“บันเทิงโลก บันเทิงร้อน” 10 ที่สุดบันเทิงโลกแห่งปี 2022 รวบรวมเรื่องราวฉาว กระฉ่อนโลกครบทุกรสชาติ บอกได้คำเดียวเลยว่า "อรรถรส!!!"
“บันเทิงโลก บันเทิงร้อน” มาดูกันเลยว่าตลอดปี 2022 นี้เกิดเรื่องราวอื้อฉาว กระฉ่อนวงการบันเทิงระดับโลกอะไรขึ้นบ้าง วันนี้ทีมงาน “อมรินทร์ออนไลน์”จึงได้รวบรวม “10 ที่สุดบันเทิงโลกปี 2022” ที่รับรองได้เลยว่านอกจากจะไม่ตกเทรนด์บันเทิงแล้ว ยังได้อรรถรสครบทุกรสชาติอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องฉาว เรื่องราวสุดยินดี อินเลิฟ เรื่องเศร้าสุดช็อกสะเทือนทั้งวงการ มหากาพย์การฟ้องร้อง รวมไปถึงเรื่องสุดแสนยินดีที่ทำเอาเหล่าแฟนคลับประทับใจไม่รู้ลืม
เริ่มกันที่อันดับที่ 10 อกหักทั้งวงการ “ซงจุงกิ” พบความรักครั้งใหม่ คบสาวนอกวงการ
ทำเอาเหล่าแฟนคลับอกหักไปตามๆ กัน สำหรับตำนานสามีแห่งเอเชียอย่าง"ซงจุงกิ"หลังจากที่ต้อนสังกัดออกมายอมรับว่า"ซงจุงกิ" กำลังคบกับสาวนอกวงการชาวอังกฤษ โดย High Zium Studio ต้นสังกัดของหนุ่ม"ซงจุงกิ" ได้ออกมายอมรับสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันนี้ 26 ธันวาคม2565 ที่ผ่านมาพร้อมระบุว่า
“ซงจุงกิ กำลังคบหาดูใจกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความรู้สึกที่ดี พวกเราหวังว่าทุกท่านจะเฝ้ามองดูความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วยความอบอุ่น
โปรดเข้าใจด้วยว่าทางเรายังไม่สามารถยืนยันข้อมูลใด ๆ นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขากำลังคบหาดูใจกัน และทางเราจะรู้สึกขอบคุณถ้าหากไม่เผยแพร่ข่าวที่ไม่แน่นอนและยังไม่รับการยืนยันใด ๆ"
อันดับที่ 9 ช็อกกันทั้งวงการเพลง “ดีวา”ระดับตำนาน “เซลีน ดิออน” ป่วยเป็นโรคหายากพบ 1 ในล้านคน
ช็อกกันทั้งวงการเพลง และบันเทิงโลกเลยทีเดียว หลังจากที่นักร้องดีวาระดับตำนานอย่าง “เซลีน ดิออน” เจ้าของผลงานเพลงอมตะ “My Heart Will Go On” เพลงประกอบภาพยนตร์ดังเรื่องไททานิก ออกมาแถลงผ่านไอจีเจ้าตัวระบุว่า “เธอจะยกเลิกคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีขึ้นเนื่องจากเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Stiff-Person Syndrome หรือ “โรคคนแข็ง” (SPS)”
โดยโรคดังกล่าวมีคนป่วยเพียง 1 ในล้าน มีสาเหตุจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีร่างกายตัวเอง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก และกล้ามเนื้อหดตัว จนส่งผลให้เธอใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากและจำเป็นต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตในสหราชอาณาจักรและยุโรปในปีหน้าทั้งหมดเพื่อเข้ารับการรักษาตัว
ซึ่งในคลิปแถลงการณ์ เซลีน ดิออน ได้เผยถึงปัญหาสุขภาพของตัวเองว่า “ฉันเองต้องจัดการกับปัญหาสุขภาพของตัวเองมานานมาก จนมันเริ่มรู้สึกว่ายากแล้วที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ โชคไม่ดีเลยที่อาการมันเริ่มจะกระทบกับชีวิตประจำวันของฉัน บางทีมันก็ทำให้เดินได้ลำบากมาก แล้วก็ทำให้ใช้กล่องเสียงร้องเพลงอย่างที่เคยทำมาไม่ได้”
อันดับที่ 8 มหากาพย์ นางฟ้าแม่ทูลหัว “แองเจลิน่า โจลี่” ฟ้อง อดีตสามี "แบรด พิตต์"
เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์การฟ้องร้องเลยก็ว่าได้ สำหรับนางฟ้าแม่ทูลหัวอย่าง “แองเจลิน่า โจลี่” ที่ได้รื้อเรื่องราวเก่าๆ ว่าตนถูกอดีตสามี "แบรด พิตต์" ทำร้ายร่างกาย ลูกโดนบีบคอ-ตบหน้า บนเครื่องบินส่วนตัวในเดือน กันยายน ปี 2559 ได้ทำการยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อวันอังคาร 4 ต.ค.2565 ที่ผ่านมา โดยเรื่องราวดังกล่าว "แองเจลินา โจลี" อ้างถึงบนเครื่องบินส่วนตัวที่บินจากฝรั่งเศสไปแคลิฟอร์เนีย ในเดือน ก.ย.ปี 2559 เริ่มต้นจาก "แบรด พิตต์" เริ่มไม่พอใจลูก บอกว่า "แองเจลินา โจลี" ตามใจลูกมากเกินไป จากนั้นเริ่มตะโกนใส่เธอในห้องน้ำ จับหัวเขย่าแล้วผลักเธอไปที่ผนัง "แบรด พิตต์" ยังต่อยเพดานอีกหลายครั้ง
ลูกคนหนึ่งเข้ามาช่วยแม่ "แบรด พิตต์" จึงพุ่งเข้าใส่ลูกแทน ขณะที่ "แองเจลินา โจลี" จับตัวเขาจากด้านหลัง ท่ามกลางการทะเลาะวิวาท "แบรด พิตต์" บีบคอลูกคนหนึ่ง และตบหน้าลูกอีกคน เขายังเทเบียร์ราดลงบนหัว "แองเจลินา โจลี" และเทไวน์แดงใส่ตัวลูกด้วย
ในเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น FBI (สำนักงานสอบสวนกลางของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้ปิดการสอบสวนคดีทำร้ายร่างกายบนเที่ยวบินแล้ว และไม่มีการฟ้องร้องใดๆ สำหรับการฟ้องหย่าของ "แองเจลินา โจลี" กับ "แบรด พิตต์" ยืดเยื้อมานานหลายปี เกิดจากการต่อสู้ในศาลเรื่องสิทธิดูแลบุตรของพวกเขา
และล่าสุดยังมีคดีฟ้องร้อง ที่ "แบรด พิตต์" ยื่นฟ้อง "แองเจลินา โจลี" ปมโรงกลั่นไวน์ที่ทั้งคู่ซื้อมานานหลายปี โดย "แบรด พิตต์" กล่าวหาอดีตภรรยาของเขาว่าละเมิดสิทธิตามสัญญา เมื่อเธอขายหุ้นบริษัทครึ่งหนึ่ง โดยไม่ได้รับอนุมัติจากเขา เนื่องจากมีการระบุชัดเจนว่า การขายหุ้นต้องเป็นไปตามความยินยอมของทั้งสองฝ่าย
ในการฟ้องร้องของ "แองเจลินา โจลี" ซึ่งยื่นฟ้องต่อศาลสูงลอสแองเจลิส เมื่อวันอังคาร เธอกล่าวว่า เธอเลือกที่จะขายส่วนแบ่งในธุรกิจไวน์ของเธอกับอดีตสามี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจที่จะเข้าร่วมในธุรกิจเกี่ยวกับแอลกอฮอล์
อันดับที่ 7 ข่าวดี 2 เด้ง "พัคชินฮเย" ประกาศท้อง พร้อมแต่งงานต้อนรับต้นปี 2022
หนุ่มๆ แฟนคลับอกหักกันทั้งเอเชีย สำหรับการการประกาศข่าวดีของนางเองสุดฮอตที่ครองใจหนุ่มๆทั่วเอเชียอย่าง “พัคชินฮเย” หลังจากที่ SALT Entertainment ต้นสังกัด ได้ออกแถลงเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2564 “พัคชินฮเย” และ “ชเวแทจุน” ที่คบหาดูใจกันตั้งแต่ปี 2017 เตรียมเข้าพิธีแต่งงานในกรุงโซลวันที่ 22 มกราคม 2022 นี้
โดยนางเอกสาว พัคชินฮเย ได้เขียนข้อความถึงแฟนคลับด้วยตัวเองผ่านแฟนคาเฟ่ว่า “ฉันคิดว่าทุกคนอาจจะรู้สึกช็อก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉันอยากให้พวกคุณรู้ก่อน ฉันกำลังจะแต่งงานกับแฟนที่คบกันมาสักพักแล้วค่ะ เขาเป็นแรงใจให้ฉันมายาวนาน เขาคือคนที่คอยโอบกอดฉัน พัคชินฮเยคนนี้ที่ขาดตกบกพร่องไปบ้าง และฉันก็เตรียมจะเริ่มต้นชีวิตแต่งงานกับเขาค่ะ ฉันเองก็ลังเลที่จะบอกเรื่องนี้ เพราะเรื่องแผนแต่งงานเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แต่ในขณะที่วางแผนก็มีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเข้ามาในชีวิตของเราสองคนค่ะ ฉันเลยอยากบอกพวกคุณทุกคน ในที่สุดฉันกำลังมีสมาชิกใหม่ กลายเป็นครอบครัวแล้ว ฉันสัญญาว่าจะแสดงสิ่งดีๆ ของฉันให้ทุกคนได้เห็นค่ะ”
“สุดท้าย ฉันอยากขอบคุณความรักและการสนับสนุนที่ให้ฉันตลอดมาแม้ว่าฉันจะมีข้อบกพร่องบ้าง ในตอนนี้ฉันขอทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุดก่อน และจะกลับมาเป็นนักแสดงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ทำให้พวกคุณต้องรอนาน จนถึงวันนั้นขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ”
และในวันที่ 22 ม.ค. 2565 มีการเผยภาพโมเมนต์สุดหวานในพิธีวิวาห์ระหว่าง “พัคชินฮเย” และ “ชเวแทจุน” ได้จูงมือเข้าพิธีแต่งงานแบบส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย ในบรรยากาศสุดโรแมนติกและอบอุ่นในกรุงโซล โดยมีครอบครัวและเพื่อนในวงการร่วมแสดงความยินดี
อันดับที่ 6 ผู้กอง “ฮยอนบิน”ลั่นระฆังวิวาห์หวาน “ซนเยจิน” จากคู่พระนางที่แฟนคลับลุ้นแทบเป็นตะคริว สู่คู่จริง
ทำเอาเหล่าแฟนคลับเขินตัวบิดกันเลยทีเดียว สำหรับข่าวดีของ ผู้กอง “ฮยอนบิน”ที่ลั่นระฆังวิวาห์หวานกับนางเอง “ซนเยจิน” พระนางจากซีรีย์เรื่อง Crash Landing on You ปักหมุดรักฉุกเฉิน หลังจากคบหาดูใจกันมาเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยเข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 31 มี.ค.65 เวลา 11.00 น. ตามเวลาเกาหลี ที่โรงเเรม Walkerhill Hotel & Resort Aston House พิธีจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่าย
โดยต้นสังกัดของทั้งสองฝ่ายได้ออกมาเปิดภาพพรีเวดดิ้งสุดหวานของ “ฮยอนบิน” และ “ซนเยจิน” ออกมาให้เหล่าแฟนคลับได้ฟินไปตามๆ กันด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวยหล่อเหมาะสมกันมาก จากพระนางที่เหล่าแฟนๆ ลุ้นจนตัวบิดสู่คู่จริงที่สมใจในวันนี้ ทำเอาแฟนคลับต่างเก็บความฟินไว้ไม่ไหวพากันกรี๊ดกร๊าดไปตาม ๆ กัน สมกับเป็นคู่รักแห่งปีจริง ๆ
อันดับที่ 5 "อดัม เลอวีน" maroon 5 โดนแฉสนั่นเล่นชู้ตอนเมียท้อง
กระฉ่อนไปทั่วโลก สำหรับประเด็นที่ อดัม เลอวีน แห่งวง maroon 5 โดนแฉสนั่นเล่นชู้ตอนเมียท้อง หลังจากที่หญิงสาวดาว Tiktoker “ซัมเนอร์ สโตรห์ (Sumner Stroh)” ได้ออกมาแฉว่าเธอนักร้องชายเจ้าเสน่ห์อย่าง อดัม เลอวีน เคยคบกันมา 1 ปี และเลิกกันไป ซึ่งต่อมาฝ่ายชายได้ตามง้อเธอด้วยการจะตั้งชื่อลูกชาย เป็นชื่อของเธออีกด้วย
ทำให้เจ้าตัวต้องมาโพสต์ชี้แจงผ่านไอจีระบุว่า “ผมไม่ได้มีชู้ แต่ถึงอย่างไร, ผมได้ข้ามเส้น เป็นช่วงเวลาที่น่าสลดใจในชีวิตของผม ในบางกรณีที่ไม่เหมาะสม ผมได้จัดการเรื่องนี้และแก้ไขปัญหาเพื่อครอบครัวของผม” “ภรรยาและครอบครัวคือสิ่งเดียวที่ผมห่วงใยในโลกนี้ การเป็นคนไร้เดียงสาและโง่เขลา ทำให้เสี่ยงสูญเสียสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดกับผมจริงๆ นั่นคือความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยทำ”
“ผมจะไม่ทำมันอีกแล้ว ผมจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เราจะผ่านมันไปได้ และเราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
อันดับที่ 4 "ลิซ่า BLACKPINK" ผงาดสร้างประวัติศาสตร์บนเวทีโลก
ลิซ่า BLACKPINK ผงาดบนเวทีระดับโลกสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นศิลปินหญิงและศิลปินเดี่ยวคนแรกที่ชนะรางวัล MTV Video Music Awards 2022 (VMAs) สาขา Best K-Pop Video จากผลงานเพลงสุดฮอตทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างผลงานเพลง LALISA ขณะขึ้นรับรางวัล "ลิซ่า" ได้กล่าวขอบคุณโปรดิวเซอร์ ต้นสังกัด YG Entertainment เหล่า Blink ทั่วโลกและสาวๆ เพื่อนสมาชิกในวง โดย "ลิซ่า" พูดทั้งภาษาอังกฤษ เกาหลี และไม่ลืมจะพูดขอบคุณเป็นภาษาไทยและไหว้ในตอนจบอีกด้วย
อันดับที่ 3 ความเศร้าของเหล่ามักเกิล สูญเสียศาสตราจารย์ "แฮกริด" แห่งโรงเรียนเวทย์มนต์ฮอกวอร์ต
เหล่ามักเกิลทั่วโลก ต่างไว้อาลัยกับการจากไปของสุดยอดศาสตร์จารย์ที่แสนอบอุ่น และอ่อนโยนแห่งโลกเวทย์มนต์อย่าง "แฮกริด" ในภาพยนตร์เรื่องดัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ หรือ ร็อบบี้ โคลเทรน ที่เสียชีวิตโรงพยาบาลใกล้เมืองฟอลเคิร์ก ประเทศสกอตแลนด์ ในวัย 72 ปี โดยครอบครัวของโคลเทรนไม่ได้มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัว
ร็อบบี้ โคลเทรน คร่ำหวอดในวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปลายยุค 70 แจ้งเกิดจากการเป็นนักแสดงซีรีส์เรื่อง "Play for Today" และโด่งดังจากซีรีส์เรื่อง "Cracker" จนคว้ารางวัล Best Actor Baftas ได้ 3 ครั้งติดกัน และยังสวมบทเด่นในหนังสายลับ 007 เรื่อง GoldenEye (1995) และ The World Is Not Enough (1999) ก่อนจะเป็นที่รักของคนทั่วโลกกับบทบาทศาสตราจารย์ แฮกริด ที่แสนอบอุ่น และอ่อนโยน จากภาพยนตร์ชื่อดัง Harry Potter ทั้ง 7 ภาค
ทั้งนี้ตัวแทนของ ร็อบบี้ ได้เคยกล่าวว่า “บทบาทที่ดีที่สุดที่ทำให้ร็อบบี้เป็นที่จดจำในมานานหลายทศวรรษคือ แฮกริด ตัวละครที่สร้างความสุขให้กับเด็กๆ และผู้ใหญ่ ซึ่งทำให้เขาได้รับจดหมายจากแฟนๆ มาตลอด 20 ปี”
อันดับที่ 2 สุดแค้นแสนรัก "จอนนี่เดปส์-แอมเบอร์" มหากาพย์ฟ้องสะท้านโลก!!!
แฟนคลับเฮ! "จอห์นนี่ เดปป์" ชนะคดีหมิ่นประมาท ศาลสั่งให้ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" อดีตภรรยาต้องจ่าย 15 ล้านดอลลาร์ จากกรณีที่นักแสดงสาว "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ได้เขียนบทความลงใน วอชิงตันโพสต์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 ว่าตัวเธอตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว แม้ว่าในบทความจะไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่หลายคนพุ่งเป้าว่าเธอหมายถึง "จอห์นนี่ เดปป์" อดีตสามี
ต่อมาสื่อชื่อดังของอังกฤษได้ทำซ้ำประเด็นดังกล่าวจนทำให้เดปป์ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้หน้าที่การงานอย่างหนัก จนเจ้าตัวต้องออกโรงปกป้องตัวเองด้วยการฟ้องกลับ The Sun แต่สื่อดังชนะคดีเนื่องจากได้นำบทความของแอมเบอร์ ในวอชิงตันโพสต์มาอ้างอิง
เดปป์จึงยื่นฟ้องแอมเบอร์ อดีตภรรยาในคดีหมิ่นประมาทพร้อมเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านดอลลาร์ แอมเบอร์ก็ฟ้องกลับเดปป์ว่าเขาหมิ่นประมาทเธอเช่นกัน และเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านดอลลาร์ กระทั่งนำไปสู่การต่อสู้กันในชั้นศาลนานกว่า 6 สัปดาห์ มีการถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันทั่วโลก ซึ่งทีมทนายของเดปป์ ทำหน้าที่ได้อย่างจะแจ้ง นำหลักฐานมาหักล้างจนกระแสสังคมรุมกระหน่ำแอมเบอร์ และมองว่าเหยื่อที่แท้จริงของเรื่องนี้คือ เดปป์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.คณะลูกขุน 7คน ของศาลเมืองแฟร์แฟ็กซ์ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีมติว่า แอมเบอร์ เฮิร์ด มีความผิดจริง ฐานหมิ่นประมาทจอห์นนี่ เดปป์ อดีตสามี และต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 15 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นสินไหมทดแทน 10 ล้านดอลลาร์ และค่าเสียหายเชิงลงโทษ 5 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 1 ตบสนั่นสะท้านโลก!!!!!
ที่สุดแห่งดราม่าประจำปี 2022 กับช็อตตบสนั่นสะท้านโลก!!! ของ "วิลล์ สมิธ" ที่เดินขึ้นเวทีตบหน้า "คริส ร็อก" กลางเวทีประกาศออสการ์ เนื่องจากไม่พอใจที่นักแสดงตลกคนดังได้เอ่ยปากแซวภรรยาในเรื่องของทรงผม ทำให้ผู้จัดงานออสการ์ลงดาบสั่งลงโทษ วิลล์ สมิธ ห้ามทำกิจกรรมหรือเข้าร่วมงานออสการ์เป็นเวลา 10 ปี
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว 29 มี.ค.2565 “วิลล์ สมิธ” ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านไอจี โดยได้กล่าวขอโทษ “คริส ร็อก” อย่างจริงใจ พร้อมระบุว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยากจะที่ยอมรับและให้อภัยได้ ตนเองรู้สึกละอายใจ ซึ่งเป็นความผิดของตนเองที่ทำตัวไม่เหมาะสม วิลล์ ยังคงยืนยันว่า การล้อเลียนภรรยาของตน ก็เป็นสิ่งที่เกินเลยไปมาก ตนจึงแสดงออกไปด้วยอารมณ์เช่นนั้น” และขอโทษทุกคนในงานและเหล่าแฟนคลับทั่วโลก
เรียกได้ว่าเป็นช็อตตบช็อกสนั่นโลกบันเทิงของจริง!!!!