“ศรีสุวรรณ” นำชาวตำบลสำนักท้อน อ.บ้านฉาง ฟ้องศาลปกครอง ขอระงับรันเวย์ที่ 2 สนามบินอู่ตะเภา ระบุได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศ
วันที่ 14 พ.ย. ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมกับแกนนำชาวตำบลสำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงและมลพิษทางอากาศจากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาในโครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 เข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยฟ้องกองทัพเรือ คณะกรรมการ EEC สำนักการบินพลเรือน และคณะกรรมการ คชก. ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้ผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภารตะวันออก(EEC) เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 โดยมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้เอกชนจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA)ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายงาน EHIA ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้วเมื่อวันที่ 17 ก.พ.65 และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 แต่เนื่องจากชาวตำบลสำนักท้อน ได้คัดค้านมาโดยตลอดว่าการจัดทำรายงาน EHIA มีความผิดปกติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแผนที่เส้นเสียงสูงสุด (NEF มากกว่า 40) ครั้งล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นเสียงใหม่ ทำให้เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 ลดลงจากครั้งก่อน 480 ครัวเรือน เหลือ 80 ครัวเรือน และมาเพิ่มขึ้นเป็น 93 ครัวเรือน จึงทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งให้มีการทบทวนการคิดคำนวนเสียใหม่ โดยให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลาง อาทิ NIDA มาดำเนินการศึกษาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับตามหลักวิชาการ
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นชาวตำบลสำนักท้อน พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนายกรัฐมนตรี ส.ส.ในพื้นที่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยื่นต่อคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นสนามบินอู่ตะเภาของสำนักงานการบินพลเรือนฯ ด้วย แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด ในที่สุดจำต้องมาขอให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้ช่วยเป็นภาระในการฟ้องร้องทางศาล เพื่อเพิกถอนกระบวนการจัดทำ EHIA และระงับการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภาด้วย
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ เพราะเมื่อสืบข้อมูลเชิงลึกลงไปแล้วมีกลิ่นไม่ค่อยดีหลายโครงการ จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไป เพราะมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่ภาครัฐกลับมองเห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน คิดแต่เพียงจะลดค่าใช้จ่ายที่จะต้องซื้อคืนที่ดินจากชาวบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน