เปิดใจ! เสี่ยเบนท์ลีย์รับดื่ม 2 แก้วแต่ไม่เมา แจงไม่เป่าเพราะเจ็บอก ตร.แจ้งจับเมาแล้วขับ (คลิป)

จากกรณีเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 7 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา เกิดเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีเทา เลขทะเบียน 7 กค 3822 กรุงเทพมหานคร ของนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ นายทุนบริษัทใหญ่ 7 แห่ง และเป็นนายทุนพรรคการเมืองใหญ่ ขับรถหรูซิ่งแซงซ้ายพุ่งชนรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำป้ายแดง ทะเบียน ณ 3830 กรุงเทพมหานคร มีผู้โดยสารมากันทั้งครอบครัว รวม 6 คน

จนเกิดรถหมุนพลิกคว่ำบาดเจ็บทั้งคันรถ บริเวณบนทางด่วน เขตพระโขน กรุงเทพฯ ซ้ำมีรถดับเพลิงอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ จำนวน 2 คน

ล่าสุด​ มีรายงานว่าผลการตรวจสอบเลือดของผู้ขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์ จากโรงพยาบาลตำรวจ โดยผลการตรวจเลือดดังกล่าวแหล่งข่าวยืนยันว่า พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ส่วนเรื่องการตรวจสอบความเร็วขณะนี้ยังอยู่ที่การตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็ว ๆ นี้ ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดขณะนี้ผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ​

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.ชี้แจงกรณี รถยนต์เลนลีย์ เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร กม.21+200B ขาออก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เหตุเกิดวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลา 00.38 น. ว่า พล.ตท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ให้ความสำคัญ และกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรลงไปควบคุมดูแลเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าวด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและสังคม จึงขอเรียนให้ทราบ ถึงความคืบหน้าของการดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าวใน 2 ประเด็นหลัก

ประเด็นที่ 1 การดำเนินคดี เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 จากการที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อเท็จจริง และหลักฐานเพิ่มเติม จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับรถในข้อหา “ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ)” และนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้พิจารณารับฝากขังตามคำร้อง

ประเด็นที่ 2 การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากคดีดังกล่าว ยังมีพี่น้องประชาชนในสังคมมีความสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ และการใช้วิจารณญาณของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ผู้บังคับการตำรวจจราจรจึงได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 โดยมอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจจราจรเป็นประธานคณะกรรมการ และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 15 วัน ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป

กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว และขอเรียนย้ำว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการและเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป

นายอิทธิพล​ ประสงค์ทรัพย์​ ผู้บาดเจ็บใบหูข้างขวา ถูกกระจกบาดและเจ็บบริเวณหน้าอกเกิดจากการกระแทก​ ให้ความเห็นว่าจากผลการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดที่ไม่ถึงเกณฑ์เป็นไปตามการคาดการณ์ของตนเองเลย เพราะขณะที่เกิดเหตุคนขับรถเบนซ์ไม่ยอมตรวจวัดแอลกอฮอล์อ้างว่าเจ็บบริเวณที่หน้าอก จากนั้นเหมือนจะนั่งรถหลบหนีไปกับหญิงสาวคนสนิทส่วนเจ้าหน้าที่อาสาไปดักจับไว้ได้ทัน​

ตอนที่เกิดเหตุตนก็สังเกตพฤติกรรมของคนขับรถเบนท์เลย์ หรือ เบนท์ลีย์​ ก็พบว่ามีลักษณะมึนเมามีกลิ่นเหล้า​ มากับสาวคนสนิท​ หลังจากนั้นเขาก็หายไปจากที่เกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บไปพบอีกครั้งหนึ่งที่สถานีตำรวจ ก็สังเกตเห็นว่า คนขับรถเบนเล่ รถเบนท์เลย์ หรือ เบนท์ลีย์​ ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ อ้างว่าเจ็บหน้าอก และพยายามกินน้ำเดินกินน้ำวนไปวนมาอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับมีการเคี้ยวหมากฝรั่งด้วย​

ตนเห็นแบบนั้นก็ทราบทันทีว่ายังไงก็รอด​จากข้อหาเมาแล้วขับ​ เพราะเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เที่ยงคืนแต่พาคนก่อเหตุไปตรวจตอน 05.00 น. คิดว่าช่วงเวลาตอนนั้น ปริมาณแอลกอฮอล์ก็น่าจะลดลงแล้ว เพราะฉะนั้นตนก็ไม่ได้ติดใจเรื่องเมาแล้วขับเพราะถึงอย่างไรก็คงสู้อะไรกับ เขาไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็คือรถดับเพลิงของทางหน่วยซึ่งมีอยู่แค่คันเดียวเป็นรถที่มีอุปกรณ์ครบ ทั้งเครื่องมือในการดับเพลิงและช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ​ ตอนนี้พังเสียหายทั้งคันมูลค่าความเสียหาย 1 ล้าน 5 แสนถึงล้าน 7 แสนบาท อยากได้คืนมาเพราะตั้งแต่เกิดเหตุไม่สามารถออกหน่วยไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนได้ผ่านมาแล้ว 10 เคสที่ไม่สามารถลงพื้นที่ไปช่วยได้เพราะไม่มีรถยนต์คันนี้​/ส่วนอาการบาดเจ็บของตนเอง ไม่ได้บาดเจ็บมาก ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ เนื่องจากปกติทำงานเป็นจิตอาสาอยู่แล้ว ส่วนประเด็นเมาแล้วขับขอให้กับสังคมเป็นคนตัดสิน

ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดเผยว่า กรณีคนที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณทรวงอกนั้น โดยส่วนใหญ่จะไม่สามารถขยับตัว ไอ หรือเคลื่อนไหวได้สะดวก หากพยายามจะขยับตัวก็จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก

แต่กรณีของเสี่ยเบนท์ลีย์ ตนก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเขาบาดเจ็บหรือไม่ เพราะก็มีคนไข้หลายรายที่ได้รับบาดเจ็บ แต่มีความอดทนมากๆ และขยับตัวได้อย่างปกติ ในส่วนเรื่องค่าตรวจวัดแอลกอฮอล์จากเลือด ค่าตอนตรวจปัจจุบันไม่สามารถยืนยันได้ เพราะเมื่อร่างกายได้รับแอลกอฮอล์ ร่างกายก็จะเผาผลาญ หากเวลาผ่านไป ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะลดลง หากต้องการที่จะหาค่าแอลกอฮอล์ที่แท้จริง จะต้องคำนวนย้อนกลับไปยังเวลาในช่วงเกิดเหตุ ซึ่งมีงานวิจัยในการคำนวนได้ว่าตอนเกิดเหตุนั้นผู้ตรวจมีค่าแอลกอฮอล์ในเลือดเท่าไร