“ธนาธร” โพสต์เฟซบุ๊ก การันตีความสามารถ “ศิริกัญญา” พรรคก้าวไกล จะเป็น ขุนคลังที่ดี ชูเป็นคนที่รอบรู้เรื่อง งบประมาณ- การคลังดีที่สุดแล้ว
วันที่ 31 พ.ค. 66 นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงของ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความลงเพจเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ภายหลังมีการคาดการณ์ว่า น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะมาดำรงตำแหน่งเป็น รมว.คลังว่า
“ศิริกัญญา ที่ผมรู้จัก เธอจะเป็นรัฐมนตรีคลังที่ดี สมัยตั้งพรรคอนาคตใหม่ หนึ่งในเรื่องปวดหัวของผม คือการเสาะหาผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้อำนวยการนโยบายของพรรค สัมภาษณ์ไปหลายคน จนเพื่อนในแวดวงวิชาการคนหนึ่งแนะนำคุณไหมให้ผมรู้จัก”
“การทำงานในช่วงแรกระหว่างผมกับคุณไหม ไม่ราบรื่นเท่าใดนัก เราทะเลาะถกเถียงกันทุกเรื่อง ตั้งแต่ระดับปรัชญา จนถึงวิธีขั้นตอนการนำนโยบายไปปฏิบัติจริง กว่าเราจะปรับตัวเข้าหากันได้ ใช้เวลาหลายเดือน หลังจากนั้นเราทำงานด้วยกันอย่างสนุก แต่ก็ยังทะเลาะถกเถียง แทบเป็นแทบตายกันประจำ ผมประทับใจในความรอบรู้ของเธอเสมอ โดยเฉพาะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐและการใช้งบประมาณ”
“ทุกครั้งที่มีการประชุมเกี่ยวกับนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณ ผู้เข้าร่วมประชุมจะหันหน้าไปทางที่เธอนั่ง เพื่อขอความเห็นเสมอ ผมมั่นใจว่าใน ส.ส. 500 คนของสภาผู้แทนราษฎรชุด 2562 ศิริกัญญามีความเข้าใจในการจัดทำงบประมาณ ทั้งระดับภาพรวมและระดับรายละเอียดมากที่สุดคนหนึ่ง”
“พรรคการเมือง คือการประสานความต้องการที่หลากหลาย และทุกความต้องการใช้งบประมาณ เธอเป็นผู้แตะเบรค เตือนสติเพื่อนเสมอถึงการรักษาสมดุลระหว่างการใช้เงินในนโยบายต่างๆ กับการรักษาเสถียรภาพการคลังในระยะยาว เธอทำหน้าที่ประสานงานระหว่างกลุ่มความต้องการต่างๆ ได้อย่างดี นโยบายพรรคจึงสะท้อนตัวตนของพรรคไว้ได้ โดยไม่ต้องผลักใครออกไป”
“เธอคือเสียงของเหตุผล เมื่อมีเพื่อนในพรรคตัดสินใจด้วยการใช้การเมืองนำความเหมาะสมด้านนโยบายและการคลัง เธอจะปรามการกระทำแบบนี้อย่างหนักแน่นเสมอนอกจากนี้ 4 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นเธอเติบโต ทั้งด้านความรู้และความมีวุฒิภาวะ การนั่งในกรรมธิการงบประมาณติดต่อกัน 4 ปี ทำให้เธอเห็นทุกมิติของทุกกระทรวง ผมได้มีโอกาสนั่งกับเธอสองปี และกล่าวได้ว่า เธอเป็นกรรมาธิการที่เข้าประชุมมากที่สุดคนหนึ่ง และลงรายละเอียดในทุกกระทรวงจนได้รับคำชมจากข้าราชการมากมาย”
“ในฐานะผู้อำนวยการนโยบายของพรรค เธออ่านกฎหมายทุกฉบับก่อนที่จะเข้าพิจารณาในสภา เธอเป็นคนอธิบายรายละเอียดให้คนอื่นในพรรคเข้าใจถึงสาระของกฎหมายแต่ละฉบับเสมอ จุดยืนทางเศรษฐกิจและทางการเมืองที่แตกต่างหลากหลายในสังคม เป็นเรื่องธรรมชาติ คุณไหมอาจจะมีจุดยืนไม่ตรงกับบางท่าน ทำให้มีการออกมาวิจารณ์เธอ นั่นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสังคมประชาธิปไตย ที่ถกเถียง วิจารณ์ แลกเปลี่ยนกันได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอขาดความรู้ จากประสบการณ์ของผมในการทำงานการเมืองมา 5 ปี ผมกล้ายืนยันว่าเธอรู้จริงแน่นอน”
