ส่อพิรุธ! วิสามัญหนุ่มค้ายา เมียคาใจไม่มีปืนสู้แต่โดนยิง งัดคลิปนาทีไล่จับก่อนเป็นศพ (คลิป)

วันที่ 16 ธ.ค. 65 เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ฉลองกรุง รับแจ้งเหตุมีชายอายุประมาณ 45 ปี ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณริมคลอง ภายในซอยสุวินทวงศ์ 30/1 โดยจากการตรวจสอบ พบว่าในที่เกิดเหตุนั้นได้มีตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส. ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

จากคำให้การของชุดจับกุม ให้การกับร้อยเวรว่าตัวของผู้ต้องสงสัยได้หลบหนี พร้อมกับมีการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน และคาดว่าถูกยิงในระหว่างการหลบหนี ก่อนที่จะกระโดดลงไปในคลองเพื่อว่ายน้ำหนี แต่น่าจะได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้จมน้ำเสียชีวิต ชุดจับกุมจึงได้มีการกระโดดลงไปในน้ำเพื่อที่จะนำร่างขึ้นมา ทราบชื่อเวลาต่อมาคือนายธีรยุทธ ศรีวงค์ อายุ 45 ปี

ภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในซอยสุวินทวงศ์ 32 บริเวณช่วงต้นซอย พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 17.37 น. เห็นรถของผู้ต้องหา กระบะสีดำขับเข้ามาภายในซอย มีรถตำรวจขับไล่ตาม

ต่อมาทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในซอย สุวินทวงศ์ 30/1 ซึ่งเป็นจุดใกล้กับที่มีการนำร่างของผู้ต้องหาขึ้นจากน้ำ คลิปวงจรปิดบริเวณดังกล่าวจะไม่เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สามารถบันทึกเสียงเหตุการณ์ในช่วงที่มีการยิงปืนจำนวน 1 นัดได้ ก่อนจะมีเสียงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกัน จากนั้น มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังยกร่างของผู้ต้องหาซึ่งขณะนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยมีการห่อร่างโดยผ้าสีขาว ยกขึ้นรถออกไปด้านนอก

ต่อมาทีมข่าวได้รับคลิปวงจรปิดจากบริเวณหน้าปากซอย สุวินทวงศ์ 40 บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดใหม่ลำนกเเขวก เวลา 17.34 น. ช่วงที่รถกระบะคันสีดำของผู้ต้องหามีการขับชนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเเละขับลากไป ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 3 นาย มีการวิ่งออกไปกลางถนน เเละใช้อาวุธปืนยิงใส่รถ แต่ไม่สามารถสกัดผู้ต้องหาไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องมีการขึ้นรถยนต์และขับตามไป

ทีมข่าวได้รับคลิปที่ถ่ายจากมือถือจากชาวบ้านในพื้นที่บริเวณซอยสุวินทวงศ์ 30/2 เเละ 30/1 ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ ทั้งหมดอีก 3 คลิป ช่วงที่รถของผู้ต้องหาจอดเเล้ว และผู้ต้องหาถูกจับแล้ว และเป็นช่วงที่ตำรวจนำตัวนายธีรยุทธขึ้นมาจากน้ำ เห็นว่ามีการล็อกกุญแจมือไว้ด้านหลัง ก่อนจะพยายามปั๊มหัวใจ แต่นายธีรยุทธเสียชีวิตแล้ว

ล่าสุด วันที่ 17 ธ.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางมายังซอยสุวินทวงศ์ 32 เเยก 14 ทางสามแพร่ง บริเวณกำเเพงบ้านของชาวบ้าน มีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนเศษกำเเพงปูนหลุดออก ซึ่งเป็นจุดเเรกที่คนร้ายขับรถหนีเข้ามาในซอย จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าปากซอย สุวินทวงศ์ 40 อยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดใหม่ลำนกเเขวก เป็นจุดที่เเรกที่มีการเริ่มไล่ยิง นางพิสมัย (นามสมมติ) อายุ 73 ปี คนขายของหน้าทางเข้าวัด เปิดเผยว่า เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. กว่า ๆ ตนเห็นรถกระบะสีดำมาจอดอยู่หน้าปากทางเข้าวัด โตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นของใคร

ก่อนจะเห็นมีคนขับรถ จยย. มาจอดไว้ทางด้านข้างขวาของรถกระบะ มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 3-4 คน แต่งตัวธรรมดาสีดำ ไม่เห็นอาวุธ เดินเข้าไปเคาะกระจกฝั่งคนขับกระบะให้ลงมาข้างนอก ตอนนั้นตนเข้าใจเป็นการขับรถปาดกัน จนต้องมีการมาเคลียร์กันเท่านั้น

จากนั้นคนขับกระบะไม่ยอมลงมาคุย ก็เหยียบคันเร่งออกไปชนรถ จยย. ที่จอดขวางไว้ ขับลากรถ จยย. ติดไปด้วย ก่อนจะเห็นชายฉกรรจ์ 3-4 คน วิ่งออกไปกลางถนน ชักปืนออกมายิงรถกระบะคันดังกล่าวหลาย 10 นัด เพื่อให้รถหยุด แต่ไม่ยอมหยุด ก่อนจะมีการรีบขึ้นรถยนต์และขับตามไป โดยตอนนั้นตนไม่เห็นว่ารถกระบะคันดำมีการยิงสวนหรือไม่

ตนไม่ค่อยตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอยู่ด้านใน ไม่ได้ออกไปยืนกลางถนน ไม่ได้กลัวว่าจะโดนลูกหลง ส่วนมีคนโดนลูกหลงหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ แต่เห็นชาวบ้านเขาบอกว่ามีอยู่แถวหน้าปั๊มน้ำมัน ส่วนตัวของผู้ตาย คือนายธีรยุทธ หรืออั๋น ตนเองก็รู้จักเพราะเคยเห็นมาตั้งเเต่เล็ก ๆ ในซอยสุวินทวงศ์นี้เป็นบ้านเขา ปกติเเล้วนายอั๋นก็เป็นคนนิสัยดี พอโตมาได้อายุสัก 20 กว่าปีเขาก็หายไปพักใหญ่ จนตนมาทราบภายหลังว่าติดคุกและเพิ่งออกมาได้ไม่นาน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่ารุนแรงเกินกว่าเหตุไปหรือไม่

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่วัดใหม่ลำนกแขวก นายมอส (นามสมมติ) น้องชายผู้ตาย เล่าว่า เมื่อวานตอนเย็นแม่มาเรียก โดยบอกว่าพี่ชายโดนตำรวจไล่ยิงตาย และมารู้ทีหลังว่าสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ก่อนหน้านี้พี่เคยรับโทษเกี่ยวกับคดียาเสพติดมาก่อน 20 กว่าปี และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวมาประมาณ 7-8 เดือน

ช่วงที่พี่ชายออกมาก็ไม่รู้ว่าพี่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะก็เห็นพี่ทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เป็นอาชีพสุจริต และคิดว่าที่พี่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเป็นเพราะพี่หาเงินส่งลูกเรียน และหาทุนในการประกอบอาชีพใหม่ เพราะพี่ชายอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตนมั่นใจว่าพี่ชายไม่มีอาวุธปืนพกติดตัวมาก่อน ส่วนอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่งมขึ้นมาแล้วบอกว่าเป็นของพี่ ตนขอยืนยันว่าไม่ใช่ ก่อนหน้านี้พี่มีอาวุธปืนจริง เป็นปืนเก่าของพ่อ เพราะพ่อเคยรับราชการมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว

ตนและครอบครัวติดใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะมองว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ ถ้าจะมาจับพี่ในเรื่องยาก็ไม่ติดใจ หรือถ้าพี่มีปืนแล้วยิงต่อสู้ก็จะไม่ติดใจ แต่เรื่องนี้พี่ไม่มีอาวุธในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จึงมองว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ออกมารับผิดชอบ แต่ตนก็รู้ว่าตนคงไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ ได้แต่ปล่อยให้เวรกรรมตามสนองบุคคลเหล่านั้นเอง

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ผกก.สน.ฉลองกรุง บอกว่าคนร้ายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และถูกตำรวจ บช.ปส.กระทำการวิสามัญฆาตกรรม ในส่วนของการสอบสวนทางด้าน สน.ฉลองกรุง จะทำสำนวนการชันสูตรศพที่ถูกวิสามัญ ในส่วนของคดีวิสามัญจะเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ สน.ลำผักชี ให้ไปถาม สน.ลำผักชี

ทีมข่าวจึงโทรไปหา ผกก.สน.ลำผักชี ปรากฏว่า ผกก.สน.ลำผักชี ตอบว่า ให้ไปถาม สน.ฉลองกรุง สุดท้ายแล้วจึงยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เพราะตำรวจโยนให้ไปถามกันเอง แต่ยังไม่มีผู้ชี้แจงความจริงกับประชาชน

ต่อมาทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุในบริเวณซอยสุวินทวงศ์ 30/1 จุดที่นำร่างของผู้ต้องหาขึ้นจากน้ำ โดยจากการสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านในซอยดังกล่าว ทราบว่า เมื่อวานนี้ช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น. กำลังนั่งอยู่ริมคลองก่อนจะได้ยินเสียงตำรวจตะโกนบอกว่า "มึงอย่าหนีนะ ถ้ามึงหนีกูยิงนะ ถ้ามึงโดด กูยิง" หลังจากนั้นตนเองก็ได้ยินเสียงปืนจำนวน 1 นัด ได้ยินเสียงนายธีรยุทธตกลงไปในน้ำ พร้อมกับกอดกระสอบบางอย่างไว้ ตอนเเรกตนเข้าใจว่าเป็นยาเสพติด

หลังจากนั้น ตนก็เห็นตำรวจอีก 2 นายกระโดดลงไปด้วย ต่อมาเหมือนนายธีรยุทธจะว่ายน้ำต่อไปไม่ไหว ว่ายมาได้ถึงช่วงกลางคลอง ทางตำรวจจึงได้คุมตัว และล็อกกุญแจมือไว้ ก่อนที่ตนจะเข้าไปช่วยดึงตำรวจ รวมถึงตัวของผู้ต้องหาขึ้นมาจากน้ำ ซึ่งตอนนั้นผู้ต้องหายังไม่เสียชีวิต ยังหายใจอยู่ อีกทั้งยังบอกตนว่า "จุก หายใจไม่ออก" ก่อนที่ตนจะบอกให้ตำรวจรีบปั๊มหัวใจ แเต่เหมือนกับว่านายธีรยุทธจะมีแผลถูกยิง 1 นัด จากด้านหลังทะลุหน้าอกฝั่งซ้าย เมื่อปั๊มหัวใจทำให้มีเลือดออก อาการจะแย่กว่าเดิม จึงต้องหยุดปั๊ม ก่อนที่นายธีรยุทธจะเสียชีวิต รีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับศพ

ส่วนอาวุธปืนที่ตำรวจอ้างว่าเป็นของผู้ต้องหาตกอยู่ที่บริเวณกอผักบุ้ง บริเวณด้านข้างโต๊ะที่ผู้ต้องหาตกน้ำ ตนไม่ทราบว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของใคร ทั้งนี้ ภายในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุกรณีตำรวจไล่ยิงคนร้ายมาก่อน เคยมีเเต่คนมาจมน้ำตายเท่านั้น โดยคลองดังกล่าวเพิ่งจะขุดมีระดับน้ำที่ไม่ลึกมาก ประมาณ 1 เมตรเท่านั้น