เพื่อนคนเจ็บเล่านาทีล้มฟุบ รุ่นพี่เตะ 3 ครั้งแลกเลสข้อมือ ญาติแฉก๊วนโจ๋ดอดขมา ลั่นไม่อภัย

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “เหน่อ หนองกระโดน” ลงเรื่องราวพร้อมภาพประกอบระบุว่า “น้องเข้าไปรับเลสข้อมือรุ่น จากรุ่นพี่ ม.6 ไปประมาณ 10 คน โดนทำร้ายประมาณสามคน น้องคนนี้โดนเตะหน้าอก จนหายใจไม่ออก ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน ทำให้นอกจากปอดช้ำแล้วสมองบวมไปด้วย ได้รับแจ้งว่า น้องหัวใจหยุดเต้นไปแล้วสามรอบ ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ ไม่เคยปรากฏพบที่โรงเรียนมาก่อน เป็นการคิดอยากทำและสืบทอดกันเอง รับแจ้งว่าตอนนี้รุ่นพี่ที่ทำร้ายร่างกายไม่ได้ออกมารับผิดชอบ แล้วหนีไป” (อ่าน : แฉ! รุ่นพี่รับน้องเถื่อนกระทืบแลกเลสข้อมือ ญาติเผยน้องโคม่า อยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ)

ล่าสุด วันที่ 7 ก.ค. 62 เด็กชายแบงค์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เพื่อนของเด็กชายกันต์ (นามสมมติ) ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนกับเพื่อนอยากได้เลสข้อมือจากรุ่นพี่ในกลุ่ม เพราะเห็นว่าสวยดี จึงได้ไปขอ ซึ่งรุ่นพี่ก็บอกว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน และให้พวกตนเลือกว่าจะทำอย่างไร ซึ่งพวกตนก็เลือกให้เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง โดยตน เด็กชายกันต์ และเพื่อนอีกคน ได้เข้าคิวให้รุ่นพี่เตะทีละคนโดยจับคู่กัน เพื่อนอีกคนถูกเตะคนแรกจำนวน 3 ครั้ง ตามด้วยตนและเด็กชายกันต์

ตนและเพื่อนอีกรายแค่รู้สึกเจ็บแต่ไม่ได้เป็นอะไร จนมาถึงคิวเด็กชายกันต์เมื่อถูกเตะครั้งที่ 1 และ 2 ยังอยู่ในอาการปกติ จนถูกเตะครั้งที่ 3 กำลังจะลุกไปรับเลสก็ล้มลงไป ตนกับรุ่นพี่ต้องรีบปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาล คาดว่าเด็กชายกันต์น่าจะถูกเตะผิดจุดทำให้ล้มลงไป

ขณะที่ นางสาวอิน (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พี่สาวผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตอนแรกที่ทราบเรื่อง กลุ่มรุ่นพี่โกหกทางญาติว่าชวนน้องไปซื้อน้ำแข็ง ระหว่างทางถูกกลุ่มชายใส่หมวกกันน็อก 4 คนรุมกระทืบ แต่ตนเอะใจหลังเห็นว่าน้องไม่มีบาดแผลที่ใบหน้ามีแต่ตามร่างกาย จึงสอบถามเพื่อนน้องกันต์ จนทราบว่ารุ่นพี่เป็นคนทำร้าย ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้องจะถูกเตะแค่ 3 ครั้ง เพราะรุ่นพี่ที่เตะน้องกันต์ตัวเล็กกว่าน้องกันต์ และเพื่อนคนอื่นที่ถูกเตะก็ไม่บาดเจ็บเหมือนน้อง ตนจึงคิดว่าน้องอาจถูกรุมกระทืบมากกว่า

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ ที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา รุ่นพี่ก็ได้เข้ามาขอขมา แต่ตนและครอบครัวไม่สนใจ ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะตอนนี้อาการของน้องชายตนสาหัส สมองตาย ปอดฉีก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเท่านั้น ตนรู้สึกเสียใจเพราะรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ก็เป็นเพื่อนกับน้องชายตนมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ช่วยน้องตน และไม่พูดความจริง ทั้งนี้เลสข้อมือดังกล่าวก็เป็นเลสที่รุ่นพี่จัดทำกันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียน