ม.อ.ตรวจสอบแล้ว "น้องวีน" จนจริงไม่จนทิพย์ ส่งทีมอาจารย์ไปดูถึงบ้าน ไม่ปิดกั้นโอกาสเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ เพราะ ได้มาด้วยความรู้ ความสามารถ
จากกรณีที่ นายกันตภณ หรือ น้องวีน อายุ 18 ปี ชาว อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ติดปัญหาด้านทุนทรัพย์ จึงได้เปิดรับบริจาคจากผู้ใจบุญ
โดยได้รับการเปิดเผยจากผู้ใกล้ชิดว่า มีเงินที่เข้ามาทางระบบบัญชีราว 8 แสนบาท ส่วนทางอื่นๆ ไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน
ต่อมา น้องวีน กลับถูกแฉภาพใช้มือถือราคาแพง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ไปอย่างกว้างขวางว่า จนทิพย์ หรือไม่?
ล่าสุด วันที่ 25 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับทาง รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เกี่ยวกับประเด็นของน้องวีน หรือ นายกันตภณ เต่าจันทร์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปัญญาวุธ จ.พัทลุง ที่สอบผ่านการทดสอบรอบพิเศษเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์ แต่ปรากฏเป็นกระแสดราม่าในสังคมเกี่ยวกับเรื่องการเปิดรับบริจาคหาทุนเรียน และหลายคนมองว่า ครอบครัวนี้จะจนทิพย์หรือไม่ รวมทั้งกระแสข่าวว่า ทางมหาลัยหรือคณะอาจจะไม่รับเข้าศึกษาต่อนั้น
รศ.นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ต้องแยกเป็นประเด็นๆไป โดยน้องวีน สอบได้จริง ซึ่งมาจากความรู้ ความสามารถ ของน้อง และสกิลการเป็นหมอมี และผ่านการทดสอบมาตามขั้นตอน ไม่ได้ลัดขั้นตอนใดๆทั้งสิ้น ซึ่งถือว่า เป็นผู้มีความสามารถที่จะเข้ามาเป็นนักเรียนแพทย์ได้
ส่วนประเด็นเรื่องจนจริงหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า จนจริง ไม่ได้แค่อ่าน หรือฟังคำบอกเล่าของใครมา แต่ทางคณะแพทยศาสตร์ ได้ส่งทีมอาจารย์ลงพื้นที่ไปพบกับเด็ก และครอบครัว รวมทั้งสอบถามจากญาติ คนใกล้ชิด และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูลหลักฐานยืนยันได้ว่า ครอบคัวของน้องวีน จนจริงๆ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และหากต้องมาเรียนแพทย์ก็คงจะไม่มีกำลังทรัพย์ที่เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดเรื่องความจนยืนยันได้ว่า เป็นข้อมูลจริง
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้นไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะไม่รับเข้าศึกษาต่อแต่อย่างใด ซึ่ง น้องวีน และครอบครัว เมื่อรู้ว่าสอบได้ก็ดีใจมาก และเชื่อว่า เมื่อรู้ว่าสอบติด และต้องเรียนแพทย์ จึงอาจจะมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และอาจจะไม่มีเงินไปเรียน จึงพยายามขวนขวายหาหนทาง ซึ่งสิ่งที่ทำก็ไม่ได้เป็นการโกหกหลอกลวง และสิ่งที่น้องวีน และครอบครัวพูด ก็เป็นความจริง
ขณะที่ในเรื่องเงินทุนการศึกษานั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีบุคลากร และองค์กรภายนอก ที่คอยสนับสนุนทุการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปี 1-ปี 6 อีกทั้งยังมีทุนการศึกษาจากมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อีกส่วนหนึ่งมอบที่จะมอบให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ด้วย ซึ่งกรณีของน้องวีน หรือนักศึกษาคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียนนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ มีขบวนการที่จะเข้าไปช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านี้อยู่แล้ว
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากข้อมูลล่าสุดที่ได้ส่งทีมอาจารย์เข้าพบน้องวีน และครอบครัว ที่บ้านพักนั้น คาดว่า น้องวีน น่าจะมาเข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ ซึ่งน้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนมาตั้งแต่ต้น และคาดว่า น้องวีน คงจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้
สำหรับยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.พ. และจะมีการพิจารณาพร้อมกับประกาศผลผู้ที่ได้รับการคัดเลือดเข้าศึกษาต่อในวันที่ 11 ก.พ. นี้