ขนลุก! ชาวบ้านสุรินทร์พบดวงไฟสีแดงปริศนาโผล่กลางทุ่งนา ก่อนลอยหายไปในป่าช้า เชื่อเป็นผีกระสือ ผีโพง ตามความเชื่อของคนโบราณ
วันที่ 15 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปทราบว่านานๆ กลับมาบ้านทั้งทีได้เจอของดีเลยรีบวิ่งไปดูตามที่ญาติๆ บอกตนและเพื่อนๆ จึงวิ่งตามไปดูไฟลูกนั้นมีลักษณะสีส้มๆ ดวงใหญ่พอเจ้าตัวและเพื่อนๆ วิ่งไล่ตามไปดู ไฟลูกนั้นก็ได้หายไปในทุ่งนา และหายลับไปกับตา ตนนั้นรู้สึกกลัวมากๆ แต่ก็ด้วยความอยากรู้ว่าเป็นดวงไฟอะไรเหมือนกัน
แต่ชาวบ้านในระแวก บ้างก็ว่าน่าเป็นดวงไฟของผีโพงออกหากินยามค่ำคืน ส่วนมากจะเป็นคนที่เล่นของสิ่งลี้ลับ สมัยตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก็เล่าต่อกันมาเช่นนี้ว่า เป็นของคนเล่นของบ้างปล่อยของบ้าง โดยสิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดที่พบดวงไฟปริศนา ซึ่งเป็นบ้านของนายชาตรี อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน หมู่ 5 ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้พบกับนาย ณัฐกิตติ คนเสื้อสีเหลืองดำที่วิ่งอยู่ในคลิป ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อคืนนี้ตนและเพื่อนๆ อีก 7 คนกำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นตนก็สังเกตเห็นดวงไฟประหลาดดังกล่าวขึ้นที่บริเวณยอดต้นมะพร้าว ตนจึงตะโกนบอกเพื่อนๆ ให้เอามือถือมาถ่ายไว้ดู และวิ่งไล่ดวงไฟนั้นไป เพื่อจะไปดูว่าตกถึงจุดไหน
ดวงไฟดังกล่าวลูกใหญ่กว่าลูกบาสเกตบอลมีแสงสีแดงสด ดูน่ากลัวเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ สูงประมาณ 3-4 เมตร วัดจากยอดต้นมะพร้าวถึงพื้นดินและได้ลอยไปเรื่อยๆ ไปยังทุ่งนาและไปตกยังที่ป่าช้าเก่าที่มีจอมปลวกบริเวณทุ่งนา ดวงไฟดวงนั้นลอยไปไกลร่วม 200 เมตรได้ ตนและเพื่อนๆ วิ่งตามไปดูก็ไม่พบดวงไฟดังกล่าวแล้ว
ส่วนตนนั้นตอนแรกคิดว่าใครเอาโดรนมาบิน แต่ก็นึกได้ว่าบริเวณแถวบ้านตนนั้นไม่มีใครเล่นโดรน ตนจึงมั่นใจว่าน่าจะเป็น “ทมบ” หรือภาษาไทยเรียกว่า กระสือ หรือผีโพงตามความเชื่อตั้งแต่โบราณ ซึ่งในละแวกหมู่บ้านตนนั้นก็ยังมีคนเล่นของหรือเล่นคุณไสยอยู่ และคืนวันที่เกิดเหตุก็คือคืนวันโกน ซึ่งจะเป็นปกติของคนที่เล่นของจะปล่อยของออกมาหากิน ปกติไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับแต่ครั้งนี้เห็นด้วยตาตนเอง จึงมั่นใจว่าเป็นทมบหรือผีกระสือผีโพงแน่นอน และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลตนขอยืนยันว่าตนและเพื่อนๆ ไม่ได้สร้างกระแสนี้ขึ้นมาแน่นอน
ผีโพง หรือผีกระสือ เป็นผีตามความเชื่อพื้นบ้านทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ผู้ที่เป็นผีโพงเกิดจากเล่นไสยศาสตร์แล้วควบคุมวิชาในตัวเองไม่ได้ หรือปลูกว่านชนิดหนึ่ง เรียกว่า “ว่านผีโพง” ซึ่งมีสีขาว รสฉุนร้อน เมื่อแก่จะมีธาตุปรอท ทำให้เกิดแสงส่องสว่างแบบแมงคาเรือง และจะออกหากินพวกกบ เขียด ตามทุ่งนาป่ารกร้าง เมื่อดวงไฟเห็นว่ามีคนมาพบก็มักจะลอยหลบหนีหรือไม่ก็จะแตกดับสลายไปทันที