‘ปกป้องพร้อมบำรุง’ ผิวรอบดวงตาจากแสงแดด Dr.Seoul เวชสำอางจากประเทศเกาหลี

25 ก.ค. 62
หากผิวบริเวณรอบดวงตากระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ก็จะช่วยให้ใบหน้าดูสดใส แลดูอ่อนกว่าวัย โดยล่าสุด จุ้มจิ้ม - วรนันท์ จันทรัศมี ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Dr.Seoul แบรนด์ผลิตภัณฑ์เวชสำอางดูแลผิวหน้าที่ได้รับมาตรฐานการผลิตจากประเทศเกาหลี ได้จัดเวิร์คช็อปร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Synergy Eye Cream ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดด Dr.Seoul แบรนด์ผลิตภัณฑ์เวชสำอางบำรุงผิวหน้าที่ได้รับมาตรฐานการผลิตจากประเทศเกาหลี ผ่านการค้นคว้า วิจัยและพัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่คลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศเกาหลีต่างมั่นใจในคุณภาพ พร้อมเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทุกปัญหาผิว ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย อีกทั้งยังช่วยฟื้นบำรุง ดูแลและปกป้องผิวหน้าให้สวยปลอดภัยอย่างยั่งยืน

โดย "จุ้มจิ้ม - วรนันท์ จันทรัศมี" กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดดจากแบรนด์ Dr.Seoul ว่า "จากการสำรวจพฤติกรรมของสาวไทยจะพบว่าผิวบริเวณรอบดวงตามักจะถูกละเลยที่สุดเวลาทาครีมกันแดด ซึ่งจริงๆ แล้วผิวรอบดวงตานั้นเป็นผิวบริเวณที่บอบบางและต้องการการดูแลมากที่สุด ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กันแดดรอบดวงตาโดยเฉพาะ ที่ช่วยดูแลและปกป้องผิวรอบดวงตาให้สวยใสอย่างอ่อนเยาว์ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมที่ถูกคัดสรรและพัฒนาขึ้นภายใต้การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มีความอ่อนโยน ปลอดภัย ปราศจากสารระคายเคือง เน้นบำรุงผิวรอบดวงตาพร้อมมอบการป้องกันจากแสง UV ที่ทำร้ายผิว พร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสผิวรอบดวงตาที่ดูกระจ่างใสและไร้ริ้วรอย" ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดด Synergy Eye Cream ที่มอบความอ่อนเยาว์ พร้อมปรนนิบัติผิวรอบดวงตาให้กระจ่างใส ลดอาการบวมบริเวณรอบดวงตาและถุงใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัย ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารกันเสีย ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมใหม่ล่าสุดแห่งประเทศเกาหลีที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรม Epidermal Growth Factor หรือ EFG ถือเป็นครั้งแรกของการรวมสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาที่ดีที่สุดจากประเทศเกาหลีไว้ในหนึ่งเดียว อาทิ สารสกัดจากรกแกะ (Hydrolyzed Placenta Extract) ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่มีปัญหา โดยการสร้างกรดอะมิโน เกลือแร่ และสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นในการกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ผิวส่วนที่เสียหายได้ พร้อมคืนความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวรอบดวงตา อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใสขึ้น, สารสกัดจากเมือกหอยทาก (Snail Secretion Filtrate) อุดมด้วยสารที่เป็นประโยชน์กับผิว อาทิ Allantoin (ลดการระคายเคือง), Collagen (เสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิว), Elastic (เสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว), Glycolic Acid (ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนๆ) และ Antibiotic Peptides (ช่วยลดการระคายเคืองและลดการอักเสบของผิว) ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการระคายเคือง พร้อมมอบความชุ่มชื้นแก่ผิวรอบดวงตา, วิตามินบี 3 (Niacinamide) ช่วยเพิ่มระดับเซราไมด์ในผิว ให้ผิวแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดเม็ดสีเมลานิน จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ, สารสกัดจากใบชา (Camellia Sinensis Leaf Extract) อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นลดอาการบวมรอบดวงตา, โอลิโกเปปไทด์-1 (Sh-Oligopeptide-1) ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นการทำงานในชั้นผิวที่เป็นกลไกสำคัญในการซ่อมเซลล์เนื้อเยื่อและการสมานแผล สามารถกระตุ้นให้เซลล์ผิวมีการสังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ช่วยทำให้ผิวหนังที่เสื่อมสภาพกลับมามีสภาพผิวที่ดีขึ้นพร้อมลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา, สารสกัดจากดอกไม้พื้นเมืองประเทศเกาหลี (Pulsatilla Koreana Extract) พืชพื้นเมืองประเทศเกาหลีที่ใช้สืบทอดในตำรับยาโบราณด้วยคุณสมบัติลดการอักเสบของผิว (Anti-Inflammatory) พร้อมลดโอกาสการเกิดสิวด้วย อีกทั้งยังเพิ่มส่วนผสมของสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดดด้วย SPF 50+ PA+++ ที่สามารถปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดด แสงไฟ แสงจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได้อย่างยาวนาน

ด้าน แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แนะนำเคล็ดลับและวิธีการดูแลและการปกป้องผิวรอบดวงตา เพื่อให้ผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย แลดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอว่า "ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นผิวที่มีชั้นผิวบางที่สุดบนใบหน้า และมีต่อมไขมันน้อยทำให้ผิวรอบดวงตานั้นแห้ง จึงทำให้ระคายเคืองและก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นๆ จึงควรจะดูแลเป็นพิเศษ โดยเริ่มจากการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจดทั้งใบหน้าและรอบดวงตาอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะสาวๆ ที่แต่งตาด้วยเครื่องสำอางอย่างอายแชโดว์หรือมาสคาร่า ต้องเช็ดทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับดวงตา จึงค่อยล้างหน้าด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า และไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีเม็ดบีทหรือเม็ดสครับกับบริเวณรอบดวงตา เพราะยิ่งจะทำให้ผิวรอบดวงตานั้นระคายเคืองและแห้งง่ายขึ้นไปอีก หลังจากนั้นควรเติมความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์อายครีม สิ่งสำคัญของการดูแลผิวคือไม่ควรละเลยการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดบริเวณผิวรอบดวงตา ควรทาให้สม่ำเสมอ โดยวิธีการทาครีมดูแลบริเวณรอบดวงตาที่ถูกวิธีคือ ให้บีบครีมปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว แล้วแต้มบริเวณรอบดวงตา จากนั้นถูฝ่ามือและนิ้วให้รู้สึกอุ่น แล้วใช้ปลายนิ้วนางทั้งสองกดซับครีมทาเบาๆ จากหัวตาไปหางตาแล้วยกขึ้น ให้ครีมซึมซาบเข้าบำรุงผิวรอบดวงตา เพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดดและป้องกันการเกิดริ้วรอยรอบดวงตา ปกติการทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดบางคนอาจจะละเลยการทาบริเวณรอบดวงตาไปเพราะเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์กันแดดเหล่านั้นมีส่วนผสมของสารกันแดดที่รุนแรงที่ไม่เหมาะกับผิวบริเวณรอบดวงตา แต่ในความเป็นจริงแล้วผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากกว่าผิวบริเวณอื่น ยิ่งจำเป็นต้องมีการดูแลและปกป้องมากกว่าผิวบริเวณอื่น ฉะนั้นเวลาที่ทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดต้องทาบริเวณรอบดวงตาด้วย เพราะในแสงแดดมีทั้ง UVA ที่ทำร้ายลึกถึงชั้นผิวด้านใน ยิ่งส่งผลให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น และ UVB เองก็ทำให้เกิดความหมองคล้ำรอบดวงตาใต้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องแสงแดดที่ถูกคิดค้นมาเพื่อปกป้องและดูแลผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ ก็จะช่วยตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการทากันแดดรอบดวงตาแต่มีความกังวลเรื่องส่วนผสมและกลัวอาการแพ้ระคายเคือง โดยอาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการทดสอบว่าสามารถใช้กับผิวรอบดวงตาได้ ก็สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ"

ฟื้นบำรุงและปกป้องผิวบริเวณรอบดวงตาให้เปล่งประกายสดใส ไร้ริ้วรอยและความหมองคล้ำ ด้วยผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวรอบดวงตาจากแสงแดด ‘ซินเนอร์จี อาย ครีม’ (Synergy Eye Cream) ได้แล้ววันนี้ที่ www.doctorseoul.com, FB: Dr.Seoul Thailand

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม