ทำเอาหลายคนตกใจไปตามๆ กันเมื่อ “อิงฟ้า วราหะ” เล่าในรายการตีท้ายครัว เคยเกือบโดนคนบ้าข้างบ้านทำมิดีมิร้าย ล่าสุด “อิงฟ้า วราหะ” เผยกับสื่อมวลชนว่า
“หนูไม่ค่อยได้พูดไง ส่วนใหญ่ก็คือเราไปสัมภาษณ์รายการเยอะ ก็จะโดนคำถามเดิมๆ ซึ่งในรายการเขาก็เลยอยากให้ได้เห็นมุมมองอย่างอื่นบ้าง เราก็เลยมีเรื่องที่เราอยากออกมาเล่า ให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับการอยู่คนเดียว หรือว่าวิธีการเอาตัวรอด ก็เลยเล่าให้ฟัง ว่าครั้งหนึ่งเราเองก็เคยอยู่ในเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงเหมือนกัน ในช่วงวัยเด็ก แต่เราก็รอดมาได้ ด้วยอาจจะไหวพริบ แล้วก็สัญชาตญาณการเอาตัวรอด”
“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอาประเด็นที่สุพรรณบุรีแล้วกัน ด้วยการทำงานของเราในวัยเด็ก ด้วยสิ่งแวดล้อม ณ ตอนนั้น ก็มีการสุ่มเสี่ยง คือจะเป็นคนขอทานที่อยู่ข้างบ้านเรา คุณพ่อเขาพิการ แล้วตัวคนที่จะเขามาทำไม่ดีไม่ร้ายเรา เขาเป็นคนบ้า ขอใช้คำว่าเป็นคนบ้าแล้วกัน เพราะว่าแกจะชอบพูดคนเดียวแล้วก็ไม่มีสติ”
“ปกติคือคุณแม่ก็จะคอยแบ่งกับข้าวให้เขาตลอด เราก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาทำอะไรไม่ดี ก็คือไว้ใจ แล้วในช่วงที่เราอยู่คนเดียว เราก็เห็นเขาพยาจะเข้ามา แต่เราก็แกล้งตะโกนคุยโทรศัพท์ว่าพ่อจะมาแล้วใช่ไหม เขาก็ตกใจแล้วกลับไป แต่พอตอนกลางคืนเขาก็กลับมาอีกรอบหนึ่ง กลับมาคราวนี้คืออยู่ในห้องเลย ซึ่งเราก็กรี๊ด ตกใจ พ่อกับแม่ก็ตื่น เขาก็เลยจัดการตอนช่วงเช้า ซึ่งพอเจอตัวก็ทำอะไรไม่ได้ ใจหนึ่งก็อยากเอาผิด ใจหนึ่งก็สงสาร เพราะว่าเอาเรื่องคนสติไม่ดีมันก็ไม่ได้ ก็เลยได้แต่ให้เขาย้ายออกไป”
“ถามว่ากลายเป็นปมในใจไหม ไม่นะ ไม่เชิงว่าเป็นปมเพราะเขาเป็นคนสติไม่ดี มันอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะด้วยความที่เราไว้ใจ ชะล่าใจมากเกินไปเท่านั้นเอง จากเหตุการณ์นั้นก็ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเรา พ่อกับแม่ก็ระวังมากขึ้น ตอนนั้นอายุเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่อยู่ประมาณม.4 ค่ะ ซึ่งหลังเข้าวงการก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรแบบนี้แล้ว มันก็เลยทำให้เรามีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากการที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรืออยู่กับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง”