เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 5 ธ.ค.65 ร.ต.อ.ชัยพิชิต ภูลายดอก รองสว.(สอบสวน) สภ.เสม็ดได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ในหมู่บ้านไพรเวซี่โฮมอ่างศิลา หมู่ 6 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลเสม็ด และกู้ภัยไตรคุณธรรม
พบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ไฟลุกไหม้ด้านล่างลามขึ้นข้างบน ดับเพลิงฉีดน้ำดับไฟใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไฟจึงดับ พบว่าไหม้ชั้นล่างเสียหายทั้งหมด ภายในบ้านมีผู้อาศัยรวม 5 คน ล่าสุด เด็กหญิง 11 เดือนเสียชีวิต
มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟคลอกรวม 3 ราย มีเด็กหญิงวัย 1 ขวบกว่า ชาวบ้านนำส่งโรงพยาบาลก่อนแล้ว หญิงสาวอายุประมาณ 20 ปี ไฟไหม้เกรียมผิวหนังลอกทั้งตัวแ ละชายอายุประมาณ 40 ปี ส่วนอีก 2 คนเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
นายบวรนันท์ กันภัย อายุ 71 ปี รปภ.หมู่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณ 00.45 น. มีคนในหมู่บ้านไปตามตนที่ป้อมยาม บอกว่าเกิดเหตุไฟไหม้ ตอนที่ตนมาถึงก็เห็นว่าไฟไหม้บริเวณชั้นล่างของบ้านเต็มพื้นที่เเล้ว ตอนนั้นตนเห็นว่า ที่ชั้น 2 ของบ้าน มีผู้หญิงกำลังอุ้มลูกอายุประมาณ 11 เดือน กำลังจะกระโดดลงมาด้านล่าง ก่อนจะมีประธานหมู่บ้านคอยรับไว้ทั้งคู่ หลังจากนั้นก็เห็นสามีกระโดดตามลงมาได้รับบาดเจ็บน่าจะหลังหัก
หลังจากนั้นตนก็พุ่งเข้าไปที่ประตูบ้าน เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงอีกคนที่อยู่ชั้นล่าง โดยอุ้มออกมานอกบ้าน ก่อนจะมาวางไว้ที่พื้นหน้าบ้าน ต่อมาผู้หญิงคนดังกล่าวก็บอกว่า มีลูกอยู่ข้างในอีกคน ตนจึงได้วิ่งกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง ไฟก็พุ่งออกมาด้านนอก ตนพยายามปิดปากปิดจมูกเเละเข้าไปช่วยเด็กหญิงวัย 1 ขวบออกมา โดยพบว่าทั้ง 5 คนมีบาดแผลไฟคลอกทุกคน เเต่ผู้ใหญ่ยังคงมีสติมานอนร้องโอดโอยอยู่หน้าบ้าน
หลังจากนั้นกู้ภัยเเละรถดับเพลิง 2 คัน ก็มาถึงใช้เวลาดับไฟประมาณ 10-15 นาที เพลิงก็สงบ ตนเพิ่งจะมาทราบภายหลังว่าเด็กหญิง 11 เดือน เสียชีวิตเเล้ว ส่วนตัวมองว่าสาเหตุไฟไหม้น่าจะเกิดน่าปลั๊กไฟ เเละลูกเล็กก็ใช้เปลไฟฟ้าด้วย อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ที่ห้องนอนชั้นล่าง ยืนยันได้ว่าไม่มีใครเข้ามาวางเพลิงเเน่นอน เพราะตนเฝ้ายามอยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน ไม่มีคนแปลกหน้าเข้ามา เพราะตนเข้าเวรทั้งวัน ดูแลหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งมีทั้งหมด 34 หลัง รู้จักลูกบ้านทุกคนเป็นอย่างดี เพราะอยู่มานานเป็น 10 ปีเเล้ว
ครอบครัวนี้เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่เมื่อ วันที่ 1 ธ.