จากกรณีที่ทนายชื่อดัง “ตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวว่า มีดาราน้องใหม่ “เอ็ม” มาขอความช่วยเหลือหลังถูกดารารุ่นใหญ่ตบหน้ากลางห้างที่เกาหลี
ทนายตั้ม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" ระบุว่า "นักแสดงรุ่นใหญ่ลายคราม รับจ็อบพาลูกค้าซึ่งเป็นนักแสดงน้องใหม่ ไปเสริมหล่อที่เกาหลี ปรากฎว่าไม่พอใจที่ชวนไปกินปูแล้วน้องดาราไม่ไป ตบหน้าฉาดใหญ่กลางห้างดัง!!!"
ล่าสุด 25 พ.ย. 65 ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้า น้องเอ็มนักแสดงหน้าใหม่ได้ติดต่อตนมาทางอินสตาแกรม พร้อมบอกว่าถูกนักแสดงรุ่นใหญ่ทำร้ายร่างกาย สามารถดำเนินคดีในเกาหลีอย่างไรได้บ้าง เพราะเอ็มเดินทางไปเกาหลีกับนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ที่รับจ็อบเกี่ยวกับศัลยกรรมใบหน้า เนื่องจากผู้จัดการของน้องสนิทกับนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้ จึงทำให้ได้ไปด้วยครั้งแรกและไปเป็นหมูคณะ
ซึ่งเอ็มเล่าให้ตนฟังว่า "ในขณะที่อยู่เกาหลีระหว่างที่เดินช็อปปิ้งในห้างนักแสดงรุ่นใหญ่เกิดอยากกินห่อหมก อุ้ยไม่ใช่ เขาอยากกินปู แต่น้องเอ็มได้ปฏิเสธที่จะไปด้วย เนื่องจากไม่สะดวก ดารารุ่นใหญ่ฟิวส์ขาด ได้ตบไปที่ลำตัวของเอ็ม ก่อนที่จะตบเข้าที่ใบหน้าเต็มมือ 1 ครั้ง ท่ามกลางผู้คน เอ็มจึงรู้สึกไม่สบายใจ เกิดความอับอาย ได้ติดต่อไปบอกพ่อแม่ ครอบครัวก็เกิดการไม่พอใจ ไม่ได้มีความสนิทสนมกัน จึงต้องการดำเนินคดี และเลือกที่จะไม่เกรงใจแล้ว จึงบอกให้เอ็มไปแจ้งความที่เกาหลีและเก็บหลักฐานไว้ก่อนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ถึงแม้คดีจะเกิดนอกราชอาณาจักร แต่ก็สามารถดำเนินคดีในประเทศไทยได้ เพราะมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เรื่องนี้อัยการสูงสุดจะเป็นผู้รับผิดชอบในการฟ้องคดี แต่หากมีการรับโทษที่เกาหลีแล้วก็จะไม่สามารถดำเนินคดีต่อที่ไทยได้
ทนายตั้ม ระบุอีกว่าน้องเอ็มไม่ได้ไปในฐานะพรีเซ็นเตอร์ หรือได้รับสปอนเซอร์ น้องใช้เงินส่วนตัวทั้งหมดจ่ายค่าการทำศัลยกรรมเอง 200,000 กว่าบาท แต่ด้านนักแสดงรุ่นใหญ่ได้เปอร์เซ็นต์จากน้อง และตอนนี้เขาก็รู้ว่าเป็นข่าวแล้ว หลังจากที่ตนโพสต์เรื่องไปดารารุ่นใหญ่คนนี้ได้ติดต่อไปที่ผู้จัดการของน้อง เพราะน้องได้บล็อกการติดต่อทุกช่องทาง ไม่อยากจะยุ่งด้วย มีการย้ายโรงแรม เปลี่ยนเที่ยวบิน ไม่อยากจะเจอหน้าอีกแล้ว พอเขาได้ติดต่อไปที่ผู้จัดการของน้อง นักแสดงรุ่นใหญ่ได้พูดว่า ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ในเมืองไทย ยังมีการไปตำหนิน้องอีก น้องจึงคิดที่จะไม่เกรงใจแล้ว บอกให้ตนดำเนินการให้ถึงที่สุดเลย และอีกประมาณ 4 วันน้อง เอ็มจะกลับมาแถลงข่าว
ส่วนพฤติกรรมของนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้พอตนได้โพสต์เรื่องราวไป มีดาราท่านหนึ่งสามารถเดาได้ว่าเป็นใคร เขาจึงถามตนว่าดารารุ่นใหญ่คนนี้ได้ไปตบหน้าคนขับรถใช่หรือไม่ ตนก็บอกไม่ใช่ เขาได้ตบหน้านักแสดงน้องใหม่ เขาจึงบอกว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกันคนขับรถเขาแล้ว ส่วนจะจริงหรือไม่จริงก็ให้ไปตามสืบกันเอาเอง ทั้งนี้ ทางนักแสดงรุ่นใหญ่ก็ยังไม่ได้มีการติดต่อมาหาตน แต่จากที่ตนได้ไปเช็กพฤติกรรมของเขา เขาเคยใช้อินสตาแกรมไปด่าคนอื่นด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ จนโดนชาวเน็ตแบนมาแล้ว
ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า น้องเอ็มยืนยันว่าไม่มีการทะเลาะกัน และจากคำพูดของเอ็มบอกว่า "ผมรู้สึกว่าการที่มากับเขาผมมาเป็นลูกค้า แต่กลับต้องมาเอาใจ" น้องก็มาบ่นให้ตนฟังประมาณนี้ เขาต้องการมาทำศัลยกรรม ไม่ได้ต้องการมาดูแลใคร จากที่ตนได้ถามว่ามีสัมพันธ์อะไรกันไหม น้องยืนยันว่าไม่ได้มี นอนคนละห้องกัน และไม่ได้สนิทกันด้วย เพิ่งจะมาสนิทกันก็ตอนที่มา สุดท้ายอยากฝากถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ว่าการไปกินปูสามารถไปกินคนเดียวได้ ตนก็ไปกินคนเดียว และขอให้ขายห่อหมกดี ๆ แล้วกัน
จากการตรวจสอบบนอินสตาแกรม "ม้า อรนภา" อดีตนักแสดงและพิธีกรชื่อดังมาก ก็โพสต์ภาพทานปูด้วยนั้น ทีมข่าวสอบถามไปยัง ม้า อรนภา เจ้าตัวบอกว่า "ที่ทนายคนดัง เขียนมันเกินไป อย่าใช้คำว่าตบ ตนเองไม่มีอะไรจะพูด และไม่ใช่เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่แล้ว ไม่ใช่คนดัง และมีชื่อเสียงอะไร
หากถามว่าน้องคนดังกล่าวไปแจ้งความเลยหรือ "ม้า อรนภา" บอกว่าไม่ทราบ แล้วเรื่องทำศัลยกรรมน้องทำเสร็จแล้ว ตนเองก็ดูแลอยู่ รอจนวันตัดไหมแล้วค่อยกลับ อยู่ถึงวันที่ 29 พ.ย. 65 สำหรับเรื่องดังกล่าวตนเองคุยและปรับความเข้าใจไปจนจบแล้ว ไม่มีอะไร ก็พูดคุยกันธรรมดา"