วันที่ 22 พ.ย. 65 ที่วัดศาลาแดง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ผู้สื่อข่าวรายงาน ครอบครัวนำศพ "นายมาวิน เนตรเดชา หรือ น้องมาวิน" อายุ 18 ปี นักท่องเที่ยวชาว กทม. ที่พลัดตกเจ็ตสกีจมหายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบร่างจมลึกกว่า 70 เมตร ก่อนจะกู้เอาร่างขึ้นมาได้ จัดบำเพ็ญกุศลศพ 5 วัน ก่อนจะฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. 65
โดยทางครอบครัวได้จัดดอกไม้ในงานศพเน้นธีมสีเขียวและสีขาว ซึ่งเป็นสีที่น้องมาวินชอบขณะมีชีวิต พร้อมนำดอกเบญมาสสีขาวแซมใบไม้สีเขียวตกแต่งหน้าโลงศพอย่างสวยงาม
และคุณแม่ได้นำรถจักรยานยนต์ yamaha xmax แต่ง สีเขียวลายการ์ตูนดำ เป็นรถคันโปรดของน้องมาวิน ที่น้องมาวินขี่ขณะลงแข่งรถ พร้อมทั้งถ้วยรางวัล และหมวกกันน็อกของน้องมาตั้งโชว์ด้วย
นายศุภวิช นิจศรีวงษ์ อายุ 29 ปี เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทของน้องมาวิน เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองรู้จักและสนิทสนมกับน้องมาวินมาได้ประมาณห้าถึงหกปีแล้วโดยตนเป็นลูกศิษย์ของพ่อของน้องมาวินเกี่ยวกับการแต่งรถทำให้ได้คลุกคลีกับน้องมาวินมากพอสมควร
ซึ่งน้องมาวินได้คลุกคลีกับวงการรถแต่งและวงการแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากอยู่อาศัยกับคุณพ่อ ทำให้น้องมาวินมีความชื่นชอบในวงการรถแข่งอย่างมาก เพราะเห็นคุณพ่อเป็นต้นเเบบ ซึ่งน้องมาวินเริ่มเข้าวงการแข่งรถตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปี ได้รับถ้วยรางวัลแข่งขันหลายรางวัล ทั้งที่ 1, 2, 3 เเละได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ประมาณ 4-5 สนาม
ซึ่งถ้วยรางวัลที่นำมาตั้งหลังรถจักรยานยนต์ตรงนี้เป็นถ้วยรางวัลที่น้องมาวินแข่งขันได้ที่หนึ่ง ในรายการ Scooter racing day ซึ่งเป็นการแข่งขันรถ xmax 300 ซึ่งหลังจากเเข่งชนะ ก็จะได้เงินรางวัลเเละได้รับสปอนเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของน้อง เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุด โดยเเข่งตั้งเเต่วันที่ 22 ก.พ. 65 ซึ่งน้องมาวิน เป็นนักเเข่งรถที่มีชื่อเสียงพอสมควรในวงการเเข่งรถ ส่วนรถคันสีชมพู ก็เคยได้เเชมป์เมื่อตอนน้องอายุ 13-14 ปี ส่วนรถคันสีเขียวเป็นชื่อของตนเเละชื่อนักเเข่งคือน้องมาวิน
นายศุภวิช เปิดเผยอีกว่า ก่อนที่น้องมาวินจะเสียชีวิตได้ประมาณหนึ่งเดือนยังเคยพูดกับตนเองอยู่ว่าอยากจะแข่งรถแข่ง ขอให้ตนช่วยแต่งรถให้ซึ่งตนก็ได้รับปากไว้แล้ว เเละอยากจะให้น้องมาวินกลับมาช่วยพ่อเเต่งรถเหมือนเดิม เเต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุกับน้องเสียก่อน
ตั้งเเต่วันเเรกที่น้องหายตัวไป ตนกับพ่อของน้องมาวินก็ช่วยกันออกตามหามาตลอด ทำทุกอย่างที่คิดว่าจะเจอน้อง ตนสงสารพ่อน้องมาวินอย่างมาก เขาเป็นคนไม่ค่อยออกสื่อมีอะไรก็ไม่ค่อยพูด ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใคร ปากเเข็งบอกไม่รักลูกเเต่เอาเข้าจริงเเล้วจะมีใครบ้างไม่รักลูกตัวเอง ยังไม่มีใครรับได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ตนอยากจะให้น้องไปดีตนก็จะคอยอยู่ช่วยงานเเละเป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องมาวินต่อไป
