จากกรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว 2” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์พร้อมระบุข้อความว่า “วัยรุ่น 17 ปีถูกชายกลุ่มนึงที่อ้างว่าเป็นตำรวจบ้าน เดินเข้ามาหาเรื่องหลังจอดรถรอคนรู้จักหน้าร้านอาหาร โดยถามเพียงไม่กี่คำจากถูกลากมารุมจนน่วมกองสลบที่พื้น และเอาปืนออกมาถือขู่คนที่จะเข้าไปช่วย ตอนไปให้ปากคำทางญาติแจ้งข้อพยายามฆ่ากับคู่กรณีแต่เจ้าหน้าที่บอกว่า "รู้ได้ไงเขาจะยิง" ไม่ใช่คิดเอง ผ่านมาตั้งแต่ 24 ธ.ค. 65 คดีไม่ขยับฝากท้องที่ สภอ.บางปะอินด้วย"
จากนั้นทางเพจยังได้โพสต์ภาพคนบาดเจ็บกับคนก่อเหตุจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุข้อความว่า “คนจริงอยุธยายิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัดใครขวาง ใครช่วยคนเจ็บหันกระบอกปืนเดินไปหาทั้งที่เป็นชาวบ้านเดินผ่านมาก็ไม่สน เพราะความทรงพลังจึงส่งผลให้ไม่มีใครกล้า ก็ตั้ง 2 เดือนเรื่องยังจะเงียบกริบ”
ล่าสุดวันที่ 7 ก.พ. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่เกิดเหตุหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในบริเวณตลาดเลียบทางรถไฟบางปะอินเมืองใหม่ ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดเพิ่มขณะเกิดเหตุคือเวลา 02.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. 65 ภาพวงจรปิดตัวแรกจะเห็นนาทีก่อนเกิดเหตุ โดยกลุ่มคนบาดเจ็บเป็นชายสองคนกำลังช่วยเหลือเพื่อนผู้หญิงซึ่งเมาแล้วอ้วก หลังจากไปดื่มเหล้าที่สถานบันเทิง ระหว่างนั้นมีกลุ่มก่อเหตุเข้ามาเพื่อสอบถาม โดยเสนอตัวจะเป็นฝ่ายไปส่งผู้หญิงที่หอพัก และทั้งสองฝ่ายเกิดการโต้เถียงกันและกลุ่มคนก่อเหตุได้ชกหน้าคนบาดเจ็บ
ภาพวงจรปิดตัวที่สองจะเห็นว่า เพื่อนผู้หญิงของคนบาดเจ็บพยายามห้ามกลุ่มก่อเหตุแต่ไม่เป็นผล กลุ่มคนก่อเหตุยังคงหาเรื่องต่อและเข้ามาทำร้ายร่างกายคนบาดเจ็บ สักพักคนบาดเจ็บก็ตอบโต้ทำร้ายร่างกายคืนเหตุการณ์จึงชุลมุน โดยกลุ่มคนก่อเหตุลากตัวคนบาดเจ็บออกจากลานจอดรถแล้วมารุมซ้อมและกระทืบซ้ำ จนมีพลเมืองดีเป็นชายเห็นเหตุการณ์รีบขี่รถจักรยานยนต์สีขาวมาจอดและช่วยห้าม และขณะนั้นมีอาของคนบาดเจ็บขี่รถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ก็จอดรถแล้วไปช่วยหลาน
วงจรปิดตัวที่สามจะเห็นว่าเหมือนสถานการณ์จะดีขึ้น ทางกลุ่มคนก่อเหตุใจเย็นลงแต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นทั้งฝ่ายคนก่อเหตุและคนบาดเจ็บเคลียร์ใจกัน คนก่อเหตุไม่ยอมจบผลักคนบาดเจ็บลงพื้น จนคนที่อยู่ในเหตุการณ์และเพื่อนของคนบาดเจ็บคนอื่นต้องขอให้ใจเย็นและจบเรื่องนี้
นายธรัญญู ทศานนท์ คนบาดเจ็บ เล่าว่าวันเกิดเหตุตนไปดื่มสังสรรค์กับน้องชายที่สถานบันเทิงในที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีเพื่อนผู้หญิงที่น้องชายรู้จักเดินเข้ามาบอกน้องชายที่โต๊ะนั่งว่า “ถ้าหากเมาให้ไปส่งที่หอหน่อย” จากนั้นเพื่อนผู้หญิงคนนั้นก็เมาจริง ๆ ซึ่งตนกับน้องชายก็ประคองออกจากร้านแล้วก็จะไปส่งที่หอ จังหวะนั้นผู้หญิงฟุบลงกับพื้นแล้วก็อ้วก ตอนกับน้องชายก็จะเข้าช่วย แต่ปรากฏว่าคนก่อเหตุเข้ามาโดยมากับเพื่อนประมาณ 4-5 คน เข้ามาต่อว่าตนกับน้องชายว่าจะรวนรามและขโมยของผู้หญิง
นายธรัญญู กล่าวต่อว่า ตนก็อธิบายว่าเป็นเพื่อนของน้องชายตน แต่กลุ่มคนก่อเหตุไม่เชื่อและถามว่าเป็นแฟนกับผู้หญิงเหรอ ตนก็ตอบว่าไม่ แล้วจู่ ๆ คนก่อเหตุก็เข้ามาชกหน้าตน น้องชายเห็นเหตุการณ์ก็เลยเข้ามาช่วยแต่กลับกลายเป็นว่าถูกกลุ่มซ้อม และถูกกลุ่มคนก่อเหตุลากไปกระทืบอีกจุด ห่างจากจุดที่ตนและผู้หญิงอยู่ประมาณหกถึง 7 เมตร
ตอนนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาช่วย ก็ยังถูกทำร้ายร่างกายขณะนั้นอาของตนก็ขี่รถผ่านมาพอดี เห็นตนและน้องชายถูกทำร้ายก็เข้ามาช่วยแล้วก็ถูกทำร้ายร่างกาย ฝ่ายคนก่อเหตุคงโมโหที่มีคนมาช่วยตนและน้องชาย คนก่อเหตุก็เลยควักปืนออกมาแล้วก็ยิงขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนเล็งปืนมาที่อาของตนและพยายามจะยิง แต่ปรากฏว่าลำกล้องขัดจึงยิงไม่สำเร็จ จนกระทั่งมีคนเข้ามาช่วยอีกคนก่อเหตุถึงยอมหยุดเดี๋ยวก็ออกไปจากที่เกิดเหตุ
หลังเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความในวันที่ 26 ธ.ค. 65 ในข้อหาพยายามฆ่า แต่ร้อยเวรเจ้าของคดีบอกว่าไม่สามารถแจ้งความข้อหานี้ได้ เพราะพฤติการณ์ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น และคดีไม่คืบหน้ามาเกือบสองเดือนแล้ว จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเพราะคนก่อเหตุเป็นข้าราชการตำแหน่งคนขับรถให้นายอำเภอ จึงหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีนี้
ด้าน นายเคน พลเมืองดีที่เข้าไปห้ามคนก่อเหตุไม่ให้ทำร้ายกลุ่มคนบาดเจ็บ แล้วยังโดนลูกหลงเพราะคนก่อเหตุนึกว่าตนเองเป็นคนบาดเจ็บจึงเล็งหัวปืนมาที่ตน กล่าวว่า วันนั้นตนทำงานที่สถานบันเทิงใกล้จุดเกิดเหตุ แล้วได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคล้ายคนทะเลาะกัน จึงได้ขี่รถมาดูแล้วก็เห็นทั้งสองกำลังทะเลาะวิวาท ตนจะเข้าห้ามปรามคนก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและเข้าใจว่าตนคือหนึ่งในกลุ่มคนบาดเจ็บก็เลยหัวปืนมาที่ตน เคราะห์ดีที่ตอนนั้นคนดูแลสถานบันเทิงเห็นเหตุการณ์ก็เลยออกมาห้าม และอธิบายกับคนก่อเหตุว่าตนเป็นพนักงานในสถานบันเทิงไม่ได้เป็นเพื่อนหรือญาติของคนบาดเจ็บ
พลเมืองดี กล่าวต่อว่า ตอนนั้นคนก่อเหตุไม่ได้ขอโทษที่เล็งหัวปืนมาที่ตนแต่กลับพูดว่า “มึงใส่กันน็อก กูไม่รู้เรื่องหรอก กูเห็นจะยิงให้หมด” แต่ตอนนั้นที่ได้ยินตนไม่ได้กลัวหรือตกใจ เพราะกำลังงงกับเหตุการณ์ที่รถจักรยานยนต์ที่ตนขี่มาจอดในจุดเกิดเหตุหายไป ทราบภายหลังมีเพื่อนของคนบาดเจ็บพยายามติดต่อหาตนเพื่อจะนำรถมาคืน โดยให้เหตุผลว่าคนบาดเจ็บและเพื่อนตกใจและกลัวเสียงปืนที่คนก่อเหตุยิงขึ้นฟ้าหวั่นได้รับอันตราย ตอนนั้นกลัวมากและสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเห็นรถของตนจอดอยู่และสตาร์ทรถทิ้งไว้จึงขี่รถตนแล้วขี่ออกจากจุดเกิดเหตุ ไม่ได้ตั้งใจขโมย หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีได้สติคืนจึงรู้ว่าผิดแล้วติดต่อเอารถมาคืน
ภายหลังเกิดเหตุการณ์มาประมาณสองเดือนคนบาดเจ็บได้เอาคลิปวงจรปิดมาให้ตนดู ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจมากและแม่ของตนขอร้องตนให้เข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะอีกฝ่าย อส. และพกปืนติดตัว หวั่นกลับมาเอาคืนและตนจะได้รับอันตราย ตอนนี้กำลังปรึกษากับทนายความในการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนก่อเหตุ พลเมืองดี กล่าว