หนุมานทิพย์! ผัวคลั่งองค์ลงแทงเมียพรุน ร่างทรงยันรับขันธ์คนละองค์ (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 28 ม.ค. 66 ร.ต.ท.ฐิติ นกจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ถนนบ้านน้อยซอย 3 ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

บ้านที่เกิดเหตุอยู่ในซอยค่อนข้างลึก จุดที่เกิดเหตุเป็นข้างบ้านหลังที่ติดกัน มีโอ่งใส่น้ำตั้งอยู่ มีกองผ้าสีขาววางไว้ที่พื้นคล้ายไว้รองศีรษะผู้ตาย มีกองเลือดขนาดใหญ่อยู่ที่พื้นระหว่างโอ่งใส่น้ำกับข้างบ้าน ส่วนผู้เสียชีวิตถูกนำออกมาจากจุดเกิดเหตุเพื่อกู้ชีพแต่ไม่เป็นผล จึงวางศพไว้ที่หน้าบ้านของคนตายดังกล่าวในสภาพศพนอนหงาย ใส่ชุดนอนยาวสีม่วงลายดอกไม้

ทราบชื่อคือ น.ส.พยุง เสริมสุข อายุ 50 ปี ชาว ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ถูกแทงด้วยมีดไม่ทราบชนิดและขนาด เข้าที่เนินอกซ้าย 1 แผล ตรงนมซ้าย 1 แผล และราวนมซ้ายอีก 1 แผล และที่หน้าแข้งซ้าย 1 แผล ที่น่องหลังซ้าย 1 แผล ที่หน้าแข้งขวา 1 แผล ต้นแขนซ้าย 1 แผล และรอยเล็ก ๆ น้อยอีกหลายแผล ทางแพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์ ระบุบาดแผลทั้งหมด 8 แห่งที่สำคัญ ส่วนบาดแผลที่เหลืออีกหลายแห่ง ในที่เกิดเหตุไม่พบมีดที่ใช้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายรำพัน หรือ ทิน สามีผู้ตาย 

วันที่ 29 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบวงจรปิดหลังเกิดเหตุ วงจรปิดตัวที่ 1 ในหมู่บ้าน เห็นผู้ก่อเหตุวิ่งถือมีดออกจากหลังบ้านเพื่อหลบหนีลัดเลาะไปตามทุ่งนา ไปยังอนุเสาวรีย์พระนเรศวรฯ วงจรปิดตัวที่ 2 ในหมู่บ้าน เวลา 21.03 น. จับภาพคนก่อเหตุ วิ่งหลบหนีตามท้องถนนเพื่อไปยังทุ่งนา วงจรปิดตัวที่ 3 กล้องในอนุสาวรีย์พระนเรศวร เวลา 21.04 น. จับภาพผู้ก่อเหตุวิ่งขึ้นจากทุ่งนาข้ามมายังอนุสาวรีย์พระนเรศวรก่อนเข้าไปหลบที่พงหญ้าในลานของอนุสาวรีย์

วงจรปิดตัวที่ 4 กล้องในอนุสาวรีย์พระนเรศวร เวลา 21.14 น. จับภาพ นายทรงพล ลูกชายของผู้เสียชีวิต ขับวนรถหาผู้ก่อเหตุ วงจรปิดตัวที่ 5 เวลา 21.39 น. จับภาพชาวบ้านหลายสิบคนและเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตามหาตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งขาวบ้านบางคนได้มีการพกไม้อยู่ในมือ เวลา 21.42 น. พอทราบข่าวว่าเจอตัวผู้ก่อเหตุแล้วจะเห็นชาวบ้านวิ่งกรูเข้าไปหาผู้ก่อเหตุที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนของอนุเสาวรีย์ วงจรปิดตัวที่ 6 เวลา 22.10 น. เป็นอีกมุมที่จับภาพตอนชาวบ้านวิ่งเข้าไปดูเหตุการณ์ หลังจากที่มีการเจอตัวผู้ต้องหาในคลิปวงจรบรรยากาศค่อนข้างชุลมุน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายรำพัน ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำครัวแทง น.ส.พยุง ซึ่งเป็นเมียใหม่จำนวนหลายครั้งจนเสียชีวิตจริง หลังก่อเหตุเกรงว่าจะถูกญาติของผู้ตายทำร้ายจึงได้หลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ 

โดยรับอีกว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับ น.ส.พยุง เมียใหม่  ภายในบ้านพักหลังดังกล่าวจากนั้น น.ส.พยุง ได้เดินหนีตนเองไปที่บ้านญาติซึ่งอยู่ข้างเคียง ตนเองจึงถือมีดทำครัวที่อยู่ในบ้านพักและติดตามไปและได้จ้วงแทง น.ส.พยุง ไปหลายครั้ง จนล้มลงจึงได้เดินหลบหนีออกมาดังกล่าว โดยได้นำอาวุธมีดที่ใช้ในการก่อเหตุไปโยนทิ้งในคลองชลประทานแต่จำไม่ได้ว่าเป็นบริเวณใด 

เหตุการณ์ดังกล่าวตน ได้เกิดบันดาลโทสะและมีปัญหาเก็บกดมานาน ที่ลงมือวันนี้รู้สึกเสียใจก่อนลงมือก่อเหตุตนก็ไม่ได้คุยกันเลย จู่ ๆ ก็เกิดมีอารมณ์เขาถามตนแต่ตนก็ไม่พูด ปกติแล้วผู้ตายก็ดีส่วนเราก็ดี แต่มันมีสิ่งรอบข้างที่จูงใจทำให้เราเกิดอารมณ์ และมันมีการด่าทอให้เราเสียศักดิ์ศรี ในบางครั้งครอบครัวอยู่ยาก แต่ที่ทำลงไปตนไม่ขอโทษ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จุดที่ น.ส.พยุง ถูกแทงเสียชีวิต เป็นบริเวณตรวข้ามบ้าน ติดกับข้างบ้านเพื่อนบ้าน พบคราบเลือดผู้ตายติดตามพื้นและที่ผนังบ้านเพื่อนบ้านมีรอยมือเปื้อนเลือดของผู้ตาย 2 จุด อย่างละ 1 ข้าง ติดอยู่ด้วย คาดว่าตอนผู้ตายถูกแทงน่าจะมีการใช้มือแตะผนังเพื่อพยุงตัว

นางมุขรินทร์ โพธิ์เงิน ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิตและเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.00 น. ตัวเอง น.ส.พยุง ผู้ตาย และ นายรำพัน ชาวนาตรี หรือ ทิน อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้นั้งคุยกันที่หน้าบ้านของผู้ตาย โดยคุยเรื่องงานการทั่วไป ซึ่งผู้ก่อเหตุก็นั่งดื่มเหล้าไปด้วย

ซึ่งพอดื่มเหล้าไปสักพักนายรำพัน ก็ตะโกนใส่ผู้ตายว่า “กูมีครู กูมีหนุมาน อย่ามาลบหลู่กู” จากนั้นเขาก็บอกว่า เขาองค์หนุมานลง แล้วเขาก็เปิดเพลงหนุมานในโทรศัพท์ฟัง พร้อมกับทำท่าเป็นหนุมานลำดาบ อยู่ประมาณ 30 นาที ตัวเองเห็นว่านายรำพัน เริ่มเมาหนักแล้ว จึงเดินกลับบ้าน ที่อยู่ข้าง ๆ กัน โดยมีแม่ของผู้ตายมานั่งอยู่ที่บ้านตัวเองด้วย เพราะกลัวอันตราย

กระทั่งเวลาประมาณ 20.40 น. ตัวเองได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุ ใจเย็นลง แล้วพูดกับภรรยาว่า “หิวข้าว เอาข้าวมาให้ผัวกินหน่อย” จากนั้นผู้ตาย ก็เดินออกมาจากบ้าน แล้วเห็นสามียืนถือมีดอยู่หน้าบ้าน ผู้ตายจึงบอกว่า “วางมีดลง จะถือมีดทำไม” จู่ ๆ นายรำพันก็เอามีดไปกระหน่ำแทง น.ส.พยุง ไม่ยั้ง ตัวเองจึงออกไปที่เกิดเหตุกะจะห้ามแต่ก็ไท่ทัน ซึ่งผู้ก่อเหตุได้มองหน้าตัวเอง แล้วถือมีดออกมา จากนั้นก็วิ่งสวนตัวเอง แล้วหลบหนีไปตามทุ่งนา ตัวเองจึงรีบโทรแจ้งตำรวจและแจ้งลูกผู้ตาย

สำหรับปมก่อเหตุนั้น คาดว่าน่าจะมาจากที่ผู้ก่อเหตุเมาเหล้า เพราะเวลาเขาเมา เขาจะองค์ลง แล้วด่าภรรยาประจำ เขาเคยเล่าให้ตัวเองฟังว่า เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว เขาไปรับขันธ์ 5 องค์หนุมาน มาจากคนทรงนายหนึ่ง ที่ต่างหมู่บ้าน ซึ่งเขาบูชาขันธ์ดังกล่าวเพื่อให้ถูกหวย แล้วที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุจะถูกหวยประจำ

ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ วัดบ้านน้อย ต.ดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จ.กาญจนบุรี งานสพของผู้ตายเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดย นายทรงพล เอกบุตร 23 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเกิดเหตุ ตัวเองไปเล่นบ้านเพื่อน จึงไม่เห็นเหตุการณ์ กระทั่งป้าที่บ้าน โทร มาบอก ว่าแม่ถูกแทงเสียชีวิต ตัวเองจึงรีบกลับมาดูที่บ้าน ก็เจอร่างแม่ ถูกแทงทั้งตัว

นายทรงพล กล่าวต่อว่า ตอนนั้นตัวเองไม่เจอผู้ก่อเหตุ เพราะหลังเกิดเหตุเขาได้วิ่งหลบหนีไปตามทุ่งนา ตัวเองจึงพาชาวบ้าน กว่า 50 คน ออกตามหาผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนแรกตัวเองก็ยังไม่เจอกับผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรีบกลับมาดูศพแม่ที่บ้าน กระทั่งทราบในภายหลังว่า ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งถ้าตัวเองเป็นคนเจอผู้ก่อเหตุจริง ๆ ตัวต่อตัว ตัวเองไม่ไม่ขอถามเขาสักคำ ตัวเองจะตีเขาเลย

ส่วนปมก่อเหตุ คาดว่าน่าจะมาจากเรื่องของการเมาเหล้า เพราะเวลาคนก่อเหตุเมา เขาจะทะเลาะกับแม่ตัวเอง และตลตีแม่ประจำ ตัวเองอยากให้คนกาอเหตุ เขาถูกดำเนินคดีถึงที่สุด ผู้ก่อเหตุเพิ่งคบหากับแม่ตัวเองได้ประมาณสองปี หลังจากที่พ่อตัวเองเสียชีวิต ที่ผ่านมาเค้าเป็นคนชอบดื่มเหล้า ชอบเรื่องไสยศาสตร์ เล่นของ เวลาเมา ก็ของขึ้น และทำร้ายแม่ตัวเอง

หลังให้สัมภาษณ์ นายทรงพล ได้พาทีมข่าวไปดูห้องผู้ก่อเหตุพบว่า มีโต๊ะบูชาเครื่องขันธ์ 5 ที่ผู้ก่อเหตุ รับมาจากคนทรง เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว เพื่อมาไหว้บูชา หวังได้โชคลาภ และเรื่องของหวย

ด้าน นายรำพัน ชาวนาตรี ผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวเปิดใจว่า ตอนเกิดเหตุ ตัวเองจำเหตุการณ์ไม่ได้ว่าทำอะไรลงไป และทำไปเพราะไม่รู้ตัว เนื่องจากมีการดื่มเหล้าจนเมา

ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุตัวเองมีอาการวูบ เนื่องจากองค์หนุมานลงประทับร่าง เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองไปรับขันธ์ 5 จากร่างทรงพระพี่พรายแก้วมา โดยร่างทรงดังกล่าวก็ได้ให้ขันธ์ 5 พ่อปู่สิงห์ทองกับตัวเองมาบูชาที่บ้าน

พอมาถึงตอนนี้ที่ตัวเองรู้ว่าภรรยาตายแล้ว ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ ถ้ามีโอกาสตัวเองก็อยากจะไปเคารพศพขอขมาศพภรรยา แต่ก็ไปไม่ได้เพราะกลัวญาติของภรรยาจะรถมประชาทัณธ์

หลังให้สัมภาษณ์ นายรำพัน ได้ให้ทีมข่าวดูรอยสักที่แผ่นหลัง ซึ่งมีการสักเป็นรูปมังกร โดยนายรำพัน กล่าวนอกรอบว่าที่องค์ลงเป็นเพราะไปรับขันธ์จากร่างทรงมา ไม่เกี่ยวกับรอยสักมังกรแต่อย่างใด โดยรอยสักมังกรนี้สักตั้งแต่ 20 ปี ที่แล้ว

ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของร่างทรงพระพี่พรายแก้ว ร่างทรงที่ผู้ก่อเหตุมาขอขันธ์ 5 ไปบูชา นางหน่อย (นามสมมติ) ร่างทรงพระพี่พรายแก้วเล่าว่า เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว นายรำพัน ได้มาที่ตำหนักของตัวเองและขอขันธ์พ่อปู่พยานาคไปบูชา ซึ่งตัวเองก็ได้แต่ขันธ์ 5 ให้เขาไป ไม่ใช่ขันธ์ของหนุมานแต่อย่างใด

แล้วเมื่อวานนี้ช่วงบ่าย นายรำพัน ก็มาหาตัวเองอีก โดยมาพร้อมกับภรรยาที่เสียชีวิต ซึ่งเขามาบอกตัวเองว่าหลังจากเขารับขันธ์จากตัวเองไป เขาก็ถูกหวยงวดที่แล้วเขาจึงมาขอบคุณตัวเอง ซึ่งเมื่อวานทั้งสองก็สีหน้าปกติ กระทั่งตัวเองมาทราบข่าววันนี้ ยอมรับว่าตกใจมากที่นายรำพัน ไปก่อเหตุฆ่าภรรยา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่าขันธ์ที่นายรำพัน มารับจากตัวเองไปคือขันธ์พญานาคไม่ได้เป็นหนุมานแต่อย่างใด

สำหรับความคืบหน้าทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมทวน ได้แจ้งข้อหา นายรำพัน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาเกี่ยวกับอาวุธมีด ซึ่งจะมีการนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีในวันพรุ่งนี้ต่อไป