เพชรพันปีซัดก๊วนจัดฉากหวยทิพย์ลอยแพ โต้ขายทองลดเกรดแค่หมอง (คลิป)

วันที่ 10 ม.ค. 66 เวลา 09.30 น. ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พาผู้เสียหายกว่า 30 คน เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. เพื่อร้องเรียนทวงความยุติธรรมให้แก่กลุ่มผู้เสียหาย แจ้งความกรณีซื้อเพชรและเครื่องรางของขลังจาก เพชรพันปี หรือร้าน พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

รวมถึงที่มีการจัดฉากเกี่ยวกับการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ที่มีนักแสดงหนุ่ม บิ๊กเอ็ม เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ประชาชนหลงเชื่อและไปซื้อเครื่องรางของขลังจากร้านเพชรพันปีมาสะเดาะเคราะห์ โดยผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวมีประมาณ 1,000 กว่าคน รวมความเสียหายทั้งหมดประมาณ 14-15 ล้านบาท แต่ที่เดินทางมาวันนี้เป็นเพียงตัวแทนเท่านั้น

ซึ่งผู้เสียหายได้โชว์เครื่องประดับที่ซื้อมาจากร้านดังกล่าวและให้ข้อมูลว่า สินค้าเครื่องประดับที่ซื้อมา ซื้อมาในราคาสูง แต่สุดท้ายไม่ตกปกตามที่ทางร้านโฆษณาไว้ มีทั้งของปลอม ของที่ไม่ได้คุณภาพ

น.ส.สุพรรณรัตน์ จันทร์ขาว อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเธอเป็นลูกค้าประจำของร้าน พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ มาประมาณ 4 ปีแล้ว โดยติดตามคุณเพชรพันปี เจ้าของร้าน มาตั้งแต่ยังคงทำกิจการร้านโฟม ก่อนผันตัวไปทำธุรกิจบริษัทธุรกิจเครื่องเพชรชื่อ ร้าน พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ (PW Gems & Diamond) เผยว่า จากโปรไฟล์คุณเพชรที่พยายามพรีเซ้นต์ตัวเองและมักบอกลูกค้าเสมอว่ารวยระดับพันล้าน ซึ่งบริษัทที่มาจับธุรกิจมีโรงงานผลิตเพชรและพลอยเป็นของตนเอง ทำให้มีต้นทุนการผลิตสามารถควบคุมได้ จึงทำให้สินค้าเครื่องประดับมีราคาถูกกว่าที่อื่น จึงทำให้ตนหลงเชื่อและซื้อสินค้าในร้านเป็นประจำ

ต่อมามีการอวดอ้างว่า เครื่องประดับในร้านนอกจากมีคุณภาพดีแล้ว ยังถูกปลุกเสกด้วยพิธีกรรมที่ผ่านพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ตัวเองยิ่งมีความหวังไปอีก ว่าหากซื้อมาสวมใส่แล้วชีวิตจะเฮงขึ้นและปังขึ้น เพราะเป็นที่พึ่งทางใจอีกทาง ตนจึงซื้อสินค้าและร่วมเกือบทุกกิจกรรมของทางร้าน

แต่หลังเกิดกรณีดรามามหากาพย์รางวัลที่ 1 ทิพย์ 24 ล้าน ของลอตเตอรี่หงษ์ทอง ซึ่งคุณเพชรพันปี เจ้าของร้านอ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 แล้วมีการดึงดาราดัง “บิ๊กเอ็ม” มาแอบอ้างเป็นผู้ได้รางวัล จนถูกแฉหลายต่อหลายประเด็น ลุกลามไปถึงลูกค้าร้านเพชร ทำให้ตนเริ่มเอะใจและลองนำสินค้าที่ซื้อจากทางร้านไปตรวจสอบบ้าง จนจับโป๊ะว่าเพชร-พลอย ที่ซื้อมาไม่ได้คุณภาพตามที่ทางร้านโฆษณา

โดยที่ผ่านมาตนซื้อสินค้าจากทางร้าน 3 ชิ้นคือ แหวนนพเก้า ราคา 28,000 บาท ทางร้านโฆษณาทำจากทอง 18 k หลังตรวจคุณภาพ 10.46 k, แหวนพลอยมรกต ราคา 9,900 บาท ทางร้านโฆษณาทำจากทอง 20 k หลังตรวจคุณภาพ 20.22 k และเลสข้อมือ ราคา 50,000 บาท ทางร้านโฆษณาเป็นทอง 20 k หลังตรวจคุณภาพ 9.59 k

