิดปัญหาอะไร มีแต่คนสอบถามว่าไม่มีสถานไว้ให้เป็นที่ระลึกได้เลย
จนช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย. ทางร้านออร์กาไนซ์ทางร้านได้ส่งข้อความมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่าเป็นอุบัติเหตุของงานที่เกิดขึ้น ทางร้านขอโทษและจะขอคืนมัดจำให้ 25,000 บาท ไม่มีการโทรมาขอโทษเพื่อแสดงความจริงใจแต่อย่างไร เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ตนเสียใจที่สุด โดยเฉพาะครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ต่างร้องไห้เสียใจ เพราะเกิดความอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แขกประมาณ 600 คน ที่มาร่วมงาน และเดินทางเข้ามาในงานต่างพูดกันว่า ไม่มีการจัดสถานที่อะไรเลย ไม่มีจุดถ่ายภาพหน้างาน และอีกอย่างหนึ่งที่ตนกับเจ้าบ่าวเสียความรู้สึกอย่างมาก
ซึ่งทางเพื่อนที่ช่วยกันไปหาร้านเช่าชุดเจ้าสาวมาให้ ได้สอบถามไปยังร้านเวดดิ้งดังกล่าวว่า จะให้ทางร้านรับผิดชอบในส่วนของค่าเช่าชุด แต่ทางร้านแจ้งว่าไม่สามารถรับผิดชอบได้ เพราะทางร้านมีชุดแต่บ่าวสาวไม่เลือกใส่เอง และ “ทางร้านก็ยังคงอยู่จัดสถานที่ในงาน ดีไม่ปล่อยให้ทางเจ้าสาวไปฟ้องร้องค่าเสียหายเอาเอง” ทำให้ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างรู้สึกตกใจและเสียใจเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เหตุการณ์นี้ไม่น่ามาเกิดที่คู่ของตนเองเลย
น.ส.ศิรินภา และ นายเอกวิทย์ คู่บ่าวสาว เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางร้านเวดดิ้งดังกล่าวให้ถึงที่สุด ที่ สภ.บ้านแกลม จ.เพชรบุรี
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านเวดดิ้ง ตั้งอยู่ที่ ต.นองชุมพล อ.เข้าย้อย จ.เพชรบุรี พุดคุยกับ นายอาทิตย์ เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดของทางร้านเอง ที่ทางลูกน้องไม่สามารถเดินทางไปเก็บของที่ติดตั้งจัดงานแต่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ประจวบตีรีขันธ์ ทำให้ไม่สามารถจัดประดับตกแต่งซุ้มภายในงานได้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งงานหรือเทงานแต่อย่างไร แต่เพียงว่าไม่สามารถจัดงานให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ได้ ตนก็ยังคงอยู่ภายในบ้านของทางเจ้าสาวจัดประดับตกแต่งบ้านให้ดูสวยงามไม่ได้หลบหนีหรือทิ้งไปไหนทำให้สามารถดำเนินพิธีจนจบ ตนก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน จัดงานมาหลายที่หลายงานไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เลย นับเป็นครั้งแรกที่ตนได้เจอเหตุการณ์ดังหล่าว
ตนก็บอกกับทางเจ้าสาวว่า เมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าไปให้จบงาน ทางร้านยินดีโอนเงินที่เก็บมัดจำล่วงหน้า 25,000 บาท คืนให้กับทางเจ้าสาว และไม่เก็บเงินเพิ่มแต่อย่างไร ทั้งหมดนี้จัดงานให้ฟรีเพื่อเป็นการขอโทษ ทั้งนี้ตนก็พยายามติดต่อทางฝ่ายเจ้าสาวเพื่อขอโทษและโอนเงินคืน เนื่องจากทางลูกค้ายังไม่ส่งช่องทางการโอนเงินคืนมาให้ หลังจากนี้ก็จะติดต่อพูดคุยกับทางลูกค้าอีกครั้งว่าจะหาทางออกที่ดีที่สุด
Advertisement