“เศรษฐา” เดินกาดเมืองใหม่ หาเสียงเชียงใหม่ ก่อนพบตัวแทนภาคประชาชน-ภาคท่องเที่ยว ถกปัญหาฝุ่น PM 2.5 เดินหน้าทวงคืนอากาศบริสุทธิ์
วันที่ 10 เม.ย. 66 ที่ตลาดเมืองใหม่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน
ทั้งนี้บรรยากาศช่วงเช้าของตลาดเมืองใหม่เป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากมาจับจ่ายซื้อของ เนื่องจากตลาดเมืองใหม่เป็นแหล่งขายสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และเป็นจุดศูนย์กลางในขนส่ง-กระจายสินค้าทางการเกษตรไปยังแหล่งจำหน่ายต่างๆ ในจังหวัด
ซึ่งนายเศรษฐาได้รับการตอบรับจากทั้งพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนเป็นอย่างมากหลายคนโบกมือทักทาย ให้กำลังใจ ขอถ่ายภาพคู่ บางคนบอกว่า “เบื่อนายกฯคนเก่า”, “เบื่อลุงที่อยู่มา 8 ปี” และ “อยากได้นายกฯจากพรรคเพื่อไทย” ในขณะที่หลายคนสะท้อนปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตร
จากนั้นนายเศรษฐา ได้เดินทางมาที่สี่แยกรินคำ ซึ่งเป็นจุดวัดค่าฝุ่นที่สำคัญจุดหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ โดยนายเศรษฐาได้พูดคุยกับ อดีตส.ส.ในพื้นที่ และนายสมชาย ทองคำรูณ กรรมการบริษัท green bus รองประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายก อบจ.เชียงใหม่ และนายสมโภช ลิ้มเล็งเลิศ รองประธานหอการค้าจ.เชียงใหม่ ถึงผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
ทั้งนี้นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาลึกซึ้ง ต้องการผู้นำที่เอาใจใส่จริงจังในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเผาทั้งหลาย ทั้งนี้ผู้ประกอบการในประเทศก็มีการไปติดต่อซื้อพันธุ์พืชมาจากประเทศใกล้เคียง ซึ่งกระตุ้นการผลิต แต่ไม่ได้สนใจปลายน้ำ ดังนั้นอาจต้องนำมาตรการภาษีมาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น โดยจะนำเงินภาษีที่ได้ช่วยเหลือประชาชนในการกำจัดซากพืชผล และการเผาด้วย
เมื่อถามว่า ผู้ประกอบการบางรายก็มีการเข้าป่าไปเผาพืชผล เพื่อนำมาขายในท้องตลาดด้วย นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ก็น่าเห็นใจเพราะพี่น้องประชาชนของเราประสบปัญหาเรื่องรายจ่ายสูงรายได้ต่ำมานาน ผักหวานก็เป็นพืชที่ขายได้กิโลกรัมละ100 บาท เพราะต้องมีการไปเผาก่อนถึงจะแตกหน่อมาได้ก่อนเก็บมาขายและได้ราคาดี ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ด้านเกษตรกรรมมนวัตกรรม คิดค้นให้มีการนำมาปลูกและแตกหน่อได้โดยไม่มีการเผาได้ ตรงนี้เป็นการนำวิกฤตให้มาเป็นโอกาสด้วย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยเป็นรัฐบาลมาก่อน และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านมาตลอด จะใช้วิธีการในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านก่อนเลือกตั้ง 2566หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า แน่นอนว่าเป็นความบกพร่องของรัฐบาลปัจจุบันด้วย และพรรคเพื่อไทยคิดว่าไม่มีความเหมาะสม หากจะต้องใช้โอกาสก่อนเลือกตั้ง 2566 ไปเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเวลาเราก็น้อย และอย่าก้าวเกินไปไกลกว่าหน้าที่ที่เราจะทำ แต่ถ้าพี่น้องประชาชนให้ฉันทามติพรรคเพื่อไทย เข้าไปบริหารประเทศ ยืนยันว่าจะนำเรื่องฝุ่น PM 2.5 เราจะเข้ามาบริหารจัดการก่อนเป็นเรื่องแรก ไม่ใช่แค่ จ.เชียงใหม่อย่างเดียว แต่จะรวมกับจังหวัดอื่นๆ ด้วย ถ้าเป็นสิทธิค่านิยมพื้นฐานของประชาชนที่คนไทย ไม่ต้องเรียกร้องเพื่อนำอากาศบริสุทธิ์กลับคืนมา
ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่างว่า เรื่องฝุ่น PM 2.5 เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทวงถามมาตลอด ในวันที่16 เม.ย.นี้ ตนก็จะไปกับประชาชนร้องศาลปกครอง เพื่อแสดงออกสิ่งที่ทำมาตลอด โดยร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่หมดอายุไปตามสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ก็เป็นสารตั้งต้น ที่จะผลักดัน เพราะเนื้อหากฎหมายได้ขยายเพดานการเจรจาประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องหมอกควันข้ามพรหมแดน ที่นายเศรษฐาได้กล่าวไปมีทั้งปัจจัยการเผาภายในประเทศ และปัจจัยคนที่อยู่กับป่าก็จะมี พ.ร.บ.ป่าไม้ ประเด็นการเผาก็มีเรื่องความขัดแย้งในประเทศ รวมถึงหมอกควันที่ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้านต้องมีการเจรา แล้วก็มีบทลงโทษด้วย ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะอยู่ในสถานะใด พรรคเพื่อไทยยืนยันจะทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวเชียงใหม่แน่