"บิ๊กโจ๊ก" เตรียมส่งสํานวน 15 คดีให้อัยการ เผยสอบ "แอม" เพิ่มในเรือนจํา 18 พ.ค. ยันสํานวนทั้งหมดมีรัดกุม ไม่ได้รอให้แอมรับสารภาพทั้งหมด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เผยถึงความคืบหน้าในคดีของนางสรารัตน์ หรือแอมไซยาไนด์ ว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา รองอ๊อฟ อดีตสามีของนางสรารัตน์ หรือ แอม เพิ่มเติมในเรื่องของ "การทําลายพยานหลักฐาน"
โดยในวันนี้พรุ่งนี้ พล.ต.อ.สรุเชษฐ์ เปิดเผยว่า จะนําทีมพนักงานสอบสวนทั้งหมด เดินทางไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อสอบปากคําแอม ในประเด็นที่แอมเคยรับสารภาพในข้อเท็จจริงต่างๆเพิ่มเติม ซึ่งวานนี้ได้มีการสอบพยานเพิ่มจํานวน 7 ปาก เป็นบุคคลที่แอมเคยให้การ ซึ่งปรากฏว่าไม่ตรงกันกับที่แอมพูด เช่นเรื่องที่มาของสารไซยาไนด์นั้น ไม่ตรงกัน แต่ไม่เป็นที่น่ากังวลใดๆ เพราะทางตํารวจไม่ได้รอให้แอมรับสารภาพทั้งหมด ให้การแค่ไหนก็แค่นั้น และในการฝากขังครั้งที่ 3 จะเร่งส่งสํานวนทั้ง 15 สํานวนให้กับอัยการทั้งหมด และขอยืนยันว่าเป็นสํานวนทั้งหมดมีความละเอียดและรัดกุม เนื่องจากเป็นมีกองบังคับการปราบปรามและตํารวจภูธรภาค 7 ร่วมกันดําเนินการ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุต่ออีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงเรื่องที่มาของสารไซยาไนด์ว่ามาจากไหนและได้มาอย่างไร ส่วนเงินจํานวน 78 ล้าน ตรวจสอบเส้นทางเงินแล้วพบว่ามาจากเว็บพนันทั้งหมด ซึ่งชี้ให้เห็นขัดว่าแอมนั้นติดการพนัน และหลังจากนี้จะต้องมีการดําเนินคดีในส่วนของพนันออนไลน์ด้วย
ส่วนคดีนี้จะโยงไปถึงกระทรวงอุตสาหกรามหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตอนนี้ได้มีการคัดกรองโรงงานทั้ง 700 กว่าโรงงานเหลือเพียง 10 กว่าโรงงาน ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบว่าทางกระทรวงอุตสาหกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพื่อให้เป็นบทเรียนราคาแพงกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปล่อยปะละเลยในการควบคุมและดูแลสารไซยาไนด์ ซึ่งหากผิดก็ต้องรับผิดชอบและถูกดําเนินคดี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สํางานตํารวจแห่งชาติ โดยนิติวิทยาศาสตร์ ทํางานร่วมกับนายวีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด เพื่อตรวจสอบในเรื่องของสารต่างๆ ซึ่งผลตรวจออกแล้วพบมีความเชื่อมโยงกับของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน โดย อ.อ๊อด เป็นผู้เชี่ยญชาญที่ศาลแต่งตั้งขึ้น ก็จะต้องขึ้นศาลด้วย และ อ.อ๊อด ทําเพื่อสังคมไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