“เมื่อพรรคก้าวไกลมีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สังคมตั้งคำถามกับเธออย่างมากว่าจะหารายได้เข้ารัฐอย่างไร รายได้เข้ารัฐมาจากภาษี ภาษีมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กิจกรรมทางเศรษฐกิจกระทำขึ้นโดยมนุษย์ จะสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตแข็งแรง ต้องทำให้คนมั่นคงในชีวิต เมื่อคนมีความมั่นคงจึงจะสามารถวางแผนชีวิต เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน กล้าไล่ตามความฝัน กล้าไขว่คว้าโอกาส และกล้าล้มเหลว ศิริกัญญาเข้าใจดีถึงเรื่องนี้ เธอนำเสนอกับผมและเพื่อนในพรรคอย่างสม่ำเสมอถึงการสร้างบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมของประเทศ ที่เอื้อให้ผู้คน -ทั้งเล็กและใหญ่- กล้าตัดสินใจลงทุน มากกว่าการที่รัฐไปเป็นผู้เล่นทางเศรษฐกิจเสียเอง”
“การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง คือการบ่มเพาะคน ปลดปล่อยศักยภาพมนุษย์ จัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ ธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมในการแข่งขัน ลงทุนในเทคโนโลยี สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการลงทุน มากกว่านโยบายใดนโยบายหนึ่งเป็นการเฉพาะ หวยใบเสร็จ ข้างหน้าคือส่งเสริมให้คนซื้อของจากผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ข้างหลังคือการดึงผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีและเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐ ระบบรถเมล์ไฟฟ้าดีทุกจังหวัด ข้างหน้าคือการสร้างระบบขนส่งมวลที่ดีให้ประชาชน ข้างหลังคือการสร้างงาน สร้างอุตสาหกรรมรถเมล์ไฟฟ้าที่คนไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีเอง”
“ลดค่าไฟทันที 70 สตางค์ ข้างหน้าคือการช่วยเหลือดูแลประชาชน ข้างหลังคือการเปลี่ยนวิธีจัดสรรการใช้ก๊าซธรรมชาติให้เป็นธรรม และการลดการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ การสร้างสวัสดิการ ข้างหน้าคือการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ข้างหลังคือการจัดทำงบประมาณใหม่ ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น และนำมาใช้เพื่อปลดปล่อยศักยภาพของผู้คน ผลิตสมาร์ทมิเตอร์น้ำและไฟในประเทศ ข้างหน้าคือการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาจัดการเมือง ข้างหลังคือการสร้างอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ วันหน้าเราจะได้มีงานทำ มีเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ”
“กล่าวโดยย่อคือ ระยะสั้น เราต้องการนโยบายรายประเด็นเพื่อแก้ปัญหา ระยะยาว เพื่อพาเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า เราต้องปฏิรูปรัฐ มากกว่านโยบายรายตัว นโยบายของพรรคก้าวไกลในภาพรวม จึงทรงพลังมากกว่านโยบายรายประเด็นต่างๆ มาบวกกัน นี่คือนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวระหว่างระยะสั้นและระยะยาว ระหว่างความทะเยอทะยานในเป้าหมาย กับการตระหนักถึงความเป็นจริง นโยบายที่สมบูรณ์กว่าสมัยอนาคตใหม่ และมันเกิดจากความรู้ เจตจำนงแน่วแน่ และความเป็นผู้นำของ ศิริกัญญา ตันสกุล
