"ลุงตู่" กล่าวเปิดงานวันเด็กปี'66 เผยเพลงหน้าที่ของเด็กยังไม่ตกยุค กำชับขออย่าให้มีเรื่องบูลลี่กันในโรงเรียน
วันที่ 14 ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด Children’s Day “เด็กดี วิถีไทย”
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า วันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมในทุกปี คือวันเด็กแห่งชาติของพวกเรา ปีนี้จัดเป็นปีที่ 68 เป็นโอกาสอันดี ที่ได้พบกับลูกหลานไทยที่เป็นอนาคตของชาติได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความพึงพอใจในการที่มาพบกัน ถือเป็นกิจกรรมที่เราจัดให้เพื่อให้ทุกคน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กมีความสุข ทั้งที่ ศธ.และทั่วประเทศได้จัดงานวันเด็กขึ้นมาอย่างพร้อมเพียงกัน เพื่อให้ความสนุก ให้ความรู้นอกตำรา นอกโรงเรียน มีกิจกรรมใหม่ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจ และจะเป็นความทรงจำดีๆ ให้เป็นความประทับใจในวัยเด็กของพวกเรา
“คำขวัญวันเด็กที่ผมให้ปีนี้ คือ รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี เพื่อให้เด็กเยาวชนขนขวาย และตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง รวมทั้งความคาดหวังของสังคมที่มีต่ออนาคตของชาติ รวมไปถึงครูอาจารย์ ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษาทุกคน ที่มีส่วนสำคัญในการที่จะปลูกฝังอุปนิสัย ทัศนคติและปัญญา เพื่อเป็นเกราะป้องกัน คุ้มกัน ลูกหลานของเรา ให้รอดพ้นจากความสิ่งที่ผิดๆ หรือเชื่อความที่ผิดๆ และแนวคิดที่จะเป็นมลพิษในสังคมออนไลน์ต่างๆในปัจจุบันเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทุกคนในที่นี้น่าจะรู้จัก เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือที่เรียกกันว่า “เด็กเอ๋ยเด็กดีต้องมีหน้าที่10 อย่างด้วยกัน” เพลงนี้แต่งมานานแล้ว แต่เนื้อหายังใช้ได้อยู่ ไม่ตกยุค ถึงแม้วันนี้จะมีเรื่องของดิจิทัลเข้ามา แต่เราก็สามารถเสริมเติมเข้าไปได้ ซึ่งมันจะครอบคลุมทั้งหมดอยู่แล้ว คำนิยามที่สำคัญ คือ เด็กดีที่จะเติบใหญ่เป็นพลเมืองที่ดี เช่น มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ กตัญญู มัธยัสถ์ กระตือรือร้นที่จะศึกษาสิ่งใหม่ๆ นอกจากความคาดหวังที่จะให้เด็กและเยาวชน ได้รู้จักหน้าที่ของตนอย่างถ่องแท้และยั่งยืน ยึดมั่นปฏิบัติจนเป็นนิสัยแล้ว ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กทุกคนจะเป็นผู้ที่มีวินัย คือมีวินัยของตนเอง วินัยต่อสังคมในการที่จะเคารพกฎระเบียบกติกาของบ้านเมือง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจาก คำว่าหน้าที่และวินัยที่เป็น รากฐานของการดำเนินชีวิตแล้ว เด็กทุกคนยังต้องใฝ่ในการทำความดี ด้วยกาย ด้วยใจ ด้วยวาจา คิดดี พูดดี ทำดี และที่สำคัญประพฤติตัวเป็นลูกที่ดี โดยการเชื่อฟังพ่อแม่ ช่วยทำงานบ้าน ช่วยตนเองคือไม่เป็นภาระกับใครที่บ้าน พร้อมกับเชื่อฟังครูอาจารย์ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและเป็นเพื่อนที่ดีช่วยกันทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นพลเมืองดีของสังคมในโอกาสต่อไปด้วย
“โรงเรียนจะต้องสร้างความสงบเรียบร้อยให้ได้มากที่สุด อย่าให้เกิดการบูลลี่ขึ้นมาในโรงเรียน ครู อาจารย์ ต้องดูแลตรงนี้ เพื่อให้เด็กกล้าทำในสิ่งที่ดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ขอบคุณภาครัฐและเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมสร้างความสุขให้กับเด็กทั่วประเทศในวันนี้ ขอให้ทุกคนจัดงานด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย มีความสุข เราผ่านวันเวลาที่ยากลำบากคือในช่วงที่โควิด-19 ระบาดมา 2-3 ปี
เพราะฉะนั้น วันนี้เราต้องรักษาความสงบเรียบร้อยทุกอย่างไว้ให้นานที่สุด เพราะว่าเรากำลังเดินหน้าไปข้างหน้า เราหยุดไม่ได้ ประเทศเราหยุดไม่ได้ ต้องเดินไปข้างหน้า พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคทุกประการ โดยพวกเราต้องช่วยกันทำทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจ ไม่มีใครทำคนเดียวได้ ต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน ท่ามกลางปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งนี้ในระดับภูมิภาคเราถือว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศ
ขอให้ทุกคนเกิดความภาคภูมิใจในประเทศไทยของเรา และทุกคนต้องช่วยกันทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพทุกอย่าง ทุกประการ สิ่งไหนไม่ดี ช่วยกันขจัด ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันร่วมมือในการแก้ปัญหา มันย่อมดีกว่าการที่จะทำให้เกิดความแตกแยก เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นมา และไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พร้อม บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดัง ได้เดินเยี่ยมชมบูธต่าง พร้อมร่วมแจกของขวัญให้เด็กโดยเด็กๆให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกำมือไปที่หัวใจพร้อมชูมือ บอกว่าสู้ๆ ขณะบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เด็กๆขอถ่ายภาพเซลฟี่กับนายกฯ ก่อนที่จะเดินทางกลับทำเนียบต่อไป