“สุชาติ” ร่วมพิธีเปิด “เทศกาลดอกงิ้วบาน” สามเหลี่ยมทองคำ แนะจัดตั้งเขต ศก.พิเศษไทยใน “เชียงราย” คู่ขนาน ฝากลาวช่วยเฝ้าระวังแก๊งคอลเซนเตอร์
วันที่ 29 ม.ค. 66 นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานผู้แทนราษฎร คนที่ 1 พร้อมด้วย นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมพิธีเปิด “เทศกาลดอกงิ้วบาน” ครั้งที่ 20 ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามหนังสือเชิญของรองผู้ว่าราชการจังหวัดบ่อแก้ว
ทั้งนี้พิธีดังกล่าวมี นายบุนทอง จิตรมณี รองประธานประเทศลาว, พล.ท.วิไล หล้าคำฟอง รองนายรัฐมนตรี สปป.ลาว, นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด อดีตรองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว, นายคำพัน เผยยะวง อดีตเจ้าแขวบ่อแก้ว สปป.ลาว, นายบัวคง นามมะวง เจ้าแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว, นายจ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ผู้บริหารระดับสูง และแขกผู้มีเกียรติ ทั้ง สปป.ลาว, ไทย, จีน, เมียนมา และเวียดนาม เข้าร่วมงานจำนวนมาก
ในโอกาสนี้นายสุชาติ และคณะ ยังได้พบปะหารือ 3 ฝ่ายกับ พล.ท.วิไล และผู้บริหารระดับสูงของสภากรรมการบริหารเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ถึงโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมทั้งปัญหาสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำชายแดนไทย - สปป.ลาว - เมียนมา
โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วถึงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาว่าได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ไทยควรจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการเจรจา เพื่อส่งเสริมด้านการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าปศุสัตว์ และสินค้าเกษตร รองรับคนที่เข้ามาอยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำในอนาคต ที่ผ่านมาไทยเสียโอกาสไปมาก
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ทราบว่า จ.เชียงราย มีความพยายามผลักดันนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด ตลอดจนมีการก่อสร้างสะพานข้ามแดนถาวร เพื่อพัฒนาด้านการขนส่งและการคมนาคม เพื่อความสะดวกด้านการเดินทางระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบพัฒนาพื้นที่คู่ขนานระหว่าง 2 ฝั่งแม่น้ำโขงให้เจริญเติบโตในทุกมิติ ทั้งด้านการส่งเสริมอาชีพ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว หากเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อทั้ง 2 ประเทศอย่างแน่นอน
“สิ่งที่อยากเน้นย้ำคือ โครงการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเชียงแสนกับเมืองต้นผึ้ง หากดำเนินการได้สำเร็จ ย่อมจะเป็นผลดีกับประเทศไทยทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขนส่งสินค้าเกษตรจะสามารถขนส่งได้โดยง่าย” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการยกระดับความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างกันนั้น ได้นำปัญหาการหลอกลวงและการค้ามนุษย์ หารือกับรองนายกฯ สปป.ลาว เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคประสบปัญหาดังกล่าว แต่ทราบว่ายังไม่พบที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ จึงฝากให้รองนายกฯ สปป.ลาว เฝ้าระวังขบวนการหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์เหล่านั้นอย่าให้เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียประโยชน์ของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ รวมทั้งได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยให้ใช้กลไกภาครัฐในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย
“เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เป็นพื้นที่แห่งการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน แม้ว่าจะลงทุนโดยชาวจีน ไม่ใช่ชาวลาว ไม่ใช่พื้นที่สีเทาอย่างที่คนเข้าใจ เพราะส่วนตัวได้ติดตามการเจริญเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำมาตั้งแต่ต้น และเห็นถึงการพัฒนาในทุกมิติของเขตเศรษฐกิจแห่งนี้ เพื่อเป็นพื้นที่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอย่างแท้จริง” นายสุชาติ กล่าว