เปิดประวัติ "เอกพจน์ วงศ์นาค" อดีตลูกทุ่งดัง หลังตกเป็นข่าวใช้ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง รว่มมือกับ ผอ.กองช่าง เรียกรับค่าถมที่ดิน 3 ล้านบาท
นายเอกพจน์ ปานแย้ม นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ใช้ชื่อในวงการลูกทุ่งว่า "เอกพจน์ วงศ์นาค" เป็นศิลปินที่โด่งดังสุดๆ ในยุค 90 เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ออกเดินสายร้องเพลงลูกทุ่งไปตามที่ต่างๆ พร้อมกับเรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ไปด้วย บทเพลงที่สร้างชื่อ จนกลายเป็นเพลงอมตะนิรันดร์กาล คือเพลง ทหารเกณฑ์คนจน ที่ขึ้นต้นใครๆ ก็ร้องได้คือ "ฝึกอีกแล้วหนอเรา ตั้งแต่เช้ายันค่ำ..."
ในปลายปี พ.ศ. 2539 เอกพจน์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี บ้านเกิด และได้รับการเลือกตั้ง กลายมาเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกที่ได้เป็น ส.ส. จากนั้น เอกพจน์ได้ศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาตรีที่สถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งอีก ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 ได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้รับการเลือกตั้งอีก และในการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 ได้ลงเลือกตั้งอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ใน จ.ปทุมธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางเมือง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
จากนั้นเอกพจน์ได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยเขาเป็นหัวหน้าทีม "เพื่อนเอกพจน์" และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้รับเลือกตั้ง
ล่าสุด วานนี้ (3 พ.ค.66) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ช., ป.ป.ท. และ ป.ป.ง. รวบ "เอกพจน์" อดีตลูกทุ่งดัง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง และ นายสถิต ผอ.กองช่าง เรียกรับค่าถมที่ดิน 3 ล้านบาท สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบการได้ไปติดต่อที่เทศบาลเพื่อขออนุญาตถมดิน โดยค่าธรรมเนียมทั่วไป เป็นจำนวนเงิน 500 บาท แต่นายเอกพจน์ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง เจ้าพนักงานเป็นผู้ออกใบอนุญาต ได้เรียกรับเงินจากผู้เสียหายลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท ผู้เสียหายได้จ่ายเงินไปแล้ว 500,000 บาท โดยผ่านนายสถิตย์ ผอ.กองช่างฯ และได้มีการนัดหมายจ่ายเงินอีก จำนวน 500,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ให้ผู้เสียหายนำเงินสด จำนวน 500,000 บาท ซึ่งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว นำมามอบให้นายสถิตย์ ที่ห้องทำงานเทศบาลฯ และเมื่อผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้นายสถิตย์ทราบ ต่อมานายเอกพจน์ ได้เดินทางเข้ามาพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายเอกพจน์ทราบ และนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพิจารณาตามกฎหมาย
โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” มาตรา 157