แจ้ง 4 ข้อหาหนักหนุ่มซิ่งเก๋งชน ตร.ดับ อ้างกลัวถูกจับบุหรี่ไฟฟ้า (คลิป)

24 ก.พ. 66

จากกรณี ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ถูก นายกิตติธัช คนขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำ ชนเสียชีวิต บนถนนกาญจนาภิเษกด้านตะวันออกบางปะอิน–บางพลี ทางหลวงหมายเลข 9 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยหลังเกิดเหตุได้ทิ้งรถหลบหนีไป กระทั่งกลางดึกวันที่ 23 ก.พ. 66 นายกิตติธัช ได้เข้ามอบตัวที่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. อ้างว่าที่หลบหนีเพราะกลัวถูกจับบุหรี่ไฟฟ้า

409579

วันที่ 24 ก.พ. 66 ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องติดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ บันทึกภาพขณะจอดรถถามผู้ต้องหาก่อนที่จะเกิดเหตุ

573439

และในขณะเดียวกันหลังพูดคุยกันผู้ต้องหาได้ขับรถหนีไป ส.ต.อ.เศรษฐการ ผู้เสียชีวิต ขับรถตามไป ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนเสียชีวิต 

โดยในช่วงเช้าของวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ได้นำตัว นายกิตติธัช คนขับชนรถ ส.ต.อ.เศรษฐการ ผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำเพิ่มเติม สีหน้าผู้ต้องหาหน้าตาเคร่งเครียด 

196022

พ.ต.อ.ขวัญชัย บุญเพ็ชร ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุให้ปากคำเบื้องต้นอ้างว่าเกิดความกลัวตำรวจจึงได้ขับรถหลบหนีและระหว่างขับรถหลบหนี จังหวะที่เกิดเหตุหักรถมาชนไม่เห็นว่ามีรถตำรวจอยู่จนกระทั่งเกิดเหตุและลงมาจากรถก็อ้างว่าเกิดความกลัวจึงหลบหนีโดยการลงไปทางด้านล่างของสะพานโดยไม่ได้ให้การช่วยเหลือ

และจากการตรวจสอบแอลกอฮอล์ ในเบื้องต้น ไม่พบว่า มีแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดและหาว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดหรือไม่ ส่วนบุคคลที่มารับผู้ก่อเหตุหลังเกิดเหตุแล้วหลบหนีนั้น จะต้องดูเจตนาว่าให้การช่วยเหลือจริงหรือไม่ก่อนที่จะพิจารณาว่ามีความผิดด้วยหรือไม่ ยอมรับว่าหลังจากทราบเรื่องนั้นก็รีบเร่งประสานเจ้าหน้าที่ กว่าจะนำตัวเขาเข้ามาได้ค่อนข้างดึกมาแล้ว จากพฤติการณ์ที่เขาหนีไปนั้นเขาบอกคำเดียว่ากลัว

312596

โดยในระหว่างคุมตัวขึ้นรถ นายกิตติธัช ได้ยกมือไหว้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยบอกวันว่าเกิดเหตุตนยืนยันว่าไม่ได้ดื่มเบียร์และไม่ได้เมา แต่มีขวดเบียร์อยู่ในรถโดยยังไม่ได้เปิด ส่วนรายละเอียดว่าทำไมถึงหักชนรถตำรวจนั้นมีเจตนาฆ่าหรือไม่ผมมีเหตุผล ผมจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร และได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว และจะให้การอีกครั้งในชั้นศาล

ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะขับรถชนตำรวจจนเสียชีวิต ส่วนหลังก่อเหตุได้ขึ้นแท็กซี่หลบหนีกลับไปโดยไม่ได้มีใครมารับหรือให้การช่วยเหลือ เมื่อถามย้ำเรื่องของสาเหตุการหลบหนีนั้นตอบเพียง “ผมก็มีเหตุผลของมัน“ ก่อนรถจะเคลื่อนออกจากสถานีตำรวจนำตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี

919938

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปบ้านเอื้ออาทรที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ของผู้ต้องหา นางอ้อม (นามสมมติ) แม่ค้าร้านของชำใกล้ห้องของภรรยาผู้ต้องหาระบุว่า นายกิตติธัช นั้นพักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกติดของภรรยาของเขา โดยลักษณะนิสัยเขาชอบดื่มสุรา ดื่มเบียร์ มักจะให้ภรรยามาซื้อเป็นประจำวันละ 1-2 ขวด ช่วงเย็น ๆ เมื่อก่อนครั้งที่ยังอยู่ตึกนี้ นายกิตติธัช นั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน เสียงดัง อารมณ์โมโหรุนแรง เคยด่าทอลูกและภรรยา เสียงดังสนั่น ตนเองยังกลัวหวาดระแวงเลย

ตนเองทราบเรื่อง ตกใจมาก ๆ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนแรกที่ดูข่าวก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นสามีของเจ้าของรถ พอรู้ก็ตกใจมาก ตนเองยังด่าสาปคนชนตำรวจอยู่เลย แต่ตนเองไม่แปลกใจเลยที่เขาขับรถชนตำรวจแล้วกล้าหนีเช่นนั้น เพราะนิสัยเขาโมโหร้อน รุงแรงจริง ๆ

ยืนยันว่า ตนเองก็ดูข่าวมาที่เขาบอกว่าจะไปตกปลาแล้วในรถมีเบียร์นั้น ตนเองยืนยันเลยว่าเขาเป็นคนชอบดื่มสุราอยู่แล้ว เขาต้องซื้อมาไว้เตรียมเพื่อเอาไปดื่มแน่นอน และจากที่เคยเห็นนิสัยเขามาก่อนนั้นเขา ก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง ก็มีโอกาสที่ไปก่อเหตุชนแล้วหลบหนี เชื่อว่าเขากล้าตัดสินใจหนีแน่นอน

ยอมรับว่าที่ผ่านมา เมื่อคืนก็ไม่ได้พบเจอสองสามีภรรยาคู่นี้ เพราะว่าครั้งสุดท้ายพบเจอคู่นี้ก็กว่า 1 กีครึ่งที่ผ่านมา มีเพียงตำรวจที่เดินทางมาสอบถามรายละเอียดว่า บ้านหลังนี้พบเจอหรือรู้จักหรือไม่ ก็บอกเพียงแค่ว่าเขาเปลี่ยนคนอยู่ขายบ้านไปแล้วเท่านั้น

828239

จากการสอบถามข้อมูล ทางด้านพันตำรวจเอกชาคริต มงคลศรี รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่ามีประวัติเมาแล้วขับอยู่ในพื้นที่ สน. บางชัน ซึ่งคาดว่าน่าจะกำลังอยู่ระหว่างรอลงอาญาจึงทำให้เกิดความหวาดกลัวจะโดนคดีซ้ำทำให้โทษหนักกว่าเดิมตัดสินใจขับรถหนี ขณะเดียวกันจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเจตนาฆ่าพนักงานจึงได้นำเรื่องส่ง สภ.ลำลูกกา ดำเนินการทางคดีต่อไป

696813

ขณะที่โรงพยาบาลตำรวจ ครอบครัวได้รับร่างผู้เสียชีวิต มายังศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร เพื่อรดน้ำศพและตั้งสวดอภิธรรมศพของ ส.ต.อ.เศรษฐการ โดยมี พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง และเพื่อนตำรวจเข้าร่วมไว้อาลัย

537055

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ส่วนเบื้องต้น ส.ต.อ.เศรษฐการ เสียชีวิตจากการปฏิบัตหน้าที่ ตนก็จะเข้ามาดูแลทายาท โดยผู้เสียชีวิตไม่มีลูกแต่มีน้องสาว หากน้องสาวสมัครใจถ้าเรียนจบก็สามารถสมัครสอบโควต้าของทายาทได้ ส่วนเงินเยียวยาตอนนี้เป็นเงินสวัสดิการตำรวจ 375,000 บาท และเงินของตำรวจทางหลวง สมาคมแม่บ้านตำรวจทางหลวง 9 แสนบาท และเงินจากผู้บังคับบัญชาอีกกว่าล้านบาท

ส่วนการปูนบำเน็จ ถ้าหากศาลพิพากษาว่า ฆ่าเจ้าพนักงานกำลังปฎิบัติหน้าที่จะปูนบำเหน็จสี่ชั้นยศเป็นร้อยตำรวจโท แต่ถ้าเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จะได้ 3 ชั้นยศเป็นร้อยตำรวจตรี ซึ่งขณะนี้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาหนักที่สุดโทษถึงประหารชีวิต

522117

ด้าน ส.ต.อ. ภาสกร ตรีภพ เพื่อนร่วมรุ่นและเป็นคู่บัดดี้ของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองเป็นคู่บัดดี้กันกับหนุ่ม รหัสต่อกัน วันที่เกิดเหตุก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยกันทั้งคู่ แต่ช่วงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะที่ตนเข้าพักผ่อนที่ตู้ เตรียมตัวออกปฎิบัติหน้าที่ โดยมีการแบ่งเขตการรับผิดชอบตรวจเขต ซึ่งตนรับผิดชอบ กม0-กม15 ส่วนผู้เสียชีวิตจะตรวจเขตตู้ตำรวจทางหลวงทับช้างตั้งแต่เขต กม30 ขึ้นไป นิสัยของ ส.ต.อ.เศรษฐการ ตั้งแต่รู้จักกันมาสามปี เพื่อนเป็นคนที่นิสัยดี ร่าเริง โอบอ้อมอารี เจอคนเดือดร้อนไม่ได้ จะต้องยื่นมือเข้าไปช่วย หาตำรวจดี ๆ แบบเพื่อนนั้นยาก

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ตนได้เห็นคลิปตั้งแต่เพื่อนเรียกตรวจรถ พอเรียกตรวจเสร็จเขาก็ขับหลบหนี จนไปถึงที่เกิดเหตุ ตนมองว่าเจตนาตบรถหนุ่มแน่นอน อาจไม่หวังว่าหนุ่มไม่ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยหนุ่มขับรถจักรยานยนต์ที่คันใหญ่ ทำให้มีความเร็วไม่สามารถให้เพื่อนได้เบรกหรือหลบ

ส่วนเรื่องที่หนุ่มจะแต่งงาน ก็มีการพูดคุยกับตนเองว่าจะเตรียมตัวหมั้นและจะไปสู่ขอแฟนสาวแล้ว แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน ส่วนเรื่องการทำงานในตอนนี้ ตนยอมรับว่าใช้รถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกันกับเพื่อน ช่วงนี้ก็คงต้องพักทำใจ เพราะตนเสียใจมากทำให้ขับขี่รถไม่ไหว ทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าเพื่อนจะมาเกิดเหตุ ถ้าเป็นคนเลวจะไม่เสียใจ แต่เพื่อนเราเป็นคนดี โดยคืนก่อนที่จะเกิดเหตุก็ไปกินข้าว และหนุ่มก็มาแย่งกินไอศกรีมของตนเหมือนเด็ก ๆ เพราะเราเป็นวัยเดียวกันและเป็นตำรวจรุ่นเดียวกัน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับเพื่อนคนนี้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม