กรณีพบศพนายอัสนี เพียรหา หรือ โจ้ อายุ 18 ปี ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสายปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว (มุ่งหน้านพวงศ์) บริเวณปากซอยบ่อนไก่หมู่ที่ 1 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
เวลา 14.00 น. วันที่ 28 ม.ค. 66 นายอ็อดได้ติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายออ มายังห้องสืบสวนนั้น
นายออฟเปิดเผยสั้น ๆ กับทีมข่าวว่า "ตัวเองไม่ใช่คนผิด คนตายเป็นฝ่ายยิงปืนใส่ฝั่งตัวเองก่อน" จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอ็อด ไปสอบสวนในห้องสืบสวนต่อไป
โดยกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุจะเห็นว่าฝั่งผู้ก่อเหตุมาด้วยกัน 2 คัน รวม 3 คน แต่คันที่ก่อเหตุนั้น คือคันของนายอ็อด ซึ่งมากับภรรยา ชื่อนางสาวนุ่น (นามสมมติ) ซึ่งตอนเกิดเหตุ นางสาวนุ่นได้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเจ้าตัวตั้งครรภ์ ก่อนนายอ็อดจะขับรถไปก่อเหตุ ทีมข่าวได้สอบถามนางสาวนุ่นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร นางสาวนุ่นก็ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ พร้อมตอบสั้น ๆ ว่า "ไม่ขอตอบ"
ขณะที่นางดวง (นามสมมติ) แม่ของนายอ็อดวันนี้ก็ได้พาลูกชายมามอบตัว แต่นางสาวดวงก็ไม่ขอให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอีกเช่นเดียวกัน
โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำนายอ็อด ผู้ก่อเหตุ รวมถึงภรรยาของนายอ็อด และเพื่อนอีก 1 คนที่ไปด้วยกัน ถึงปมในการก่อเหตุ เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเรื่องของการพาอาวุธปืน และจะนำตัวส่งฝากขัง ในวันจันทร์ที่ 30 ม.ค. 66 ต่อไป
ด้านนางสาวมาลา อ่อนอึ่ง อายุ 56 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ฆ่าลูกตัวเองได้แล้วนั้น ตัวเองก็รู้สึกดีใจ และอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้รวดเร็ว แล้วก็อยากให้เขาได้ถูกลงโทษตามกฎหมาย กรณีที่ผู้ก่อเหตุให้การว่าลูกชายตัวเองเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงเขาก่อนนั้น ประเด็นนี้ ตัวเองก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงไหม เนื่องจากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ผู้ก่อเหตุทราบข่าวมาว่าเขามีอายุประมาณ 50 ปี น่าจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาน่าจะยับยั้งชั่งใจ แค่ยิงขู่ลูกชายก็พอ ไม่น่ามายิงกันถึงตาย
ทั้งนี้ ตัวเองก็อยากบอกวิญญาณลูกชายว่าไม่ต้องอาฆาตผู้ก่อเหตุ เพราะอยากให้ลูกชายไปสบาย เพราะเรื่องของคดี แม่เชื่อในการทำงานของตำรวจอยู่แล้ว ถ้าหากผู้ก่อเหตุอยากจะมาขอขมาศพลูก ตัวเองก็ยินดีที่จะให้เขาเช้ามาขอขมา ซึ่งศพของลูกชายจะตั้งที่ศาลาวัดจนถึงวันพรุ่งนี้ และจะเผาศพในวันจันทร์ที่ 30 ม.ค. 66
นางสาวมาลา บอกว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ตัวเองนอนอยู่ข้างโลงศพลูกชาย ระหว่างที่หลับก็ได้ฝันเห็นลูกชายสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ที่ตัวเองใส่ให้เขาชุดสุดท้ายในโลงศพ แล้วลูกก็เข้ามาบอกตัวเองว่า "แม่ อย่าร้องไห้" ก่อนที่เขาจะเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง แล้วก็หายไปในความฝัน ตัวเองจึงคิดว่าที่ลูกชายมาเข้าฝันตัวเองนั้น เขาน่าจะยังห่วงตัวเองอยู่
ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุพวกตัวเองกำลังจะเดินทางไปตลาด ระหว่างที่ออกมาจากซอย ก็มาเจอผู้ตายโดยบังเอิญ แล้วผู้ตายได้ให้ของลับใส่พวกตัวเอง ตัวเองจึงถามนายอ็อด ผู้เป็นสามี ว่ารู้จักกับผู้ตายหรือ สามีก็บอกว่าไม่รู้จัก จากนั้นผู้ตายก็ได้ยิงปืนมาใส่พวกตัวเองจำนวน 2 นัด ก่อนสามีจึงเห็นว่าตัวเองตั้งท้อง 6 เดือน กลัวจะเป็นอันตราย จึงให้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ตามภาพจากกล้องวงจรปิด
จากนั้นสามีจึงยิงข่มขู่ฝั่งผู้ตาย 3 นัด กระสุนไม่โดนใคร แต่ผู้ตายได้ให้เพื่อนจอดรถมอเตอร์ไซค์ แล้วผู้ตายก็เดินลงจากรถ มายิงปืนใส่พวกตัวเองอีก สามีจึงขับรถเข้าไปใกล้ ๆ เกาะกลางถนน แล้วยิงปืนใส่ฝั่งผู้ตาย เพื่อข่มขู่ให้หยุดยิง จากนั้นตัวเองจึงตะโกนบอกสามีให้พอแล้ว ๆ สามีจึงวนรถกลับมารับตัวเอง แล้วขับออกจากจุดเกิดเหตุ ไปตามคลองรังสิต จากนั้นตัวเองได้เปิดโทรศัพท์ดู ก็เห็นข่าวว่าคู่กรณีเสียชีวิตแล้ว จึงพูดกับสามีว่าพากันมามอบตัว ขอยืนยันว่าสามีไม่ได้มีเจตนาจะก่อเหตุ ทำไปเพราะป้องกันตัวและป้องกันตัวเองที่ตั้งครรภ์ แล้วฝั่งผู้ตายก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งพวกตัวเองก็ไม่รู้จักผู้ตายมาก่อนแต่อย่างใด