"สุชาติ ตันเจริญ" รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และเป็นบิดาของ มดดำ คชาภา พิธีกรชื่อดัง แจงปมตบหัว รองนายกฯ อบจ.แปดริ้ว กลางงานศพ ยันแค่หยอกเล่นลูกน้องเก่า ซัดอีกฝ่ายหวังผลทางการเมือง
วันที่ 27 พ.ย.65 เวลา 11.30 น. นายวรรณา รอดพิทักษ์ หรือ รองเปี๊ยก อายุ 69 ปี รองนายกฯ อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ สว. (สอบสวน) สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่าถูก นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ส.ส.ฉะเชิงเทราเขต และเป็นบิดาของ มดดำ คชาภา พิธีกรชื่อดัง
ใช้มือตบบริเวณศีรษะเหนือใบหูด้านซ้าย ขณะไปร่วมงานณาปนกิจศพที่วัดทุ่งส่อหงษา หมู่ 11 ต.ท่ากระดาน ขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหน้าเพื่อรอการขึ้นไปทอดผ้าบังสุกุลต่อหน้าผู้ที่มาร่วมงานจำนวนมาก
ตำรวจได้สอบปากคำและให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายที่ รพ.สนามชัยเขตและเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบหลักฐานการแจ้งความ โดยตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายวรรณาให้การว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปร่วมงานฌาปนกิจศพที่วัดทุ่งส่อหงษาและนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหน้า ระหว่างนั้นได้มี นายสุชาติ ตันเจริญ เดินลงจากรถยนต์มาร่วมงานด้วย พอนายสุชาติเห็นตนนั่งอยู่จึงเดินปรี่เข้าหาพร้อมพูดด้วยเสียงดังว่า "ไอ้เหี้Xเปี๊ยกมึงชอบด่ากู" พร้อมกับยกมือตบหัวตน 1 ครั้งถูกบริเวณกกหูด้านซ้ายต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมงานจำนวนมาก
คนเป็นนักการเมืองมาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ได้อย่างไร จริงๆ คนเราต้องถามกันก่อนแต่นี่ถือว่ากูใหญ่แสดงความข่มขู่ผมต่อหน้าประชาชนมากมายที่มาร่วมงานถือเป็นการกระทำอันไม่สมควรและไม่ให้เกียรติกับเจ้าภาพงานศพเป็นอย่างยิ่ง และหลังจากที่ผมทอดผ้าเสร็จกำลังเดินทางกลับก็ยังมีรถต้องสงสัย 3 คันขับตามประกบรถคันที่ผมนั่ง เหมือนเป็นการข่มขู่ให้ผมเกิดความหวาดกลัว
ผมเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยังโดนแบบนี้ ไม่อยากจะคิดว่าแล้วถ้าประชาชนธรรมดามิโดนรังแกตามใจชอบหรือครับ ตอนนี้มันยุคสมัยไหนแล้วยังมีนักการเมืองที่บ้าอำนาจแสดงอิทธิพลไม่เลือกที่และใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกที่ควร นี่หรือคือคนที่ประชาชนเคยไว้ใจให้เขาเป็นตัวแทนพวกท่านในสภาฯ ผมไม่อยากจะนึกถึงการเลือกตั้งผู้แทนในอนาคตข้างหน้าเลยครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเข้าแจ้งความครั้งนี้ได้มีผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนเกือบร้อยคนที่ทราบข่าวเข้ามาให้กำลังใจนายวรรณาทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ โดยมีผู้สื่อข่าวจำนวนมากมาร่วมทำข่าวด้วย
ด้าน นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทราและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ชี้แจงว่า นายวรรณา หรือ สจ.เปี๊ยก เคยเป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของตน ที่ตามปกติเวลาที่นายวรรณามาหาตนก็จะแสดงความเคารพ กราบตักตนเพราะว่าตนเคยช่วยชีวิตนายวรรณาไว้เมื่อครั้งถูกยิงเกือบถึงชีวิต และก็ยังดูแลครอบครัวของสจ.เปี๊ยกที่มีหลายบ้านเป็นอย่างดี
เมื่อพบหน้าครั้งนี้ก็เป็นตนที่เป็นฝ่ายเข้าไปทักทาย โดยได้ใช้มือเคาะไปที่หัวในลักษณะที่ไม่ได้รุนแรง แต่เป็นการสัพยอกไปว่าได้ยินว่า สจ.เปี๊ยกชอบพูดจาว่าร้ายตนก็เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ สจ.เปี๊ยก พยายามกล่าวหา
เรื่องนี้สามารถสอบถามผู้ที่อยู่ในงานได้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรเพราะทราบว่าในเฟซบุ๊กก็มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปคอมเมนต์ถึงข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อท้องถิ่นว่าเป็นเพียงการทักทายกันเท่านั้น ดังนั้นที่สจ.เปี๊ยกบอกว่าจะไปแจ้งความนั้นก็อาจจะเป็นการแจ้งความเท็จ
“ต้องถามสจ.เปี๊ยกว่าเหตุที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตทำลายชื่อเสียงคนที่มีบุญคุณกับชีวิตและทุกๆ ครอบครัวของสจ.เปี๊ยกเป็นไปในลักษณะที่ชาวบ้านพูดกันและเรียกว่า "เนรคุณ" ใช่หรือไม่ เพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวที่รับใช้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและในด้านการเมืองหรือเปล่า” นายสุชาติระบุ
นายสุชาติกล่าวอีกว่า หากถ้ามีการทำร้ายร่างกายและต่อว่าหยาบคายใส่สจ.เปี๊ยกจริง คงเป็นไปไม่ได้เพราะสจ.เปี๊ยกไปร่วมงานนี้นั้นมีลูกน้องที่มีลักษณะคล้ายพวกมือปืนขับรถติดตามอีก 3-4 คัน และขณะเกิดเหตุก็ยืนอยู่ด้านหลังงานเฝ้าคอยระวังให้สจ.เปี๊ยกอยู่ตลอด จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำร้ายร่างกายและข่มขู่ตามที่สจ.เปี๊ยกกล่าวหา
และท้ายที่สุดนี้อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วยว่าช่วงนี้ใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ ควรจะเข้มงวดกวดขันตรวจตราอาวุธปืนและอาวุธสงครามตลอดจนตรวจสอบประวัติมือปืนต่างๆ ให้เป็นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย