อากาศหนาว กะเพราออกสู่ตลาดน้อย ส่งผลกระทบราคาพุ่งพรวด กิโลกรัมละ 100 บาท ทำร้านขายอาหารตามสั่งอ่วมต้นทุน แต่ยังต้องขายราคา
วันที่ 8 ม.ค. 66 ที่ จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวสำรวจราคาใบ กะเพรา ในแผงขายผักตลาดสดเทศบาล 2 เทศเมืองอุทัยธานี หลังจากที่แม่ค้าพ่อค้าขายอาหารตามสั่งไปจับจ่ายซื้อของ เพื่อนำไปประกอบอาหารขายให้ลูกค้า พบว่าราคากะเพรา มีการปรับราคาสูงขึ้นอีกจนน่าตกใจ
เช่นเจ้าของร้านเจ้จุก ซึ่งเป็นแผงผักขายผักปลีกและส่ง เปิดเผยว่า ราคาใบกะเพราจากเดิมกิโลกรัมละ 60-70 บาท ตอนนี้ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท สาเหตุของการขึ้นราคา เนื่องจากเกษตรที่ปลูกกะเพรา เพื่อส่งขายให้กับแผงผักได้รับผลกระทบ เพราะอากาศที่หนาวเย็นในช่วงฤดูกาลนี้ ต้นกะเพราไม่ผลิตใบและดอกเหมือนเช่นฤดูอื่นๆ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังถือว่าราคาแพง ทำให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นอีก จึงต้องปรับราคาขึ้นตามไปด้วย คาดว่าช่วงปลายเดือน ม.ค. ถึงกลางเดือน ก.พ. สภาวะราคากะเพราแพงจะกลับมาเป็นปกติ เนื่องจากกะเพราจะออกสู่ตลาดมากขึ้น
ขณะเดียวกันร้านอาหารตามสั่งทั่ว จ.อุทัยธานีได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะมีต้นทุนประกอบอาหารขาย โดยเฉพาะเมนูกะเพรายอดฮิต และเมนูที่ต้องใช้กะเพรา ซึ่งเมนูเกือบทุกอย่างต้องใช้ใบกะเพราไปประกอบอาหารทั้งสิ้น
เช่นที่ครัวคนวัง เป็นร้านอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ที่ตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองอุทัยธานี เป็นร้านที่มีเมนูข้าวราดกะเพราหลากหลายรายการ เปิดเผยว่า ไปซื้อผักเพื่อมาประกอบอาหารขาย พบว่าราคากะเพราขึ้นจากเดิม เคยซื้อมาแค่กิโลกรัมละ 60-70 บาท ปรับขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท บางร้านขายสูงถึงกิโลกรัมละ 120 บาท
ไม่เพียงแต่กะเพราเท่านั้นที่มีราคาสูงจนน่าตกใจ มะเขือเจ้าพระยาหรือมะเขือกรอบ จากเดิมเคยซื้อจากเดิมกิโลกรัมละ 30 บาท ตอนนี้กิโลกรัมละ 50 บาท รวมถึงผักบุ้งจีนเคยซื้อกิโลกรัมเพียง 50 บาท ตอนนี้กิโลกรัมละ 70 บาท ส่วนผักอื่นๆ เช่น ต้นหอม ผักชี ผักกาดขาวยังขายราคาเท่าเดิม แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ โดยก่อนหน้านี้ทางร้านได้ขอขึ้นราคาข้าวราดกะเพราจากเดิม 40 บาทมาเป็น 50 บาท เพราะเนื่องจากราคาข้าวของที่ซื้อมาประกอบอาหารขายให้ลูกค้าแพงขึ้นมาก จนตอนนี้ไม่กล้าที่จะขอขึ้นราคาอีก เพราะเกรงว่าลูกค้าที่มาอุดหนุนประจำจะบ่นว่าแพง และกลัวว่าลูกค้านั้นจะหนี จึงจำใจทนแบกภาระต้น
