ขั้นตอนการสรงน้ำพระ บทสวดขอขมา บทสรงน้ำพระ เนื่องในวันสงกรานต์ 2566
การสรงน้ำพระ ขนบธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์มาอย่างยาวนาน ตามความเชื่อโบราณ การสรงน้ำพระเป็นการแสดงให้เห็นถึง การเคารพและสักการะต่อ พระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นการเริ่มต้นสิ่งที่เป็นมงคลในวันปีใหม่ไทย นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า การสรงน้ำพระพุทธรูปเป็นการทำความสะอาดพระที่เรากราบไหว้มาตลอดทั้งปี ช่วยให้ท่านเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน
ขั้นตอนการสรงน้ำพระพุทธรูป
1.สวดขอขมาก่อนการเคลื่อนย้ายองค์พระ
ตั้งนะโมฯ 3 จบ ตามด้วย "ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต"
ซึ่งมีคำแปลว่า "กายกรรม 3 วจีกรรม 4 มโนกรรม 3 ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย ด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ขอพระรัตนตรัยได้โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด"
2.ทำความสะอาดองค์พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนนำมาสรงน้ำ
ให้ใช้แอลกอฮอล์ชโลมเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ลูบไล้ตามซอกต่างๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง
3.เตรียมน้ำอบสำหรับสรงน้ำพระ
เตรียมน้ำสะอาดใส่ขันใบใหญ่ ใส่เครื่องหอมลงไป เช่น น้ำหอม น้ำอบ น้ำปรุง จากนั้นใส่ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม สีสันสวยงาม เช่น มะลิ กุหลาบ ดาวเรือง เป็นต้น และเตรียมขันใบเล็กไว้สำหรับตักน้ำสรงองค์พระ
4.จัดเรียงองค์พระและประดับโต๊ะด้วยดอกไม้
เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วให้ปูผ้าขาวบางหรือผ้าสะอาด แล้วนำองค์พระจัดเรียงไว้บนโต๊ะเพื่อเตรียมทำการสรงน้ำ ประดับตกแต่งโต๊ะด้วยดอกไม้ให้สวยงาม
5.ทำการสรงน้ำพระ และสวดมนต์
คำกล่าวสรงน้ำพระพุทธรูป
ตั้งนะโม 3 จบ และกล่าว "อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง"
แปลว่า เดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์โศกโรคภัยพาล อันตรธาน เป็นสุข เทอญ
หลังจากนั้นให้กล่าวคำอธิษฐาน และทำการสรงน้ำพระด้วยน้ำปรุง น้ำอบกับน้ำสะอาด และดอกไม้ที่เตรียมไว้
6.ย้ายองค์พระกลับสู่โต๊ะหมู่บูชา
หลังเสร็จพิธีทุกคนในบ้านรดน้ำครบแล้ว ให้นิมนต์ท่านกลับไปวางที่จุดเดิม เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี