เปิดใจเณรร่ายกลอนรัก ยันสัมพันธ์แค่พี่น้องที่สนิทเผยเครียดจนร้องไห้ (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว2" ได้โพสต์ภาพข้อความแชตส่วนตัวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งมีภาพโปรไฟล์ห่มจีวรเหมือนพระ โพสต์ภาพชายห่มเหลืองพร้อมข้อความในทำนองว่า เป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่ตนรักมาก ถึงเขาจะขี้ดื้อตามประสาเด็กน้อยเป็นนักเรียนบาลีรูปหนึ่งที่ขยันมาก พร้อมติดแฮชแท็ก #น้องของผม รวมถึงมีภาพขณะชายห่มผ้าเหลือง 2 คน ลอยกระทงคู่กัน

นอกจากนี้ยังมีข้อความในแชตส่วนตัว ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวส่งไปหาบุคคลอื่น ร่ายบทกลอนแสดงความพร่ำเพ้อคลั่งรัก พร้อมระบุแคปชั่น "ใครกัน แต่งได้แบบนี้ สถานะเปลี่ยนแต่ใจไม่เคยเปลี่ยน ว." โดยทางเพจยังโพสต์ข้อความระบุว่า "รักใสใสหัวใจสีส้ม คู่รักแห่งวงการแครอทปิดตำนานประกาศแยกตัวข่าวลดสถานะลงเป็นแค่พี่น้อง" ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปหลายคนได้เข้าไปแสดงความเห็นหลากหลาย 

ล่าสุดวันที่ 7 ก.พ. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี พบ สามเณรก้อง (นามสมมติ) เจ้าของโพสต์ดังกล่าว ที่บวชเรียนอยู่ที่วัดนี้ ซึ่งสามเณรก้องยอมรับว่า มีการโพสต์ข้อความบอกรักสามเณรคิดตี้ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นสามเณรอยู่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งย่านฝั่งพระนคร

สามเณรก้อง กล่าวต่อว่า ตนเองและสามเณรคิดตี้นั้นเริ่มรู้จักกันเมื่อครั้งที่ตนเองได้ไปเรียนวิชาภาษาบาลีเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่วัดของสามเณรคิดตี้บวชเรียนอยู่ จากนั้นตนเองได้เจอกับสามเณรคิดตี้ซึ่งเป็นเด็กที่นิสัยดี น่ารัก จึงได้เริ่มติดต่อกันเรื่อยมา ทำให้เริ่มสนิทสนมกันมากขี้น บางครั้งสามเณรคิดตี้ก็จะเดินทางจากฝั่งพระนครมาหาตนเองที่ฝั่งธนบุรี บางครั้งตนเองก็เป็นฝ่ายเดินทางไปหาสลับกัน

ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสามเณรคิดตี้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแฟนหรือคนรักอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว และไม่เคยลดฐานะจากแฟนเป็นแค่พี่น้องอะไรทั้งนั้น “เราทั้งสองคนเป็นเพียงแค่พี่น้องคนสนิทกันเท่านั้น” ไม่มีอะไรลึกซึ้งไปมากกว่านั้น

ส่วนข้อความที่ตนเองโพสต์บอกรัก โดยมีคำว่า “LOVE” อยู่ท้ายของโพสต์รวมไปถึงกรอบรูปประกาศที่แท็กชื่อของสามเณรคิดตี้ลงไอจีสตอรี่ว่า “ประกาศน้อง… น่ารักมากนั้น” และบทกลอนต่าง ๆ ที่ส่งถึงสามเณรคิดตี้ยอมรับว่า ตนเองได้พิมพ์โพสต์ทั้งหมดจริง เพราะตนเองชอบแต่งกลอนชอบความไพเราะของภาษาจึงแต่งส่งให้สามเณรคิดตี้ช่วยดูเท่านั้น ไม่ได้ส่งบทกลอนจีบกันแม้แต่น้อย

ส่วนข้อความแชตหรือโพสต์ที่เพจนำมาเสนอข่าว เป็นการหยอกล้อระหว่างตนเองกับสามเณรคิดตี้เท่านั้น ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนแคปนำไปสร้างเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ตอนนี้ตนเองรู้สึกเครียดและกังวลคนจะเข้าใจตนเองและสามเณรคิดตี้ผิด ๆ และสิ่งที่กลัวมากที่สุดคือกลัวสามเณรคิดตี้จะถูกพระผู้ใหญ่วัดฝั่งพระนครให้สึกทำให้หมดอนาคต ตนเองไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

หลังเกิดเรื่องตนเองสัญญาว่า หลังจากนี้จะไม่โพสต์หรือนำเรื่องราวลงโซเชียลฯ อีกแล้ว เพราะบางคนนำไปตีความแบบผิด ๆ ทำให้พระพุทธศาสนาอาจจะเสียหายได้ โดยตนเองขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปที่วัดดังฝั่งพระนครซึ่งสามเณรคิดตี้บวชเรียนอยู่ สามเณรคิดตี้ เปิดใจกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองและสามเณรก้องเป็นพี่น้องกันจริง ๆ ไม่ได้เป็นแฟนหรือคนรักแต่อย่างใด หลังเป็นข่าวตนเองเสียใจมากที่ข่าวออกไปแบบนั้น ทำให้พระผู้ใหญ่ในวัดคุยกันหนาหูทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริงเลย

สามเณรคิดตี้เล่าไปร้องไห้ไปบอกว่า ทั้งข้อความบทกลอน กรอบรูปบอกคำหวาน รวมถึงรูปคู่ลอยกระทง ตนเองถูกผู้ไม่หวังดีเลือกเอาข้อความที่สามเณรก้องส่งให้กับเพจดังหวังให้คนเข้าใจผิด บทกลอนบอกรักสามเณรก้องส่งให้กับเพื่อน ๆ สามเณรทุกคนไม่ใช่แค่ตนเอง เพราะสามเณรก้องเป็นสามเณรที่แต่งกลอนเก่งมากและไม่ได้มีแค่กลอนบอกรักกลอนรูปแบบอื่นก็มี

รวมไปถึงกรอบรูปที่บอกว่า ตนเองน่ารัก ซึ่งสามเณรก้องทำให้ก็ไม่ได้มีแค่ข้อความบอกรัก ข้อความเป็นคำด่าก็มีแต่ผู้ไม่หวังดีซึ่งตนเองไม่รู้ว่าใครเลือกที่จะไม่แคปและส่งให้เพจดัง เช่นเดียวกับรูปคู่ลอยกระทงที่ตนเองได้ต่อเทียนสีชมพูกับสามเณรก้อง ก็เป็นการต่อเทียนกันปกติ มีสามเณรรูปอื่นยืมอยู่บริเวณนั้นเยอะแยะ ตนเองไม่ได้ไปลอยกระทงกับสามเณรก้องกันสองต่อสอง

หลังเกิดเรื่องตนเองเครียดมาก และไม่รู้ว่าจะถูกพระผู้ใหญ่ในวัดให้ออกจากวัดหรือไม่ รวมไปถึงพ่อแม่ก็เสียใจที่เป็นข่าวแบบนี้ ซึ่งตนเองสัญญาว่า จะไม่โพสต์หรือลงโซเชียลฯ เรื่องแบบนี้อีกเเล้วเพราะเราไม่รู้เลยว่าจะมีใครที่ไม่หวังดีจ้องจะทำร้ายเราเมื่อไหร่ แต่ยืนยันทั้งหมดที่ตนเองพูดเป็นความจริง ตนเองกับสามเณรก้องเป็นพี่น้องที่ตนเองเคารพรักเท่านั้น ไม่เคยคิดอะไรเกินเลย