โฆษก ตร. ย้ำ 16 - 19 พ.ย. เลี่ยงเส้นทางประชุม “เอเปค 2022” เตือนผิดกฎหมาย ห้ามชุมนุมพื้นที่จัดประชุม ชวน "คนไทย" ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการบริหารจัดการจราจร และข้อห่วงใยการชุมนุม ตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ เพื่อรองรับการประชุมเอเปค 2565 มาต่อเนื่องในทุกภารกิจ ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์เน้นย้ำขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ห้วงระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย. 65 โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจาจร ได้แก่
1) ถนนรัชดาภิเษก แยกอโศกมนตรี- แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย ขอให้งดใช้ตลอด 24 ชม.
2) ถนนเพลินจิต (ขาเข้า), ถนนวิทยุ (ช่องทางหลัก) ตั้งแต่ แยกเพลินจิต – แยกสารสิน, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่ แยกราชประสงค์ – แยกราชดำริ, ซอยต้นสน ตลอดสาย และซอยร่วมฤดี ตลอดสาย ขอให้งดใช้ช่วงเวลา ตั้งแต่ 18.00 น.-06.00 น. ของวันถัดไป
3) จัดเดินรถทางเดียว (one way) ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่ แยกราชดำริ - แยกราชประสงค์, ถนนวิทยุ (ขาออกช่องคู่ขนาน) ตั้งแต่ แยกสารสิน – แยกเพลินจิต และถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต – แยกราชประสงค์
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวต่อว่า พร้อมทั้งขอแจ้งปิดให้บริการสถานี MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยงดจอดรับส่งผู้โดยสารในสถานีนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 65 เวลา 00.01 น. - จนถึงวันที่ 19 พ.ย. 65 เวลา 18.00 น. ขณะเดียวกัน “ปิดให้บริการ” สวนป่าเบญจกิติ ตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย. 65 เนื่องจากสวนดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของฝ่ายความมั่นคง และเป็นสถานที่ใกล้กับจุดที่มีการประชุมกัน จึงต้องให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุด นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กำหนดวันหยุดราชการ เป็นกรณีพิเศษในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ระหว่างวันที่ 16 - 18 พ.ย. 65 รวมทั้งให้สถานศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี และจ.สมุทรปราการทุกสังกัดหยุดการเรียนการสอน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร อำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้เข้าร่วมการประชุม รวมทั้งเพื่อให้การอารักขาและการรักษาความปลอดภัยผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพสูงสุด
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นการชุมนุม ตามที่ปรากฏข้อมูลว่าจะมีการนัดชุมนุม เพื่อแสดงความคิดเห็นด้านต่างๆ ในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค นั้น แม้ว่าการชุมนุมสาธารณะจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่กระทบสิทธิบุคคลอื่น และไม่กระทบต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค หากจะมีการยื่นข้อเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้จัดสถานที่อำนวยความสะดวกสำหรับการยื่นหนังสือไว้แล้ว ขอให้ไปยื่นตามสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ ทั้งนี้ผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุมต้องแจ้งการชุมนุมต่อหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่นั้นล่วงหน้า และตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดสถานที่ตามนัยมาตรา 8 (5) แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 กำหนดสถานที่จัดการประชุม 1 แห่ง และโรงแรมที่พักจำนวน 19 แห่ง เป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้มีการชุมนุมกีดขวางทางเข้า-ออก รบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการของสถานที่ดังกล่าว หากมีการฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าพนักงานอาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขหรือมีคำสั่งให้ถือปฏิบัติ หากฝ่าฝืนโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในส่วนมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม ตร.ได้ร่วมหารือกับ การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กำหนดเขตพื้นที่ห้ามบินอากาศยาน โดยเฉพาะอากาศยานไร้คนขับ และอากาศยานที่ไม่ได้รับอนุญาตให้บินในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่วันที่ 13 - 21 พ.ย.65 (No fly zone) เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว หากมีโดรนหน่วยงานราชการใดหรือของเอกชนมาบินก็จะถูกชุดแอนตี้โดรน เข้าไปดำเนินการทันที
“ขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ในการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค อันจะเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการค้าและการลงทุน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป อีกทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดสายด่วน 1197 กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ให้ประชาชนสอบถามการจราจร และเส้นทางเลี่ยงในห้วงดังกล่าว ตลอดจนแจ้งเบาะแส ข้อมูลหรือสิ่งผิดปกติให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ที่โทรสายด่วน 191 หรือ 1599” พล.ต.ต.อาชยน กล่าว