ดาบตร.โหดรัวฆ่าเสี่ยโอเกะแก๊งสาวถีบชิงปืน เมียแฉชักดาบค่าเหล้ากุเรื่องเมาบิดคดี (คลิป)

จากกรณี นางจารุวรรณ เจือละออง อายุ 55 ปี ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนว่าสามีหรือ นายประเนตร เจือละออง อายุ 55 ปี ถูกดาบตำรวจสันติภาพ ฤทธิ์อิทธิพัทธ์ สภ.สิงหนครก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงเสียชีวิต กระสุนปืนเข้าที่บริเวณศรีษะและขารวม 2 นัด นอนเสียชีวิตที่บริเวณหลังร้านคาราโอเกะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 5 ริมถนนสิงหนคร-ระโนด ต.ชิงโค อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากว่าเหตุเกิดวันที่ 13 พ.ย. 65 เวลา 02.30 น. และทางญาตินำศพ นายประเนตร ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสว่างอารมณ์ แต่ล่าสุดดาบตำรวจได้รับการประกันตัวออกมา

วันที่ 15 พ.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางไปวัดสว่างอารมณ์ พบ นางจารุวรรณ นำเอกสารเป็นบันทึกประจำวัน, บันทึกแจ้งความ พบว่าในบันทึกประจำวันลงบันทึกไว้ว่า “ผู้ตายไปนั่งดื่มเหล้ากันที่บ้านที่เกิดเหตุและได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเป็นเหตุให้ดาบตำรวจฯ ใช้อาวุธปืนยิงนายประเนตรเสียชีวิต” ซึ่งบันทึกฉบับนี้ นางจารุวรรณมองว่าไม่เป็นธรรมตั้งแต่ต้น เพราะสามีไม่ได้ทะเลาะวิวาทกับดาบตำรวจฯ โดยมีความพยายามเข้าไปแจ้งความใหม่ขอให้ตำรวจเปลี่ยนสำนวนถึง 2 ครั้ง แต่ถูกบ่ายเบี่ยง

และยังให้ดูหนังสือคำร้องต่อศาลเพื่อขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องโดยระบุไว้ชั้นเจนว่า มีความประสงค์ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ในระหว่างการสอบสวนตลอดการพิจารณาคดีของศาล เนื่องจากคดีเป็นคดีอุกฉกรรจ์มีอัตราโทษสูงและผู้ต้องหาซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการตำรวจ หากปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือข่มขู่คุกคามพยานบุคคลที่เป็นประจักษ์พยานและผู้รู้เห็น

โดยนางจารุวรรณ บอกว่าตนเองได้แค่ยื่นคำร้องนี้ต่อศาลไม่ได้เข้าไปโต้แย้งอะไรต่อศาลเลย ได้แค่นั่งรอที่ศาลฯ แต่ไม่นานก็ทราบว่าดาบตำรวจได้รับการปล่อยตัว โดยมีหนังสือมาให้ตนหนึ่งฉบับ เป็นหนังสือคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวของดาบตำรวจฯวงเงินตีราคาประกัน 400,000 บาท และมีเงื่อนไขแค่ว่าห้ามข่มขู่คุกคามพยานและห้ามเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี ตนเองจึงมองว่าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้สูญเสีย เพราะหลังจากดาบตำรวจถูกปล่อยตัวออกมามีเด็กในร้านแจ้งว่าพบดาบตำรวจมาเดินวนเวียนที่ร้านเมื่อวันที่ 14 พ.ย.65

นางจารุวรรณ เล่าอีกว่า วันนั้นตนมีญาติโทรมาบอกว่าพี่เนตรโดนจ่ายิง ตนตกใจมาก ว่าดาบตำรวจมายิงแฟนตนทำไม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดาบตำรวจมากินที่ร้านไม่ค่อยจ่ายเงิน แต่แฟนตนก็ไม่ว่า ซึ่งเรื่องนี้ตนทราบมาจากเด็กที่ร้านว่าดาบตำรวจมีนิสัยแบบนี้ ร้านของตนเปิดมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ทราบจากเด็กร้านว่าดาบตำรวจมาดื่มที่ร้าน 3 ครั้ง ไม่เคยจ่ายเงิน ดาบฯมักอ้างว่าเป็นคนคุมที่นี่ ซึ่งเรื่องนี้แฟนไม่ได้เล่าให้ตนเองฟัง ดังนั้นเห็นได้ชัดเจนว่าที่ผ่านมาดาบฯไม่จ่ายเงินค่าเหล้า แฟนตนก็ยังไม่เคยมีปัญหาด้วยเลย

ขณะเดียวกันในบันทึกประจำวันเขียนไว้ว่าแฟนตนนั่งดื่มด้วย ก็ไม่เป็นความจริง เพราะแฟนตนมีโรคประจำตัวทั้งเบาหวาน, เก๊าท์, ความดัน และกำลังเริ่มเป็นไต 2.8 เปอร์เซ็น หมอห้ามดื่ม จึงยืนยันว่าแฟนไม่ได้ดื่มเหล้าแน่แนน

ส่วนเรื่องใบบันทึกประจำวันลงไว้ว่า แฟนตนทะเลาะวิวาท ตนจึงไปโรงถึงพัก 3 รอบ ๆ แรก ขอแจ้งความเพิ่มตำรวจบอกว่าลงบันทึกเหตุการณ์ไว้แล้ว และปัดกันไปมาตนก็รู้สึกสกิดใจแล้วเพราะดาบตำรวจปฏิบัติหน้าที่สถานีตำรวจแห่งนั้นมรพวกพ้องหรือไม่ จากนั้นช่วงเย็นตนทราบว่าดาบตำรวจไปมอบตัว จึงจะไปข้อค้านประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน แต่ไม่มีคนรับเรื่องเลย และอ้างให้ไปหา ผู้กำกับที่บ้านพัก ก็ไม่มีใครพาไป กระทั่งรอบที่ 3 ผู้กำกับก็สั่งให้ตำรวจชั่นผู้น้อยอีกนายมาเซ็นรับแทน

กระทั่งส่งตัวนายดาบไปศาลให้ตนยื่นแค่หนังสือ นั่งไม่นานมีเจ้าหน้าที่มาบอกว่า ให้ประกันตัวแล้ว ไม่มีโอกาสเข้าไปโต้แย้งต่อหน้าศาลเลย จนพนักงานมาบอกว่าหลักปนะกันตัวมานายดาบ มาเดินวนเวียนหน้าร้าน ทำให้ทุกคนหวาดกลัวกันมาก วันนี้มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนเป็นประชาชนจะไปทะเลาะกับคนมีสีทำไม

อย่างไรก็ตามวันนี้ตนขอร้องตำรวจชั่นผู้ใหญ่ ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ให้ความเป็นธรรมกับพี่เนตรด้วย พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถ้าดวงวิญญาณพี่มีจริงก่อนไปสู่ภพที่ดี ไปดลใจให้ผู้ใหญ่มาช่วยให้ความเป็นธรรมกับพี่เนตรด้วย มั่นใจ 100% พี่เนตรไม่มีนิสัยทะเลาะกับใครแน่นอน

ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านคาราโอเกะจุดเกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ไม่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด พบ น.ส.ณัฐนิชา คงสี ผจก.ร้าน พาทีมข่าวชี้ 2 จุด ๆ ที่นายดาบตำรวจนั่งดื่มเป็นโต๊ะเสริมกลางร้านหน้าตู้คาราโอเกะ

และจุดเคาเตอร์เช็กบิลในร้าน ซึ่งเป็นจุดที่นายดาบฯ ขึ้นเสียงและเบี้ยวค่าเหล้าจำนวน 810 บาท โดย น.ส.ณัฐนิชา เล่าว่าปกติร้านจะปิดเที่ยงคืนแต่ดาบฯ มาก่อนเที่ยงคืนนิดหน่อยและมาจอดรถ จยย.ตำรวจ เป็นรถสายตรวจปกติที่ดาบฯใช้ ก่อนมานั่ง-เดิน ชมภายในร้านตามประสาตำรวจได้แค่ 10 นาที และพบว่ามีอาการมึนเมา คาดว่าดื่มมาจากที่อื่นจากนั้นร้านปิดลูกค้าก็กลับกันไปจนหมด

จากนั้นนายหัวหรือผู้ตายขับรถเข้ามาจอดหลังร้านซึ่งเป็นปกติที่นายหัวจะมาดูร้านหลังร้านปิด และกำลังจะเดินเข้าออฟฟิศทำบิล แต่ดาบฯ มาเรียกไปนั่งดื่มด้วยบอกว่า “ปะพี่เนตรนั่งดื่มกับผมสักแบนที่โต๊ะ” แต่นายหัวป่วยเป็นโรคไตพึ่งตรวจพบจึงไม่ดื่มก็เลยนั่งเอนเตอร์เทนร้องเพลงให้ดาบฯ ฟัง เพราะนายหัวมีความสามารถในด้านร้องเพลง ซึ่งทั้งคู่นั่งกันจนถึงตี 2 ร้านปิดแล้วและไม่เหตุทะเลาะกันเลย