อีกทั้งมีการร่วมกิจกรรมกล่องสุ่ม 1 ครั้ง ราคา 30,000 บาท โดยในจำนวนนี้จะมีลุ้นจับฉลากที่ดิน 1 แปลง ตนจึงตัดสินใจซื้อไป 1 กล่อง ทางร้านโฆษณาหากเป็นสินค้าเครื่องประดับทำจากทอง 18-20 k ซึ่งตนได้สร้อยข้อมือและต่างหู 1 คู่ ต่อมาตนก็นำสร้อยข้อมือไปตรวจสอบ พบทำจากทองแค่ 9.6 k

ผลตรวจสอบคุณภาพสินค้า พบว่ามีเพียงแหวนพลอยมรกตเท่านั้นที่ได้คุณภาพตามที่ทางร้านโฆษณา นอกนั้นสินค้าที่ตนซื้อมีคุณภาพต่ำกว่าที่ทางร้านโฆษณาไว้ ขณะที่มีการอวดอ้างสามารถนำดวงของคนที่ศรัทธาไปวางไว้ใต้ฐานพระแก้วมรกตในวัดพระแก้ว ซึ่งทุกคนก็ต่างหลงเชื่อ เพราะต่างมีความหวังว่าหากทำตามชีวิตจะเฮงขึ้นและปังขึ้น และเชื่อว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนวอนขอให้คุณเพชรพันปีออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ด้าน เพชรพันปี อภิมหาโชคไพศาล หรือ “โอ๊ต เพชรพันปี” ผู้บริหารบริษัทธุรกิจพีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ ชี้แจงทุกกรณีที่เกิดขึ้น โดยยืดอกยอมรับว่า กรณีถูกลอตเตอรรี่ 24 ล้านบาทที่ตนโพสต์คลิปลงเฟซบุ๊คและติ๊กต๊อก เป็นการจัดฉากสร้างเรื่องอุปโลกน์เพื่อทำคอนเทนต์ แต่ไม่ได้ถูกรางวัลจริง

โดยรู้เห็นกันหลายคนในการจัดฉากสร้างเรื่องขึ้น เริ่มจากขณะที่ อ.รินลดา ชัยหมื่น นักพยากรณ์ชื่อดัง ติดต่อตนมาเพื่อให้ตนช่วยหาสปอนเซอร์สนับสนุนคอนเสิร์ตให้บิ๊กเอ็ม เพราะเป็นช่วงธุรกิจสบู่ขาดทุน ตอนนั้นตนก็ได้ร่วมเป็นสปอนเซอร์ด้วยจัดจี้เพชรแลัสร้อยเพชรรวม3 ชิ้นส่งให้ พร้อมกับให้จี้เพชรนักข่าวรวม 3 ชิ้น

จากนั้นตนก็พา อ.รินลดาไปหาหงษ์ทองลอตเตอรี่ เพื่อขอให้ช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ มีการเจรจาขอสปอนเซอร์จำนวน 500,000 บาท แต่ทางหงษ์ทองลอตเตอรี่ จ่ายให้เพียง 350,000 บาท ซึ่งทางฝ่ายอ.รินลดาไม่ยอมเพราะไม่ได้เงินตามจำนวนที่ต้องการ ตนจึงตัดลำคาญสมทบเงินให้อีก 150,000 บาท

ซึ่งตอนที่ตนเองสมทบเงินให้อีก 150,000 บาท ตนก็คิดเพียงว่าอยากให้บิ๊กเอ็มได้งานเท่านั้น และไม่อยากให้ทั้งสองฝ่ายที้งอ.รินลดา หรือ หงษ์ทอฝลอตเตอรี่ คิดว่าตนเป็นหัวคิว จึงควักเงินส่วนตัวจ่ายเป็นสปอนเซอร์

จากนั้นตนก็ดีลงานกันเพื่อจัดฉากเรื่องดังกล่าว ถามหงษ์ทองว่า มีคนถูกลอตเตอรี่ไม่มารับรางวัลเยอะไหม ทางหงษ์ทองลอตเตอรี่บอกว่าพอมี เพราะบางคนถูกรางวัลที่ 1 แต่ไม่มารับรางวัลก็มี แล้วหงษ์ทองได้เสนอให้ตนกับบิ๊กเอ็มทำสัญญาร่วมกัน ระบุให้บิ๊กเอ็มรับถูกรางวัลที่ 1 แทน และเดี๋ยวจะหาลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มากกว่า 1 ใบให้ เพราะถ้าถูกรางวัลที่ 1 เพียงใบเดียว จะเป็นข่าวธรรมดาไม่ดัง ไหนๆดาราถูกทั้งทีก็น่าจะเป็นข่าวใหญ่ๆหน่อย

