ล่าโจรตีมึน ลักเครื่องดื่มในร้านของชำ แถมขอนอนค้างกับเจ้าของร้านด้วย

แม่ค้าผวาอยู่คนเดียวเจอโจรบุกงัดตู้แช่กลางดึก มีอาการคล้ายเมายา โดนขอขอนอนด้วยใจดีสู้บอกไม่ได้ก่อนโจรขับรถหลบหนีไป

วันที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.นิกูล จันทร์หอม สว.สอบสวน สภ.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากนางสาวธรรญวลัย เชิดทอง อายุ 34 ปี ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.55 น. (4 มี.ค.66) มีคนร้ายเป็นชายอายุ 25-30 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง สภาพใหม่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำอยู่กลางหมู่บ้าน ทำการก่อเหตุขโมยเบียร์ เครื่องดื่มชูกำลังในถังแช่ไปจำนวนหนึ่ง

จากนั้นร.ต.อ.บรรพต ภูริศรี รองสว.ป.สภ.เพ็ญ และ ร.ต.อ.ทองกานต์ ยางสุด รองสว.สส.สภ.เพ็ญ นำกำลังตำรวจสืบสวนและตำรวจป้องกันและปราบปรามไปที่ร้านที่เกิดเหตุ นางไพรวัล และนางสาวธรรญวลัย ลูกสาว และสามีเจ้าของร้านได้นำตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับให้ข้อมูลกับตำรวจ

นางสาวธรรญวลัย เล่าว่า ขณะเผชิญหน้ากับคนร้ายตามลำพังแบบมีสติ คนร้ายยังพูดจาและแสดงพฤติกรรมข่มขู่แล้วได้ชี้หน้านางไพรวัลย์ แม่ของตนเองที่อยู่บ้านตามลำพังขณะแง้มประตูบ้านออกมาดูและพูดคุยกับคนร้าย โดยคนร้ายยังบอกว่าขอนอนกับแม่ของตนที่บ้านด้วย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปโดยมีหลักฐานคลิปภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งหน้าร้านที่สามารถบันทึกภาพบางช่วง ขณะที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ด้วย

นางไพรวัลย์ ผู้เสียหายเปิดเผยว่า คนร้ายที่มาก่อเหตุตนไม่เคยเห็นหน้าคาดว่าเป็นคนต่างถิ่นหรือต่างหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุตนอาบน้ำอยู่หลังบ้านเสร็จแล้วมานั่งเล่นอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเหมือนคนค้นหาเครื่องดื่มในถังแช่ และพยายามเปิดตู้แช่ที่หน้าบ้านซึ่งตนปิดล็อกไว้แล้วเหลือเพียงถังแช่ที่ยังไม่ได้ล็อกกุญแจ ตนจึงเดินออกมาแง้มประตูกระจกหน้าบ้านดูพบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปีกำลังรื้อค้นทรัพย์สินที่อยู่ในถังแช่ออกมาวางที่พื้นแล้วทยอยนำเครื่องดื่มชูกำลังและเบียร์ใส่ลงไปในรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขี่มาจอดหน้าร้าน และมีอาการเหมือนคนเมายาบ้าไม่เหมือนคนเมาเหล้า และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นครั้งที่สองแล้ว

สำหรับครั้งแรกเกิดขึ้นช่วงต้นปีหรือประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมามีคนร้ายเข้ามางัดตู้ไอศรีมจนพังเสียหายก่อนลักเอาไอศกรีมไป 2 ถาดรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 4 พันบาทแต่ไม่ได้ไปแจ้งความเพราะไม่มีหลักฐานกล้องวงจรปิด อีกอย่างคิดว่าเป็นลูกหลานภายในหมู่บ้านด้วย กระทั่งมาครั้งนี้ลูกสาวได้ติดกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐานจับโจร

”ขณะเกิดเหตุตนตั้งสติและถามคนร้ายว่าหาอะไร คนร้ายบอกว่าหาของอยู่แต่ไม่รู้ว่าหาของอะไร เมื่อหาของไม่ได้ตามที่ต้องการคนร้ายได้เดินเข้ามาขี้หน้าต่อว่าละข่มขู่ตนที่หน้าประตูพร้อมกับบอกว่าอยากได้เครื่องดื่มเอ็มร้อย ตนจึงบอกว่าร้านปิดแล้วให้ไปซื้อร้านอื่นแทน แต่คนร้ายไม่ได้ขอซื้อเหมือนกับว่าอยากได้อะไรก็หยิบเอาไปใส่ลงไปใต้เบาะรถจักรยานยนต์ที่มีสายไฟฟ้าอยู่เต็มตะกร้าหน้ารถ แถมคนร้ายยังถามตนว่าคนในบ้านไปไหนกันหมดและขอนอนค้างคืนกับตนที่บ้านได้ไหม

ตนจึงตอบคนร้ายไปแบบใจดีสู้เสือว่าไม่ได้เพราะมีคนนอนอยู่เต็มบ้าน ให้ไปนอนที่อื่นซึ่งความเป็นจริงตนอยู่บ้านคนเดียว ลูกสาวและแม่ของตนไปดูอาการพ่อตนที่นอนป่วยอยู่รพ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนสามีไปทำธุระที่บ้านน้องชายยังไม่กลับ ก่อนคนร้ายจะถามทางไปตัวอำเภอเพ็ญ และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงโทรศัพท์แจ้งลูกสาวให้เข้าไปแจ้งความที่โรงพักในช่วงสายของวันนี้”

นางไพรวัลย์ ผู้เสียหายเปิดเผยอีกว่า ส่วนทรัพย์สินเบียร์และเครื่องดื่มชูกำลังที่คนร้ายขโมยเอาไปตนจำไม่ได้ว่ามีจำนวนเท่าไร เพราะตอนนั้นไม่ได้สนใจในเรื่องทรัพย์สินเลย แต่กลัวคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายร่างกายหรือทำมิดีมิร้ายกับตนเอง เพราะคนร้ายมีอาการไม่เหมือนคนปกติทั่วไปคล้ายกับคนเมายาบ้าจนมีอาการดีดเดินวนไปวนมาไม่หยุด หากคนเมาเหล้าจะไม่มีอาการแบบนี้เพราะเปิดร้านขายของชำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่กว่า 40 ปี ไม่เคยเจอคนมีอาการแบบนี้เลย หากเป็นคนเมาเหล้าก็จะมีอาการก่อความรำคาญเท่านั้น อยากให้ตำรวจหมั่นมาตรวจตราร้านค้าตามหมู่บ้านในเวลากลางคืน และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะกลัวจะมาก่อเหตุซ้ำอีก

ด้านตำรวจสันนิฐานว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุตามลำพังและเป็นคนต่างถิ่น โดยตะกร้าหน้ารถจักรยานยนต์คนร้ายมีสายไฟฟ้าคาดว่าคนร้ายจะเป็นช่างไฟหรือไม่ก็เป็นโจรขโมยลักตัดสายไฟฟ้าตามบ้านเรือนประชาชนที่ไม่มีคนเฝ้า

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจป้องกันและปราบปรามจะหมั่นออกมาตรวจตราตามร้านค้าในหมู่บ้านให้ถี่ขึ้น ส่วนทางตำรวจชุดสืบสวนจะได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้เข้ามาก่อเหตุและหลบหนีไปเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป