"ตี๋อ้วน" ฟาดเดือด คนที่จะมาขอรับเงินช่วยงานศพ "น้องทีน" ตอนที่น้องเดือดร้อนอยู่ที่ไหน

"ตี๋อ้วน" ฟาดเดือด คนที่จะมาขอรับเงินช่วยงานศพ "น้องทีน" ตอนที่น้องเดือดร้อนอยู่ที่ไหน ย้ำชัดหากจะร่วมทำบุญควรให้กับมือ "พี่ต่อ" ที่ดูแลน้องมาตลอด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติแท้ๆ

เป็นเรื่องที่น่าเศร้างหลังพิธีกรชื่อดัง “ตี๋อ้วน-นำชัย จรรยาฐิติกุล” ได้ออกมาโพสต์ถึงการเสียชีวิตของ “น้องทีน" ร้านอ้วนตรึ้ม กะเพราตะหลิวตัด เด็กชายสู้ชีวิตเปิดร้านขายผัดกะเพราที่เป็นข่าวโด่งดัง โดยศพได้ถูกนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดนินสุขาราม ย่านบางบอน กทม.

ล่าสุด ตี๋อ้วน ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ตี๋อ้วนชวนหิว โดยระบุว่า (ผมเข้าใจครับคนไทยใจบุญและใจดี) ท่านที่คิดจะช่วยบริจาค หรือมอบเงินช่วยให้น้องทีน ผมขอแจ้งตรงนี้ว่าถ้าจะมอบจริงๆ ขอให้มอบกับคนที่ดูแลน้องจริงๆ ในเวลาที่ผ่านมา คือ "พี่ต่อ" ตอนที่น้องไม่มีใครน้องร้องหาพ่อแม่ ญาติทุกคนไม่มีใครมาดูเลยแม้แต่คนเดียว วันนี้น้องเสียแล้ว ท่านทั้งหลายจะมาขอเป็นคนรับเงินช่วยในงานศพน้อง ผมว่าไม่สมควรนะครับ ตอนที่น้องเดือดร้อน ไม่มีกิน เป็นหนี้ หาเลี้ยงตัวเอง พวกคุณอยู่ไหนกันโดยเฉพาะพ่อแม่"

นอกจากนี้ ตี๋อ้วน ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์นิวส์ว่า สิ่งหนึ่งที่ตนเสียดายในเด็กคนนี้คือเขาเพิ่งมีความสุขไม่ถึงเดือน เพิ่งจะมีร้าน เขาเพิ่งจะมีเงินซื้อของเล่น ทีมงานตนไปเจอน้องยืนซื้อของเล่นอยู่ ก็ถ่ายรูปมาให้ตนดู ตนก็บอกกับทีมงานว่า น้องมันมีความสุขแล้ว มันขายของได้ มีคนไปกินไปช่วย ตนดีใจที่ตนไปปลุกผีขึ้นมา จนน้องมีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็ดีใจ แต่พอวันนี้ได้ข่าวตนก็น้ำตาร่วงเลย สงสารน้องมัน ยังไม่น่าตาย อายุยังน้อย กำลังจะมีความสุข

น้องทีนเป็นเด็กน่าสงสาร ไม่เคยมีใครมาดูแล พ่อแม่ก็ไม่เคยมา มีแค่พี่ต่อ (นายต่อศักดิ์ รุ่งทอง อายุ 41 ปี ผู้อุปการะน้องทีนมานานกว่า 8 ปี) ที่ดูแล พี่ต่อต้องไปขับรถส่งของ วันนี้เป็นงานศพน้องทีน ตนได้ยินหลวงพ่อบอกว่ามีญาติโกโหติกามาปรากฏตัวเพื่อขอรับเงินบริจาค ผมบอกทุกท่านเลยนะว่าไม่ต้องให้ ถ้าจะให้ขอให้กับมือคนที่ชื่อต่อ คนนี้สมควรได้เพราะเขาดูแลน้องทีน น้องทีนเคยให้สัมภาษณ์ว่าตามหาคุณพ่อ น้องร้องไห้บอกว่าขอให้พ่อมาเยี่ยมสักครั้งก็ยังดี พ่อไม่เคยมาเลย วันนี้น้องตายไปแล้ว แล้วพ่อมา ถามว่ามันทันหรือคุณพ่อ

ด้านนายไชยนันต์ อายุ 42 ปี พ่อน้องทีน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้อยู่กับลูก ในวันที่ลูกชายเสียชีวิตคนดูแลได้แจ้งตนว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว เพราะหมอไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายพยายามปิดบังเรื่องอาการป่วยมาตลอด บอกตนว่าป่วยไม่เยอะเพราะไม่อยากให้ตนเป็นห่วง ซึ่งตนก็ยังอวยพรให้ลูกหายไวๆ เพื่อจะได้กลับมาขายผัดกะเพราให้เอฟซี ก่อนหน้านี้ไม่มีลางสังหรณ์อะไร เพียงแต่รู้สึกว่าลูกชายไม่ค่อยตอบไลน์ ตนกพยายามทักหาแต่ก็ไม่มีใครตอบ จนสุดท้ายคนดูแลบอกว่าลูกชายตนตายแล้ว อย่างไรก็ตาม นิสัยใจคอของลูกชายนั้นเป็นคนใจบุญ ชอบให้และชอบช่วยเอื้อเฟื้อกับคนอื่น ๆ