แต่ในส่วนกระบวนการที่ทางหงษ์ทองลอตเตอรี่จัดหาลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ในจำนวนหลายใบนั้น ตนไม่ทรทบจริงๆว่าทางนั้นใช้กระบวนการในการจัดหามาอย่างไร แต่มีการรับปากจะหาลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มาให้ได้ ซึ่งตอนนั้น อ.รินลดา ก็บอกว่าอยากถูกด้วย จึงได้แบ่งลอตเตอรี่ให้บิ๊กเอ็ม และ น.ส.รินลดา

ส่วนที่เพิ่งออกมาเปิดเผยหมดเปลือก เพราะตอนแรกทั้งหมดตกลงกันว่าจะไม่พูดความจริง แต่ต่อมาบิ๊กเอ็มอยู่ๆชิ่งแฉความจริงคนแรก แล้วโยนความผิดให้คนอื่น ซึ่งตอนนั้นตนก็มีการปรึกษากับอ.รินลดา และตกลงกันไว้ว่าจะปิดปากเงียบ และ อ.รินลดา บอกให้ตนอัดคลิป เพื่อยืนยันว่า “บิ๊กเอ็ม ถูกรางวัลที่ 1 จริงๆ ได้รับเงินไปแล้ว” โดยอ้างว่าถ้าไม่ทำ บิ๊กเอ็มจะโดนต้นสังกัดปลด ตนเลยรีบอัดคลิปให้

แต่สุดท้ายตนกลับถูกโยนความผิด ยืนยันว่าตนก็ได้รับผลประโยชน์จากการจัดฉากเรื่องดังกล่าว แต่ตนไม่เคยได้รับเงินจากหงษ์ทองลอตเตอรี่ ส่วนตัวไม่เสียใจที่แต่ละคนโยนความผิดให้ตนเพียงคนเดียว เพราะเข้าใจสัญชาตญาณมนุษย์ทุกคนต้องเอาตัวรอด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโยนความผิดให้ตนคนเดียว

ส่วนกรณีเพชร-ทองที่ตนขาย แล้วมีผู้เสียหายไม่พอใจไปแจ้งความเอาผิดตน เรื่องนี้ตนยินดีรับผิดชอบด้วยการซื้อคืนและคืนเงินให้ลูกค้าทุกคนหากไม่ตรงตามที่โฆษณาไป แต่ตนจะคืนเงินก็ต่อเมื่อลูกค้าคืนสินค้าพร้อมมีหลักฐานใบตรวจคุณภาพ เพื่อยืนยันว่าสินค้าที่ซื้อไปไม่ตรงปก

โดยตนยืนยันเวลาโพสต์ขายไม่เคยบอกว่าเป็นทองกี่เค บอกเพียง “เป็นทองแท้ เพชรแท้” ซึ่งเพชรและทองมีราคามาตรฐานของมัน ส่วนกรณีที่ลูกค้าบอกว่าซื้อเพชรไปแล้วคุณภาพต่ำลง ขอย้ำว่าเพชรสวยก็คือเพชรสวย มันไม่มีทางจะขี้เหร่ลงไปได้ แต่ที่บางเคสตรวจแล้วได้เกรด FI เพราะเมื่อใส่ไปนานๆ แล้ว แล้วมาตรวจในตัวเรือนมันไม่ได้ เพราะจะมีคราบจากการใช้งาน ต้องตรวจก่อนที่จะฝังบนตัวเรือนเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่มีลูกค้ามากล่าวหาเช่นกันตนเปิดรับนำดวงของลูกค้าไปวางไว้ใต้ฐานพระแก้วมรกตในวัดพระแก้ว ยืนยันอีกว่าไม่เป็นความจริง เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวัดพระแก้วเป็นวัดหลวง ไม่มีใครนำแผ่นดวงไปวางไว้ใต้ฐานพระแก้วได้ ยอมรับอาจเป็นการโฆษณาเกินจริงของแอดมินเพจที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อนระหว่างแอดมินเพจและลูกค้า

ถึงเวลาโต้กลับบ้างสำหรับ “ลีน่า จัง” หลังมีประเด็นวิวาทะผ่านโซเชี่ยลกับ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” จนอีกฝ่ายออกมาฟาดเดือด เหตุถูกเธอรับจ้างด่ารัวๆ ทั้งมิสแกรนด์ และ “อิงฟ้า วราหะ”

"ลีน่าจัง" ยืนยันกับทีมข่าวว่า อิงฟ้ารักตนจริง ๆ เพราะก่อนหน้าได้มีโอกาสไปออกรายการกันมาหลายรายการ ก็ยังมีการหลอกล้อพูดคุยเล่นกันกับอิงฟ้า แม้ตอนนั่งอิงฟ้าก็มานั่งด้วยข้าง ๆ ยกมือไหว้ตลอด ส่วนที่ณวัฒน์บอกว่าอิงฟ้าไม่ได้รักตนนั้น เพราะเขาหิวแสง จนเกิดเป็นไวรัลในติ๊กต็อก

สำหรับประเด็นณวัฒน์เปิดคลิปที่ตนเคยด่าอิงฟ้าว่าไม่สวย รักแร้ดำ จมูกไม่สวย ตนแค่ไลฟ์เล่นตลกเพราะวันน้้นตนแต่งตัวสวย มันคือคาแรคเตอร์ของตนที่ทำให้คนดูสนุก และอิงฟ้าเพิ่งได้ตำแหน่งวันนั้นวันแรก มันก็เป็นตามที่ตนพูดจริง แต่วันนี้เขาสวยขึ้นแล้ว และที่ตนด่านั้นตนด่าลูกเพจมาด่าตนว่าเป็นอึ่งอ่าง แต่ดันมีคนนำไปตัดต่อ เพราะบางทีตนก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร เมื่อวานเขาก็ได้แสงเต็ม ๆ กลบข่าวอื่นเงียบหมด ทั้งนี้ ตนไม่ได้เจ็บใจที่อดีตพนักงานบอกให้ตนด่าตัวเองบ้าง เพราะเชื่อว่ามันมีบท ตนให้อภัย หากให้ตนทะเลาะ จะทะเลาะกับนายพล ไม่ทะเลาะกับคนขอทาน คนที่จนเพราะจะเป็นการรังแกเขา

และทางณวัฒน์อยากให้เลิกพูดถึงมิสแกรนด์ ตนไม่ได้พูดตั้งนานแล้ว ใครคอมเมนต์ชื่อองค์กรเขาหรือชื่อเขาตนบล็อกหมดกว่า 3 หมื่นราย เพราะเขาห้ามตนพูด หากพูดไปเดี๋ยวมีคนนำไปตัดต่อหาว่าไปด่าเขาอีก ถามจะจบกันยังไงกับณวัฒน์จะจบที่ศาลหรือไม่ก็แล้วแต่ ตนเตรียมพยานหลักฐานเรียบร้อย แต่มีเรื่องที่ตนจะไม่ฟ้องคือลูกชายของเพชรพันปี และอดีตพนักงาน เพราะสงสารเขาไม่ได้พูดเอง มีคนเขียนสคริปต์ให้ มีผู้อยู่เบื้องหลัง ตนถือว่ากรรมได้ตามสนองทุกคนเลย แต่ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยว เพชรก็ยังคือเพชร

จากนี้ตนก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเพชรพันปีแล้ว แต่จะยังคงทำรายการไลฟ์สดเหมือนเดิม เพราะเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำมา 9 ปี ก็ยังจะด่า เพราะในวงการเป็นเพื่อนกันทั้งหมด ย้ำว่าจะไลฟ์ต่อไม่พักดูแลสุขภาพ เพราะถ้าพักจะเอาที่ไหนกิน การไลฟ์มันคืออาชีพของตน สุดท้ายขอขอบคุณสื่อที่ยังเมตตา ถ้าเป็นคนอื่นอายุ 60 กว่าปีไม่มีงานทำแล้ว แต่ที่ตนยังมีกินมีใช้เพราะสื่อเมตตา เป็นแมว 9 ชีวิต ที่มีคนมาสาปแช่งตนว่ากรรมตามสนอง ตนยังไม่ตายยังต้องอยู่ปะทะกับเขา เดี๋ยวอาการอัมพาตก็หายใจเย็น ๆ อาจจะเครียดช่วงนี้