คลั่งสยองกะซวกสองแม่ลูกขัง-เผาทั้งเป็น โดนจับยิ้มหวานอ้างเสียงสั่งฆ่า (คลิป)

เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 2 ม.ค. 66 ร.ต.ท.หญิง ภาสินี สงขาว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาชัยสน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไฟไหม้บ้านทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ

โดยเหตุเกิดที่บ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูน บ้านหมู่ที่ 5 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ตั้งอยู่ห่างจากถนนสายตกเขา-เกาะไอ้เถี้ยม 300 เมตร โดยรอบเป็นสวนยาง

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บ้านปูนถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางเชือน ตั้งวัฒนากุลชัย อายุ 76 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานเรื้องรัง เดินไม่ค่อยได้ และนางสาววัฒนา หนูนิล อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางเชือน สภาพศพถูกไฟไหม้เป็นตอตะโก

เบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านสภาพเก่า โดยประตูด้านหน้าถูกล็อกไว้ และใกล้ศาลพระภูมิหลังบ้านพบกระเป๋าสตางค์ แต่ไม่มีเงินหลงเหลือ พบเพียงบัตรประชาชนผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมหลานชายคือนายกฤษดา สอนคง อายุ 36 ปี เป็นผู้ป่วยทางจิต เนื่องจากเสพยาจนหลอน และเคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เนื่องจากขาดยาแล้วทำร้ายร่างกายน้าชาย โดยนายกฤษดา เป็นหลานชายของผู้เสียชีวิต

เบื้องต้น จากการสอบสวน นายกฤษดา สอนคง อายุ 36 ปี หลานชาย ยอมรับว่าเป็นคนลงมือฆ่าจริง เนื่องจากมีหมอเหลี้ยม คนในจินตนาการ มากระชิบข้างหูว่าให้ฆ่า 2 แม่ลูก ตอนแรกมาที่บ้านหลังดังกล่าว แล้วไปหยิบกระเป๋าเงินของนางเชือน กำลังหลับที่นอนหนุนอยู่ใต้ศีรษะจำนวน 3,000 บาท แล้วป้ารู้สึกตัว ก่อนใช้มีดทำครัวกระหน่ำแทงป้าบริเวณหน้าท้องหลายสิบแผล

จากนั้นใช้กริชที่พกติดตัวมา กระหน่ำแทงนางสาววัฒนา ลูกสาว ก่อนใช้น้ำมันพลายราดจุดไฟเผา แล้วเดินมาปิดล็อกประตู ก่อนไปนับเงินในกระเป๋าผู้ตายแล้วเดินอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าว หมอเหลี้ยมเป็นคสั่งฆ่า

ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหมอเหลี้ยมยังจะสั่งฆ่าอีกกี่คน นายกฤษดาบอกว่า ยังมีอีก 2 คน แล้วชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานหญิงพัทลุง 2 คน บอกว่า 2 คนนี้ ก่อนทำตาหวานแล้วยิ้ม

นายเดียว ตั้งวัฒณกุลชัย อายุ 45 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า นายกฤษดา ผู้ก่อเหตุเป็นลูกพี่ลูกน้องของตนเองมาทำงานเป็นคนหมูวัว อาศัยอยู่ในขนำภานใจสวนยาง 4-5 เดือน ไม่มีลูกไม่มีเมีย ทราบว่าเมื่อมาอาศัยอยู่มีอาการคลั่งยาทำร้ายร่างกายญาติที่นอนอยู่ในขนำด้วยกันจนญาติต้องย้ายที่อยู่ ส่วนตัวเคยมาเจอกับนายกฤษดา เพราะตนนั้นมาเยี่ยมแม่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานเรื้องรัง ซึ่งมีน้องสาวที่คอยดูแลแม่อยู่ตลอด

เมื่อได้มาเจอก็พบว่ายังพูดจาดีเป็นปกติ ไม่เหมือนกับคนเมายา ถ้าตนรู้ก่อนว่านายกฤษดาติดยาแล้วมีอาการ ครั้งก็คงจะระวังตัวมากกว่านี้ เพราะไม่คิดมาก่อนว่านายกฤษดาจะคลั่งยาแล้วเผาบ้านแม่ของตน หลังจากเกิดเหตุตอนนั้นยังไม่ได้เจอกับนายกฤษดา หากได้เจอก็อยากจะถามว่าทำแบบนี้ทำไม ซึ่งหลังจากนี้ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

นางพัสวี ประทุมสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง บอกว่าช่วงเที่ยงของวันนี้กำลังจะเดินทางไปร่วมงานศพของลูกบ้านก็มีชาวบ้านโทรมาแจ้งข่าว เกิดเหตุไฟไหม้ ที่บ้านของนางเชือน เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ ขณะนั้นเห็นนายกฤษฎายืนอยู่ พร้อมถือของชิ้นใหญ่อยู่ในมือ แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นอาวุธหรือไม่ จึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับหน่วยดับเพลิงให้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ

เมื่อเข้าไปยังที่เกิดเหตุก็พบศพของนางเชียรถูกไฟไหม้เป็นตองตะโก เชื่อว่าต้องมี 2 ศพถูกไฟไหม้ เพราะว่ารถจักรยานยนต์ของนางวัฒนา ลูกสาวนางเชือน ได้จอดอยู่หน้าบ้าน เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบศพของนางวัฒนา หลังจากนั้นพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจับกุมนายกฤษฎา หลังจากที่ก่อเหตุได้ไปนอนอยู่ในขนำกลางสวนยาง เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบปากคำนายกฤษฎา ก็มีอาการเหมือนคนเมายา พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุวางเพลิงบ้านญาติของตนเอง เพ้อบอกว่ามีคนสั่งมาให้เผา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 65 ตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายกฤษฎา ได้เข้าไปขโมยกระดิ่งผูกคอวัวของชาวบ้านไปขายเพื่อเอายามาดูด และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านมาได้แค่ 2 วันก็มาก่อเหตุวางเพลิงบ้านญาติของตนเอง