ค.64 อยู่มาได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น อยู่กัน 5 คน มีเพื่อน ๆ แวะเวียนมาหาบ้างบางครั้ง ดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนประเด็นที่มีกู้ภัยเห็นว่ามีผู้หญิงสวมชุดสีเขียวยืนอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุนั้น ตนเองก็ไม่เเน่ใจ แต่บ้านหลังนี้เคยมีเจ้าของเก่ามาก่อน คือเจ้าของคนเก่าเคยมีลูกชายอายุ 1 เดือนแล้วเสียชีวิตที่บ้าน หลังจากนั้นไม่นานผู้เป็นพ่อก็ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ต่อมาก็มีการประมูลบ้านหลังนี้ ครอบครัวดังกล่าวก็ประมูลได้ในราคา 5 ล้านบาท ก่อนจะย้ายเข้ามาอยู่ ตนไม่ทราบว่าผู้หญิงสวมเสื้อสีเขียวเป็นใคร ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเรื่องอาถรรพ์ ไม่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาก่อน ส่วนศาลเจ้าที่เจ้าทางก็มีอยู่ด้านหน้าหมู่บ้าน
นางสาวอ้อมดาว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี และนางสาวสกาวเดือน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 00.40 น. มีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่าเกิดไฟไหม้ ก่อนจะชะโงกหน้าออกมาดูก็เห็นว่ามีดวงไฟเล็ก ๆ ในบ้านชั้นล่างเเล้ว ก่อนจะเห็นคนกำลังจะกระโดดลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน เมื่อตนออกมาดู ก็เห็นว่ามีผู้ชาย ผู้หญิงเเละเด็กหญิงวัย 11 เดือน ออกมาอยู่ด้านนอกเเล้ว ก่อนจะเห็นเพื่อนบ้านห่อผ้าเเละรีบนำเด็กไปส่ง รพ. ก่อน ซึ่งตอนนั้นเด็กหญิง ไม่ส่งเสียงร้องใด ๆ ตัวร้อนมาก จึงไม่ทราบว่า เสียชีวิตเเล้วหรือไม่ ส่วนผู้หญิงและเด็กอายุ 1 ขวบอีกคน ลุง รปภ.เข้าไปอุ้มออกมา มีแผลเหวอะหวะตามลำตัว จนชาวบ้านต้องช่วยกันเอาน้ำราด
ซึ่งสภาพบาดแผลของเเต่ละคนมีรอยไฟคลอกมากกว่า 90% ทั่วลำตัว เสื้อผ้าไหม้ติดไปกับผิวหนัง ผิวหนังลอกมีรอยไหม้ จนเห็นเนื้อสีชมพู ส่วนสาเหตุเท่าที่สอบถาม ผู้ใหญ่ที่ออกมาจากบ้าน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดัง ก่อนจะลุกลามจากห้องนอนด้านล่าง ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า สาเหตุที่เเท้จริงเกิดจากอะไรกันเเน่ เเต่พวกตนอยู่กันมานานกว่า 10 ปีเเล้ว ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนเลย ส่วนประเด็นเรื่องอาถรรพ์ หมู่บ้านของตน ก็ไม่เคยมีเรื่องราวอะไรแปลก ๆ มาก่อน
นายคมกฤษ เนื่องนำนงค์ อายุ 23 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวานตอนที่ได้รับเเจ้งเหตุก็รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ เเต่เมื่อไปถึงก็พบว่าคนเจ็บถูกนำส่ง รพ. ส่วนเพลิงก็สงบแล้ว แต่ตอนนั้นทุกคนยังชุลมุนกันอยู่ ตนจึงได้หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพนิ่งไว้เพื่อส่งเข้าห้องไลน์กลุ่มกู้ภัยศูนย์วิทยุ
โดยตอนที่ถ่ายภาพนั้นตนเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรว่ามีคนเข้าไปหรือไม่ เเต่ตอนนั้นเหตุเพิ่งจะเกิด เเละเพลิงเพิ่งจะสงบ ก็ไม่น่าจะมีคนเข้าไปยืนได้ ซึ่งช่วงนั้นก็ค่อนข้างมืดเเละมีเเสงไฟวาบ ๆ จากรถกู้ภัย อาจทำให้เกิดเงา หรือไม่ก็ผ้าที่ผู้บาดเจ็บใช้หลบหนีออกจากบ้าน
ต่อมามีพี่กู้ภัยที่ไปด้วยกันทักมาบอกตนว่าภาพดังกล่าวแปลก เหมือนมีผู้หญิงสวมเสื้อสีเขียวยืนร้องไห้อยู่ พอตนเอามาซูมดูก็เห็นดังนั้น คล้ายคนจริง ๆ ตนไม่ได้กลัวหรือกังวล เพราะทำงานเกี่ยวกับกู้ภัยก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อยเเล้ว ส่วนเรื่องอาถรรพ์ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ค่อยได้ลงพื้นที่แถวนั้น