ต่อมาทีมข่าวได้สอบถาม นางจุรีพร ชูเลิศ อายุ 51 ปี เเม่ค้าขายล็อตเตอรี่ที่เดินทางมาขายที่บริเวณด้านหน้าศาลาที่จัดงานศพน้องมาวิน
โดยนางจุรีพร เปิดเผยว่า เลขฝาโลง 749 หมดเกลี้ยงเเผงไปแล้วตั้งเเต่เมื่อวานหลังจากข่าวออกไป เพราะเเผงตนจะมีประมาณ 1-2 ชุดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มาซื้อก็จะเป็นคนที่ติดตามข่าวของน้องมาวิน เพราะน้องตกเขื่อนศรีนครินทร์ไปหลายวัน
ทั้งนี้ เเม้เลข 749 จะหมดเเผงเเต่เลขตัวอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับน้องมาวินก็ยังคงขายดีอยู่ เช่น เลข 19, 20 ซึ่งเป็นเลขเวลาหรือวันที่ ที่เจอร่างน้องคือวันที่ 19 เจอร่าง วันที่ 20 ร่างขึ้นจากน้ำ หรือเลขอายุน้อง 18 ก็ยังมีอยู่ เเต่ที่ดังมาก ๆ ก็จะเป็น 749 ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเองก็ไม่ได้ขายราคาแพงอะไรก็ขายราคาตามปกติ ซึ่งในแผนของตนอะไรที่เกี่ยวกับเลข 3 ตัวนี้เกลี้ยงแผงไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เเต่ในวันนี้ ก็ยังมีคนมาตามหาเลขนี้ตลอด
ในขณะที่อีกแผงหนึ่งมีเลขตัวกลับ คือ 947 กับ 794 เเละมีเลข 20 ด้วย โดยบรรยากาศหน้าแผงขายล็อตเตอรี่มีเพื่อน ๆ เเละครอบครัวของน้องมาวินมามุงดู เพื่อหาตัวเลขที่อยากได้
ด้าน น.ส.เกศรา เฟื่องฟู หรือ แม่เก๋ คุณแม่ของน้องมาวิน เปิดเผยว่า ตอนนี้เข้าสู่คืนสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนที่สองตอนนี้สภาพจิตใจของตนเริ่มดีขึ้นมากแล้ว ตนรู้สึกดีใจมากตั้งเเต่วันที่ 19 พ.ย. ที่เจอร่างน้อง เเต่ยังไม่สามารถเก็บกู้ร่างลูกชายขึ้นมาได้ จนกระทั่งวันที่ 20 พ.ย. พี่ ๆ กู้ภัยเเละทีมโดรนถึงนำร่างน้องขึ้นมาจากน้ำได้สำเร็จ ตนรู้สึกดีใจอย่างมากจนพูดไม่ออก
ในวันพรุ่งนี้ 23 พ.ย. ทางทีมผู้ใหญ่เบียร์และพี่พี่กู้ภัยทั้ง 4 ภาคจะร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพ ตนยังยืนยันคำเดิมว่า ขอบคุณมาก ๆ ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ทั้ง 20 ทีมที่มาช่วยตั้งเเต่วันเเรกจนถึงวันสุดท้าย รวมถึงบริษัท ฟอร์ด เอสพีกรุ๊ป ที่ตนทำงาน ที่เข้าใจเเละเห็นใจตนเเละคอยช่วยเหลือมาตลอด
ส่วนในวันศุกร์ที่ 25 พ.ย. ตนเเละเด็ก ๆ ที่อยู่บนเเพจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพเเละได้ติดต่อประสานไปยังวงดนตรี P.A.P. BEAT BAND ซึ่งเป็นวงดนตรีที่น้องมาวินชอบฟังโดยวงนี้จะมาเล่นเพลง “ท้อ” เพลงโปรดของน้องมาวิน ที่เปิดให้เเม่ฟังบ่อย ๆ เเละมาเล่นให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย ตนรู้สึกดีใจอย่างมากที่ทุกคนมาช่วยกันทำให้น้องมาวินครั้งสุดท้ายมากขนาดนี้
ส่วนประเด็นเรื่องที่น้องมาวินชอบเเข่งรถ ตนเองก็ทราบมาตลอด ว่าลูกรักการเเข่งรถมาตั้งเเต่เด็กๆ จนโตมาก็สามารถเป็นนักเเข่งรถอาชีพได้ ตนยอมรับว่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูก เพราะ เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความเร็ว เเต่ตนก็เชื่อมั่นในตัวลูกชายคนนี้ว่าน้องเป็นคนเก่งเเละมีความสามารถ รวมถึงเชื่อมั่นในตัวพ่อของน้องเเละร้านรถที่ลูกไปเเข่งให้ ตนไม่ได้กังวลมาก สุดท้ายตนยืนยันคำเดิมว่า “มาวินของเเม่เก่งที่สุด เก่งมากๆ เก่งมากจนไม่รู้จะเก่งยังไง สมชื่อมาวินจริง ๆ”
ทั้งนี้ปฏิบัติการกู้ร่างน้องมาวิน จากใต้เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 65 โดยมีการใช้โดรนในปฏิบัติการกู้ร่างครั้งนี้ ซึ่งไม่ได้มีการใช้นักประดาน้ำแต่อย่างใดนั้น
นายปัญญาพล พงศ์ชัยสิริกุล ผู้บังคับโดรน ในฐานะ ทีม 13 Store & Done Official หนึ่งเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานในวันดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีโดรนในการปฎิบัติการครั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้มีหน่วยงานภาครัฐติดต่อเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงการจะนำไปใช้ในการช่วยเหลือเกี่ยวกับภัยพิบัติของภาครัฐ แต่มีหน่วยงานตอบโต้ภัยพิบัติ ซึ่งมีการติดต่อเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ความน่าสนใจเกี่ยวกับการปฎิบัติการครั้งนี้ที่สำเร็จ และเตรียมที่จะมีการต่อยอดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำที่ทีมดำน้ำหรือนักประดาน้ำไม่สามารถลงไปปฏิบัติการได้ด้วยความลึกหรือขีดจำกัดของบุคคล และยังได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณภัยและการป้องกันภัย เริ่มมีการติดต่อเข้ามาเกี่ยวกับการขอแลกเปลี่ยนข้อมูลรวมถึงให้ไปเป็นวิทยากร
ส่วนแนวทางในอนาคต จะมีการปรับรูปแบบและติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม โดยจะติดตั้งอุปกรณ์โชน่าหรืออุปกรณ์ชาวเดอร์เพื่อที่จะให้โดรนมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบวัตถุใต้น้ำได้ในรัศมีที่มองเห็นได้ไกลขึ้น เพราะโดยปกติอุปกรณ์ดังกล่าวหากมีการติดตั้งบนเรือและหย่อนอุปกรณ์อยู่กลางแม่น้ำ จะไม่มีความแม่นยำเท่ากับติดตั้งเอาไว้กับตัวของโดรน ฉะนั้นจึงเตรียมที่จะมีการติดตั้งเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนในการปฎิบัติการครั้งต่อไป และแม้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะมีการใช้ไม้ไผ่ติดกับโดรนและมีการใช้เบ็ดเกี่ยวเพิ่ม โดยแม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำขึ้นพิเศษ แต่หลังจากนี้จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและสามารถที่จะแข็งแรงคงทน
โดยจะมีการถอดบทเรียนจากการใช้ไม้ไผ่ที่ติดเอาไว้ในครั้งนี้ เพื่อที่จะช่วยให้การกู้ภัยครั้งต่อไปทำได้ง่ายมากขึ้น และส่วนตัวก็เชื่อว่าหากมีกรณีผู้ที่เสียชีวิตหรือเกิดอุบัติเหตุจมน้ำในความลึกที่นักประดาน้ำไม่สามารถลงไปได้ ก็สามารถที่จะใช้อุปกรณ์โดรนใต้น้ำ ที่มีการปรับปรุงและเพิ่มอุปกรณ์พิเศษเข้าไป สามารถค้นหาและกู้ร่างขึ้นมาได้โดยทันที แต่กรณีเรื่องของขีดจำกัดเรื่องตัวน้ำหนักของโดรน เกี่ยวกับการนำร่างขึ้นมาจากน้ำ ส่วนใหญ่จะรับน้ำหนักได้มากถึง 80 กิโลกรัม และด้วยสภาพที่อยู่ในน้ำจะทำให้ตัวน้ำหนักมีความเบามากขึ้นจึงไม่ใช่เป็นอุปสรรค แต่ยกเว้นการเก็บกู้อุปกรณ์ที่ไม่ใช่ตัวคนที่มีอาจมีน้ำหนักมากกว่าอาจจะเป็นอุปสรรคเล็กน้อย
ทั้งนี้แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีโดรนใต้น้ำ เรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็นน้ำในทะเลหรือในแม่น้ำจืด ส่วนใหญ่สามารถทำได้เพราะรองรับทุกสภาพ ไม่ได้เป็นอุปสรรคหรือเงื่อนไขของการนำโดรนลงปฏิบัติการ สามารถทำได้ทั้งสองรูปแบบของชนิดน้ำ แต่อาจจะมีขีดจำกัดเกี่ยวกับเรื่องของกระแสน้ำ ซึ่งโดรน จะปฎิบัติการต่อเมื่อกระแสน้ำไม่เกิน 3 น๊อต เพราะถ้าหากเกินกว่านั้นจะทำให้ตัวโดนถูกพัดไปตามกระแสน้ำได้ง่ายและบังคับยากมากขึ้น
ผู้บังคับโดรน ยังเผยถึงปฏิบัติการในการกู้ร่างมาวินที่ผ่านมาว่า ในปฏิบัติการดังกล่าวต้องขอบคุณสำหรับทีมกู้ภัยและทีมตอบโต้ฯ ที่เข้ามา แนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์แบบชาวบ้านแต่ได้ผล จนทำให้ปฏิบัติการกู้ร่างของมาวินสำเร็จได้ ซึ่งหลังจากที่มีการปรับอุปกรณ์ดังกล่าวติดตั้งกับตัวของโดรนแล้ว ขั้นตอนของการนำไปกู้ก็มีการใช้เพียงโดรนเท่านั้น ส่วนนักประดาน้ำไม่ได้มีการนำร่างขึ้นมา เพราะเนื่องจากโดรนและเบ็ตเกี่ยวขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ แต่อาจมีข้อจำกัดเล็กน้อยเรื่องของแรงกดของน้ำที่ความลึกที่ 50-70 เมตร
โดยความลึกดังกล่าวจะมีแรงกดของน้ำค่อนข้างสูงทำให้ต้องมีการดึงสายเคเบิลที่ติดกับโดรน โดยมีการใช้น้ำหนักดึงพอสมควร แต่เมื่อพ้นจากระดับ 50 เมตรขึ้นมา ปรากฏว่าหลังจากที่หลุดจากแรงกดของน้ำ ทำให้ร่างของมาวินเริ่มที่จะมีฟองแตกออกมาจากร่าง แล้วช่วยพยุงทำให้ดึงขึ้นมาง่ายไม่ต้องออกแรงดึงมาก จนกระทั่งร่างถูกดึงขึ้นมาจนถึงระดับ 10 เมตร ปรากฏว่าแก๊สที่อยู่ภายในตัวจากเดิมที่กดทับร่างเอาไว้ไม่ให้แตกตัวหรือคล่องตัว ได้มีลักษณะแตกออกและพุ่งขึ้นมาบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว ช่วงระดับดังกล่าวจึงไม่มีการออกแรงยกแต่อย่างใด
ส่วนคำถามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้เบ็ตเกี่ยวร่างขึ้นมานั้น ไม่ได้มีการใช้วิธีการตวัดเหมือนลักษณะการตกปลา แต่มีการใช้โดนที่มีการติดตั้งเบ็ตบินโฉบไปที่บริเวณหัว และบินเข้าใกล้ร่างบริเวณส่วนของจมูกเพื่อที่จะให้ตัวของเบ็ตไปเกี่ยวโดนเสื้อผ้า จากนั้นใช้วิธีการเดินหน้าถอยหลังเพื่อที่จะให้เบ็ตไปเกี่ยวร่างแทน
ซึ่งจุดแรกพบว่าเบ็ตที่ติดอยู่บริเวณใต้ท้องเครื่องของโดรนไปเกี่ยวโดนบริเวณเสื้อ แต่อยากจะให้เกิดความแม่นยำว่าตอนที่ดึงร่างขึ้นมาไม่ได้หลุดออกง่าย จึงได้มีการนำไปเกี่ยวซ้ำใช้วิธีการเดิมโดยการเดินหน้าถอยหลัง เพื่อให้ไปเกี่ยวกับกางเกง หลังจากที่เป็นไปตามเป้าหมายจึงได้มีการยกร่างขึ้นมาตามระดับความลึกของน้ำ ซึ่งก็ไม่ได้มีนักประดาน้ำไปประจำจุดเพื่อรับร่างแต่อย่างใด
Advertisement