ต่อมาตนจึงเคลียร์บิลเพราะพนักงานก็ง่วงกันแล้วจึงให้พนักงานนำบิลไปให้ดาบฯ ระหว่างนั้นดาบลุกจากโต๊ะมาที่เคาเตอรในร้านพอดี น้องพนักงานจึงยื่นบิลให้ ค่าเหล้า 810 บาท แต่ดาบฯ ปฏิเสธบอกว่าไม่จ่ายเพราะกินกับเจ้าของร้านทำไมต้องจ่าย จากนั้นนายหัว จึงเดินตามมาคุย ก่อนพูดว่า “ตัวเองดื่มคนเดียวก็ต้องจ่ายน้องเขาเพราะน้องลงทุนจะได้นำไปเงินไปซื้อของเข้าร้าน” ทำไมต้องจ่าย นายหัว จึงบอกว่าพี่นั่งด้วยงั้นลดให้ 400 บาท พี่จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง ค่านั่งด้วย แต่ดาบก็ยันว่าไม่จ่าย ทำไมต้องจ่าย แค่มาอุดหนุนด้วยก็ดีเท่าไรแล้ว ซึ่งนิสัยดาบฯ เป็นแบบนี้ทุกครั้งโดยตั้วแต่เปิดดาบมาร้าน 3 ครั้ง ครั้งแรก เบียร์ 1 ขวด ก็ไม่เคยจ่าย ครั้ง 2 เบียร์ 2 ขวด และครั้งที่ 3 ค่า 1 ชุด 400

ซึ่งวันนั้นนายหัวเลยตัดปัญหาไม่คิดเงิน และไปส่งจนดาบเดินเหยียบสังกะสีดัง 1 ครั้ง แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น น้องพนักงานตะโกนว่า “มึงนายหัวกูทำไม” ก่อน เสียงปืนนัดสองดังขึ้น ช่วงนั้นตนจึงเปิดประตูออกมาจากออฟฟิศสิ่งที่เห็น พบว่านายหัวถูกยิงเข้าที่หัวแล้ว ซึ่งก็ได้แต่กอดนายหัว ส่วนน้องพนักงานก็กอดรัดฟัดกับดาบฯ ก่แนมีคำพูดจากดาบว่า “เอาให้จบ” และหันปืนจะยิงตน

จากนั้นน้องจึงกระโดนถีบ ฟัดกันกับดาบฯ ก่อนน้องร้องให้ตนช่วย เพราะดาบฯหันปืนมาที่ตน ตนจึงกระโดดถีบ แต่เห็นมือกาบฯกำปืน นิ้วชี้เหนี่ยวไกลปืนไว้แน่น ตนจึงหักนิ้วกาบฯ ควักปืนออกไปให้น้องหน้าร้าน ที่ออกไปขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งกลับมานายหัวไม่มีลมหายใจแล้ว ส่วนดาบยืนดูเหตุการณ์หลังนายหัวเสียชีวิต ไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองทำผิด ส่วนตำรวจมาในที่เกิดเหตุก็ไม่ควบคุมตัว

ทั้งนี้ยืนยันคำให้การ 3 คน ไม่มีใครพูดว่าทะเลาะกัน มีแต่ผู้ก่อเหตุขึ้นเสียงคนเดียว ขู่ว่าถ้าไม่จ่ายจะทำไมร้านนี้กูคุม สั่งปิดเมื่อไรก็ได้ ตนจึงสงสัยทำไมตำรวจวิเคราะห์คำให้การว่าทะเลาะวิวาท นอกจากนี้มีชาวบ้านบอกว่า วันที่นายดาบโดนปล่อยตัว ซึ่งเข้าใจรถจักรยานยนต์ตำรวจอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าวันที่ประกันตัวออกมา ๆ มาดูรถหรือมีเจตนาอะไร อย่างไรก็วันนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับพวกตน ตำรวจคนที่ประชาชนฝากชีวิตคนที่จะช่วยเรามาทำกับเราแบบนี้และเราจะเชื่อใจตำรวจได้อย่างไร